วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

'กมธ.มั่นคง' เรียก รมว.ดีอีเอส - 5หน่วยงานรัฐ แจงปมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทายึดเมืองชายแดนเป็นฐานที่มั่นหลอกคนไทย “รังสิมันต์” หวังรัฐบาลไม่ปล่อยให้ทรัพยากรของชาติถูกใช้โดยธุรกิจสีเทา

 


'กมธ.มั่นคง' เรียก รมว.ดีอีเอส - 5หน่วยงานรัฐ แจงปมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทายึดเมืองชายแดนเป็นฐานที่มั่นหลอกคนไทย “รังสิมันต์” หวังรัฐบาลไม่ปล่อยให้ทรัพยากรของชาติถูกใช้โดยธุรกิจสีเทา


วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเข้าประชุมคณะกรรมาธิการฯ โดยมีวาระสำคัญคือการเชิญหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางแก้ปัญหาธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาและไทย-ลาว ที่มีความเชื่อมโยงกับการใช้ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทย


รังสิมันต์ระบุว่า การประชุมวันนี้เป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตากของคณะกรรมาธิการฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อศึกษาปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าวันนี้ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นแบตเตอรี่ให้กับทุนจีนสีเทา โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งบริษัทไทยที่รับสัญญาสัมปทานอาจจะมีความเกี่ยวข้องไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมกับธุรกิจสีเทา และจากข้อมูลเพิ่มเติมที่ตนได้รับมา อาจจะมีการเซ็นสัญญาโครงข่ายไฟฟ้าที่บริษัทไทยได้รับเงินไปแล้วด้วย ปัจจุบันเมืองชเวโกะโก ประเทศเมียนมาเป็นฐานปฏิบัติการใหญ่ของกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ยังต้องพึ่งพาการใช้น้ำมันในการปั่นไฟ หากการส่งไฟฟ้าจากฝั่งไทยไปยังเมืองชเวโกะโกเกิดขึ้นได้จริง ธุรกิจสีเทาเหล่านี้จะดำเนินไปโดยสะดวกมากขึ้น


รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่า เรื่องของสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน จากการลงพื้นที่พบว่ามีเสาที่ส่งสัญญาณไปยังฝั่งเมียวดีราว 60 เสา บางเสายังทำงานได้อยู่ คำถามคือจะมีการรื้อเสาสัญญาณเหล่านี้ทิ้งหรือไม่ หรือจะยังคงปล่อยให้มีการส่งสัญญาณข้ามฝั่งเช่นนี้ต่อไป วันนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ จึงได้เรียก กสทช.และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเข้ามาพูดคุยด้วย


ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการฯ มีการพูดคุยกับรัฐบาลบ้างแล้ว วันนี้จึงได้เชิญเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และปลัดกระทรวงการต่างประเทศมาหารือเพิ่มเติมด้วย โดยย้ำว่าเรื่องนี้รัฐบาลก็ทราบดี เพราะเคยมีการพูดคุยในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ก็รับปากว่าจะให้ความสำคัญ แต่วันนี้ความคืบหน้าเกิดขึ้นน้อยมาก และมีข่าวว่าอาจจะมีการพิจารณาให้สัมปทานต่อไฟไปยังฝั่งชเวโกะโกด้วยซ้ำ 


“ผมอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้ดี เพราะการปล่อยให้ธุรกิจเหล่านี้เดินต่อไปจะสร้างปัญหาให้กับคนไทยอย่างแน่นอน มันกลายเป็นว่าประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญต่อกลุ่มธุรกิจสีเทาเหล่านี้ เพื่อให้มาหลอกลวงคนไทยผ่านสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์” รังสิมันต์กล่าว


เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความพึงพอใจในการปราบปราบกลุ่มทุนสีเทาที่ผ่านมาของรัฐบาล รังสิมันต์ระบุว่า มีบางส่วนที่น่าพึงพอใจ เช่นกรณีนครศรีธรรมราชที่มีการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ แม้จะยังขยายผลจับตัวการใหญ่ไม่ได้ แต่ในส่วนที่อยู่บริเวณชายแดนต่างประเทศยังแทบไม่เห็นความคืบหน้าเท่าที่ควร แม้ กสทช.จะแถลงอย่างเข้มแข็งขัน แต่ผลในทางปฏิบัติยังน้อย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ แก๊งค์จีนเทา #กมธความมั่นคง #รังสิมันต์โรม