วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

"หมอชลน่าน" ยัน สธ.ควบคุม "โควิด" ได้ วอน ปชช.อย่าตื่นตระหนก สถานการณ์ควบคุมได้ กรมควบคุมโรคเตือนแล้วจำนวนผู้ป่วยพุ่งหลังสงกรานต์

 


“หมอชลน่าน” ยัน สธ.ควบคุม “โควิด” ได้ วอน ปชช.อย่าตื่นตระหนก สถานการณ์ควบคุมได้ กรมควบคุมโรคเตือนแล้วจำนวนผู้ป่วยพุ่งหลังสงกรานต์


วันที่ 24 เมษายน 2567 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฝากถึงประชาชนอย่าตื่นตระหนกถึงข่าวสารเกี่ยวกับโควิด และขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น


โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวต่อว่า นพ.ชลน่านมีความห่วงใยประชาชนต่อสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตาม พรบ.โรคติดต่อ แต่ยังไม่มีรายงานการระบาดรุนแรง และที่ผ่านได้มีการสั่งการสธ.ทุกจังหวัดประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อม กำชับทุกหน่วยงานดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง รอบสัปดาห์ล่าสุด (วันที่ 14 – 20 เมษายน 2567) ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,004 ราย เฉลี่ยวันละ 143 ราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามรายงานของกรมควบคุมโรคว่าหลังสงกรานต์จะพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจากการเล่นน้ำสงกรานต์ พื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากขึ้นคือ กรุงเทพ ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยวหลายแห่ง คาดว่าเป็นเพราะส่วนใหญ่มีอาการเหมือนไข้หวัด ทำให้ไม่ระวังป้องกันตนเอง จึงเกิดการแพร่เชื้อมากขึ้น ทั่วประเทศมีผู้ป่วยอาการรุนแรง ปอดอักเสบ 292 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 101 ราย และเสียชีวิต 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทุกรายเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคเรื้อรังซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยง


จากการติดตามเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในประเทศไทย ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่ายังคงเป็นสายพันธุ์รุ่นลูกของโอมิครอน โดยผู้ป่วยจะมีลักษณะอาการคล้ายหวัด เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อย ตามตัว ปวดศีรษะ มีน้ำมูก โดยยังไม่พบว่ามีระดับความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์โอมิครอนเดิมในปีที่ผ่านมา


นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า โรงพยาบาลหรือสถานที่พยาบาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เป็นข่าว ประชาชนทั่วไปสามารถป้องกันได้ ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่แออัดที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น รถสาธารณะ โรงพยาบาล สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ หากมีอาการคล้ายหวัด ตรวจ ATK ผลเป็นบวก ให้กินยารักษาตามอาการ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ถ้าอาการมากขึ้นให้ไปพบแพทย์ กลุ่มเสี่ยง 608 (ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง) หากมีอาการคล้ายหวัด ตรวจ ATK เป็นบวก 2 ขีด ควรสวมหน้ากากอนามัยและรีบพบแพทย์รับการรักษา เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการรุนแรง โรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมทั้งด้านบุคคลากรทางการแพทย์ เตียงรองรับผู้ป่วย เวชภัณฑ์ ตลอดจนมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างดี  ขอประชาชนอย่าได้วิตกกังวลหรือตื่นตระหนก กระทรวงสาธารณสุขพร้อมดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กระทรวงสาธารณสุข #โควิด19