วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567

'พิธา' ถึงเชียงใหม่ ลุยแก้ไฟป่าพร้อมภาคประชาสังคม ชี้ไม่ใช่เวลามาวัดพลังการเมือง ย้ำวิกฤตของประชาชนเชียงใหม่สำคัญกว่า

 


'พิธา' ถึงเชียงใหม่ ลุยแก้ไฟป่าพร้อมภาคประชาสังคม ชี้ไม่ใช่เวลามาวัดพลังการเมือง ย้ำวิกฤตของประชาชนเชียงใหม่สำคัญกว่า

 

วันที่ 16 มีนาคม 2567 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค และ พูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ เดินทางถึงจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาติดตามการทำงานแก้ไขปัญหาไฟป่ากับหน่วยงานและภาคประชาสังคม พร้อมกับ สส. เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล

 

เมื่อมาถึงสนามบินเชียงใหม่ พิธาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวว่า วันนี้จะไปเจออาสาดับไฟป่าของมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งเคยได้พูดคุยกันตั้งแต่ครั้งลงพื้นที่ดูปัญหาน้ำท่วมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และก่อนหน้านี้ก้าวไกลก็ได้เปิดตัวทีมก้าวไกลสู้ไฟป่า ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก็เพิ่งลงพื้นที่ การทำงานจึงมีความต่อเนื่อง มาวันนี้เพราะอยากลงพื้นที่เห็นหน้างาน จะเข้าไปกับคนที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ให้รบกวนหรือเสียเวลาของคนทำงาน

 

จากนั้นสื่อมวลชนสอบถามประเด็นการเมือง ว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะถูกเปรียบเทียบกับอดีตนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่เชียงใหม่เหมือนกันหรือไม่ พิธากล่าวว่า ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาเปรียบเทียบกัน เรามองปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง ข้อมูลเห็นชัดกันอยู่ว่าปีนี้สถานการณ์หนักมาก

 

เรามาทำงานในฐานะฝ่ายค้าน เป็นผู้แทนราษฎรก็ต้องพูดแทนราษฎร ซึ่งจะพูดได้ก็ต้องเห็นกับตา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวัดพลัง สิ่งที่คิดคือเราจะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เร็วที่สุดอย่างไร และถอดบทเรียนอย่างไรเพื่อให้ปีหน้าเวลาเดิม ปัญหาทุเลาลงกว่านี้

 

เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่จะถูกกระแสโจมตี พิธากล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้คือสถานการณ์ฝุ่นของเชียงใหม่แย่ที่สุดในโลก ก้าวไกลมี สส.เชียงใหม่ จำนวน 7 จาก 10 คนที่ดูแลพื้นที่ และพรรคก้าวไกลมี สส. เป็นประธานคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เราต้องทำหน้าที่ เอาปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาใครเป็นตัวตั้ง

 

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยหรือไม่ พิธากล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน วันนี้มาดูปัญหาไฟป่าเพราะเป็นเรื่องฉุกเฉินจริงๆ มี สส. ที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมคือคุณพูนศักดิ์มาด้วย จะได้เห็นข้อมูลเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152

 

เมื่อถามว่า มีคนมองว่าการที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหว ทำให้กระแสของพรรคก้าวไกลทำงานยากขึ้นหรือลดลง พิธากล่าวว่า ไม่ได้คำนึงถึงกระแส เราทำงานให้เต็มที่เพราะวาระสำคัญมีเยอะ วิกฤตของเชียงใหม่ในตอนนี้สำคัญมากกว่ากระแสของพรรคก้าวไกล ตอนนี้ตนและพรรคก้าวไกลจะทำงานทุกวันให้ดีที่สุด

 

ต่อกรณีการเตรียมความพร้อมสู้คดียุบพรรคในศาลรัฐธรรมนูญ พิธากล่าวว่ามีทีมกฎหมายเตรียมความพร้อม ไม่มีความกังวล เราต้องเตรียมการทำงานล่วงหน้า การทำงานของพรรคก้าวไกลเหมือนการเขียนหนังสือที่มีหลายบท แต่เรื่องอุดมการณ์ ปณิธาน นโยบายที่พี่น้องประชาชนมอบความไว้วางใจให้ 14 ล้านเสียง เดินหน้าต่อแน่นอน ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีพรรคก้าวไกล จะมีหรือไม่มีตนก็ตาม

 

เมื่อถามถึงความมั่นใจของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พิธากล่าวว่า คะแนนเสียงหรือการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นสิ่งที่ยังไกลพอสมควร แต่สิ่งที่ไม่ลืมคือการเลือกตั้งที่ผ่านมา คนเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะ 81% เลือก สส. พรรคก้าวไกล 7 จาก 10 คน สะท้อนว่าพวกเขารอการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราอาจไม่ได้มองอนาคตเท่าปัจจุบัน เราไม่ลืมความไว้วางใจที่พี่น้องชาวเชียงใหม่เคยให้พรรคก้าวไกล ตอนนั้นที่ท่านให้ความไว้วางใจเรามาเป็นอย่างไร หลังจากที่ท่านให้ความไว้วางใจมาแล้วก็ยังเหมือนเดิม ยิ่งตอกย้ำว่าทำไมหัวหน้าพรรคและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องมาเชียงใหม่ในช่วงเวลาที่เขาลำบากมากที่สุด

 

ทั้งนี้ ในช่วงเย็น พิธาและทีมจะเดินทางไปสักการะบูชาวัดฝายหิน จ.เชียงใหม่ จากนั้นร่วมพูดคุยแจกลายเซ็นหนังสือ ‘ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน’ ฉบับปรับปรุงและพิมพ์ใหม่ ที่ร้านเล่า ถ.นิมมานเหมินทร์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #ไฟป่า #เชียงใหม่