วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567

“ดีอี” ปราบบัญชีม้า - ซิมม้า อื้อ! 4 เดือน (พ.ย.66 - ก.พ.67 ) อายัดบัญชี ปกป้องผู้เสียหายไปแล้วมากกว่า 3 พันล้าน “ประเสริฐ” สั่งปรับปรุงระเบียบและกฎหมายเปิดทางเร่งคืนเงินผู้เสียหาย

 


“ดีอี” ปราบบัญชีม้า - ซิมม้า อื้อ! 4 เดือน (พ.ย.66 - ก.พ.67 ) อายัดบัญชี ปกป้องผู้เสียหายไปแล้วมากกว่า 3 พันล้าน  “ประเสริฐ” สั่งปรับปรุงระเบียบและกฎหมายเปิดทางเร่งคืนเงินผู้เสียหาย


วันที่ 5 มีนาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาว่า  ที่ประชุมได้หารือและพิจารณา เรื่องสำคัญ คือ 1. การจัดการ ซิมม้า ดำเนินมาตรการที่สำคัญ ซึ่งมีผลดังนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการระงับซิมที่มีการโทรออกเกิน 100 ครั้งต่อวัน ตั้งแต่ 9 ธ.ค. 2566 - 29 ก.พ. 2567 และระงับการใช้ซิม และให้มายืนยันตัวตน จำนวน 29,446 ซิม โดยมีผู้มายืนยันตัวตน 265 หมายเลข ทั้งนี้สำนักงาน กสทช. กำหนดการยืนยันตัวตนของผู้มีซิมเกิน 100 หมายเลข ที่ครบกำหนดยืนยันตัวตนหรือลงทะเบียนให้ถูกต้อง ภายในวันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมีซิมเข้าข่ายจำนวน 5.07 ล้านหมายเลข มีผู้ไม่มายืนยันตัวตน 2.5 ล้านหมายเลข ซึ่งจะถูกการระงับการให้บริการ ขณะที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการจับกุมผู้ขายซิมม้า 5 ราย SIM CARD จำนวน 4,428 ซิม


สำหรับการจัดการบัญชีม้า ได้ดำเนินมาตรการสำคัญและมีผลดังนี้  AOC 1441 ได้ช่วยอายัดบัญชี ให้ผู้เสียหาย 1 พ.ย. 66 - 29 ก.พ. 67 จำนวน 57,861 บัญชี ขณะที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมผู้ขายบัญชีม้า 51 ราย พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร 1,113 บัญชี ในส่วนของการจัดทำมาตรการป้องกันไม่ให้การเปิดบัญชีใหม่และนำไปใช้ก่ออาชญากรรมหรือนำไปทำเป็นบัญชีม้า ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยและ สำนักงาน ปปง. รับไปหารือต่อ


ด้านการเร่งรัดอายัดเงินบัญชีม้านั้น ข้อมูลจากตำรวจไซเบอร์ ช่วงวันที่ 1 พ.ย. 2566 - 29 ก.พ. 2567 ได้ขออายัดบัญชีม้า วงเงิน 7,097.2 ล้านบาท และอายัดได้ทัน 3,334.1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47.0 เพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับก่อนมีศูนย์ 1441 ที่อายัดได้ทัน ร้อยละ 11 (วันที่ 1 มี.ค. 2565 - 30 ก.ย. 2566 อายัดทัน 1,316 ล้านบาท จากการขออายัด 11,252 ล้านบาท)


สำหรับการเร่งดำเนินการคืนเงินให้ผู้เสียหายนั้น ปัจจุบันยังมีขั้นตอนมากและใช้เวลานาน ดังนั้นเพื่อให้การคืนเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงได้ขอให้อนุกรรมการด้านกฎหมายเสนอแนวทาง รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว


นอกจากนี้ในส่วนของการปิดกั้น เว็บเพจ ผิดกฎหมาย ในปีงบประมาณ 2567 ช่วงระยะเวลา 5 เดือน (ต.ค. 66 - ก.พ. 67) ปิดกั้นไปทั้งสิ้น 57,056 url/รายการ เพิ่มขึ้น 12.8 เท่า จากปีงบประมาณ 2566 (ต.ค. 65 - ก.พ. 66) ที่ปิดกั้น 4,449 urs/รายการ ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2567 ช่วงระยะเวลา 5 เดือน (ต.ค. 66 - ก.พ. 67) ปิดกั้นเวบพนันไปทั้งสิ้น 24,352 url เพิ่มขึ้น 37.6 เท่า จากปีงบประมาณ 2566 (ต.ค. 65 - ก.พ. 66) ที่ปิดกั้นไปเพียง 648 urs


“วันนี้ เรื่องที่สำคัญของการประชุมคือ การติดตามการปราบปรามบัญชีม้า ซิมม้า และการเร่งรัดการอายัดเงินรวมทั้งการคืนเงินให้ผู้เสียหาย พบว่า ศูนย์ 1441 ตั้งแต่เริ่มดำเนินการได้ช่วยอายัดเงินให้ผู้เสียหายได้มาก ระยะ 4 เดือนที่ผ่านมานี้ (พ.ย. 66 - ก.พ. 67) อายัดทัน 47% และในบางเดือน เช่น ม.ค. 67 อายัดได้ทันถึง 57%  แต่การคืนเงินให้ผู้เสียหาย ถึงแม้ได้คืนเงินไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่รวดเร็วเท่าที่ควร จึงได้สั่งการ และกำชับให้ เร่งปรับปรุงกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าว


สำหรับการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2567 นั้น นายประเสริฐ เป็นประธานการประชุม โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดีอี ในฐานะเลขานุการและคณะกรรมการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กสทช. สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ สมาคมธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าร่วมประชุม


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กระทรวงดีอี #อาชญากรรมทางเทคโนโลยี