'ทิชา ณ นคร' พร้อมนักกิจกรรม ประชาชน ยื่นคำแถลงถึงศาลอาญาพิจารณาทบทวนคำสั่งอนุญาตฝากขัง ”ตะวัน-แฟรงค์“ คดี ม.116 ขอผู้พิพากษา ชักฟืนออกจากกองไฟ ก่อนที่จะสูญเสียมากไปกว่านี้ ด้านพ่อตะวัน ยื่นประกันอีกครั้ง ก่อนศาลยกคำร้องไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
วันนี้ (10 มี.ค. 67) ที่ศาลอาญา รัชดา ทิชา ณ นคร อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน ยื่นคำแถลงขอให้ศาลพิจารณาทบทวนคำสั่งอนุญาตฝากขัง นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร แฟรงค์ ผู้ต้องหา คดี ม.116 ที่พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง มายื่นคำร้องขอฝากขังผัดที่ 3 เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 67 และศาลรับคำร้อง พร้อมด้วยนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ และกลุ่มนักกิจกรรม สวมเสื้อสีขาว ร่วมให้กำลังใจ
ทิชา กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักโทษในเรือนจำมากกว่า 2.5 แสนคน โดย 80% เป็นนักโทษเด็ดขาดไปแล้ว และ 20% อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีและไม่ได้ประกันตัว และมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าใน 20% ที่ไม่ได้ประกันตัวศาลยกฟ้อง แสดงให้เห็นว่า เราได้ขังคนจำนวนหนึ่งในเรือนจำ โดยที่ไม่มีความผิด ทำให้คนเหล่านั้นต้องคำนวณวันเวลาอิสรภาพที่เสียไป โอกาสในการทำมาหากิน ซึ่งอยู่ในระหว่างการต่อสู้คดี และที่สำคัญยังไม่นับค่าใช้จ่ายของทางเรือนจำที่ทุกวันนี้มีค่าใช้จ่ายต่อวัน 20 ล้านบาท
ดังนั้น ในหนึ่งปีเรือนจำจะมีค่าใช้จ่ายกว่า 7,200 ล้านบาท โดยราคาที่ต้องจ่ายแบบนี้มากเกินพอแล้ว ที่เราจะต้องคิดระบบที่ดีให้ไปแก้ไข และที่สำคัญรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าสิทธิในการประกันตัว เป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญรองรับไว้แล้ว แต่เรากลับให้คนจำนวนหนึ่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำถึง 20% ทั้งหมดนี้ สะท้อนว่าการต่อสู้ของตะวัน แฟรงค์ รวมถึงบุ้ง เขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวของเขาเอง แต่เขากำลังตั้งคำถามกับระบบที่เกิดก่อนเขา และวันนี้เค้าเป็นแค่เด็กที่เกิดตามหลังมาเท่านั้นและเขา ก็สงสัยกับระบบแบบนี้
ทิชา กล่าวต่อว่า คำถามนี้จึงเป็นคำถามที่ใหญ่มาก และตบหน้าพวกเราที่เกิดก่อน ว่าเราไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย จนกระทั่งมีคนจำนวนหนึ่งต้องจ่ายแพง เพื่อสิทธิและเสรีภาพ ดังนั้น ระบบกระบวนการยุติธรรมกำลังเข้าสู่วิกฤติศรัทธา จึงเป็นเรื่องที่พวกเรา คนข้างนอกที่อยู่กับเสรีภาพต้องไม่อยู่เฉย ๆ เพราะเขาไม่ได้สู้เพื่อตัวเขาเอง
“ถ้าคิดว่าการอดอาหารเป็นการตัดสินใจของเด็กสามคนเอง แล้วถ้าอยากสาปแช่งเด็กสามคนนั้นให้ตายไปซะ ติดคุกไปเลย แล้วถ้าหากรู้สึกว่าเกรี้ยวกราดกับการอวดดีการท้าทายอำนาจรัฐของเด็กสามคนนั้น เราก็อยากบอกกับคุณว่า คุณกำลังลดทอนคุณค่าทางกฎหมายของรัฐธรรมนูญของประเทศนี้ ใครจะรู้ว่า ถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่ถูกออกแบบมาอย่างดี ชะตากรรมนั้นจะเป็นของลูกหลานคุณ ของคนที่คุณรัก เพราะเด็กสมัยใหม่ ไม่ได้ดาวน์โหลดความรู้จากห้องเรียนหอสมุดแห่งชาติ แต่ดาวน์โหลดจากโลกใบนี้ทั้งใบ เขาอาจจะไม่เหมือนกับเราในวันที่เป็นเด็ก แม้จะมีการเคลื่อนไหวเหมือนกัน ซึ่งสักวันนึงอาจเป็นลูกคุณก็ได้ ที่จะเจอกับกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม“ ทิชา กล่าว
ทิชา ระบุว่า “ ความเด็ดเดี่ยวของเด็กทั้งสามคนกำลังเข้าสู่สัญญาณที่เป็นอันตราย ซึ่งทำให้คนที่อยู่ข้างนอกไม่อาจจะอยู่เฉยได้ เรามีประวัติศาสตร์บาดแผลมากมายแล้วในประเทศนี้ และนี่ก็มาถึงทางแยกอีกครั้งหนึ่งที่เราจะสร้างประวัติศาสตร์บาดแผลหน้าใหม่ หรือจะเปลี่ยนวิกฤตินี้ให้เป็นระบบที่เหมาะสม และเราอยู่ร่วมกันได้
“การที่มองว่าเขาไม่น่ารัก ไม่มีมารยาท แต่คำถามคือว่าการใช้กฎหมายแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ในวันที่คุณเคยเป็นเด็ก คุณน่ารักทุกวันใช่ไหม คำตอบคือไม่ใช่ ลูกคุณที่อยู่ในบ้านตอนนี้มันน่ารักทุกวันใช่หรือไม่ คำตอบคือมันไม่ใช่ และการลงโทษด้วยการตั้งข้อหาที่รุนแรง คุณจะเอาหลักฐานอะไรไปสืบพยานในศาล ทั้งหมดนั้นอาจเป็นหายนะก็ได้ ตนหวังว่าความเมตตาของศาล ขอให้คนจำนวนมากในที่นี้ ใช้ความกล้าหาญของท่าน ชักฟืนออกมาจากกองไฟเถิด ก่อนที่เราจะสูญเสียมากไปกว่านี้” ทิชา กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายนภสินธุ์ ระบุว่า เมื่อคืนนี้พ่อของตะวันก็นอนไม่หลับ เนื่องจากเป็นห่วงลูกสาว และวันนี้จะมายื่นขอประกันตัวอีกครั้ง เพื่อรอว่าศาลจะอนุญาตให้หรือไม่ พร้อมย้ำว่าข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ที่กำลังเรียกร้องอยู่นั้น เป็นผลดีต่อประชาชนทุกคน ทำให้ระบบถูกแก้ไข
หลังจากนั้น กลุ่มนักกิจกรรมได้มีการจุดเทียน และร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา-เพลงเพื่อมวลชน ก่อนที่จะพูดถึงข้อเรียกร้องคือ ปฏิรูปกระบวนยุติธรรม ปล่อยเพื่อนเรา และนำเทียนมาเรียงกันที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานศาลยุติธรรม
คืบหน้าล่าสุด ภายหลังพ่อของตะวันยื่นประกันตัว ตะวัน-แฟรงค์ อีกครั้ง ช่วงเช้านี้ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในการไต่สวนคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 3 ศาลมีคำสั่งกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการสอบสวนให้เสร็จในการฝากขังครั้งนี้แม้ผู้ต้องหาทั้งสองมีอาการวิกฤตตามที่ผู้ร้องอ้างแต่เมื่อผู้ร้องทั้งสองอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตกรณีนี้ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมยกคำร้องแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องและผู้ต้องหาทราบ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ตะวันแฟรงค์
