“ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน”
เปิดแถลงยื่นประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองครั้งใหญ่
วันนี้
(9 กุมภาพันธ์ 2567) ที่เพจ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เผยแพร่ เอกสารการแถลงข่าว
กรณียื่นประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง ณ ศาลอาญา รัชดาฯ ความว่า
ตั้งแต่ปี
2566 สถานการณ์ผู้ต้องขังคดีการเมืองเพิ่มสูงขึ้น
โดยเฉพาะผู้ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคดีครอบครองอาวุธที่สืบเนื่องมาจากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง
ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
และฎีกามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างน่ากังวล
จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจนถึงวันที่
1 ก.พ. 2567 ยังคงมีประชาชนถูกคุมขังในเรือนจำจากคดีที่แสดงออกทางการเมือง
หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง อย่างน้อย 38 คน
โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี จำนวนอย่างน้อย 25 คน และคดีถึงที่สุดแล้ว 13 คน
ในจำนวนของผู้ที่ไม่ได้รับการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดี
มีผู้ที่ถูกคุมขังจากคดีตามมาตรา 112 จำนวน 14 คน และมีเยาวชน 2 คน ถูกคุมขังในข้อหานี้
เพราะศาลกำหนดมาตรการพิเศษแทนการมีคำพิพากษา
ส่วนในคดีครอบครองวัตถุระเบิดหรือเผารถตำรวจ มีผู้ไม่ได้ประกันตัว รวม 9 คน
อย่างไรก็ตาม
ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีทางการเมือง นักศึกษา และภาคประชาสังคม
ได้รวมกลุ่มกันเป็น “เครือข่ายนิรโทษกรรม” จัดทำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน
และจัดให้มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดยมีกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องในช่วงวันที่ 1-14 ก.พ.
2567 เพื่อให้รัฐยุติการดำเนินคดีจากการชุมนุมและแสดงออกทางการเมือง
ทั้งผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกคุมขัง
เมื่อทราบถึงการเข้าชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมและกิจกรรมของเพื่อนข้างนอกแล้ว
หลายคนแจ้งความประสงค์ที่จะยื่นขอประกันตัว เพื่อใช้สิทธิของตนเองอีกครั้ง
และเพื่อตอกย้ำให้สังคมได้เห็นว่ายังมีคนไม่ได้รับสิทธิประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
และได้รับความเดือดร้อน
ในวาระที่มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม
ประกอบสภาผู้แทนราษฎรก็มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา
พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อันจะเป็นทางออกในการยุติความขัดแย้งทางการเมือง
และกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญต่อพวกเขา
ตั้งแต่เมื่อวาน
(8 ก.พ. 2567) และวันนี้
ทนายความพร้อมนายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์
จะเข้ายื่นประกันตัวผู้ต้องขังที่แจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิประกันตัว ทั้งหมด 15
ราย ได้แก่ ถิรนัย, ชัยพร, ประวิตร, มงคล, ขจรศักดิ์,
คเชนทร์, “แม็กกี้”, ไพฑูรย์,
สุขสันต์, ธนายุทธ,วีรภาพ,
อุดม, “กัลยา”, จิรวัฒน์
และทีปกร โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ ซึ่งเป็นเงินบริจาคของประชาชน
ในการวางหลักประกันต่อศาล
ในส่วนของวุฒิ
ประสงค์ขอยื่นประกันตัวในวันที่ 14 ก.พ. 2567 เนื่องจากเป็นวันเดียวกับการฟังคำพิพากษาในคดีของตัวเอง
และอานนท์ นำภา
ได้แจ้งความประสงค์ว่าจะยื่นประกันตัวเองพร้อมกับยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 14 ก.พ. 2567 เช่นเดียวกัน
ซึ่งเป็นการยื่นอุทธรณ์ในคดีที่สืบเนื่องมาจากการปราศรัยในการชุมนุม 14 ต.ค. 2563
ทั้งนี้
ในส่วนของผู้ต้องขังคดีการเมืองรายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ยื่นขอประกันตัว
เนื่องจากต้องการยุติการต่อสู้ทางคดีแล้ว รอคดีสิ้นสุด ได้แก่ ชนะดล และสมบัติ
ทั้งในส่วนของวารุณี ได้แจ้งความประสงค์ว่าขอดูสถานการณ์
และยังไม่ขอตัดสินใจยื่นประกันตัวในช่วงเวลานี้
อย่างไรก็ตาม
ในส่วนของผู้ต้องขังคดีการเมืองที่เหลือ ได้แก่ เวหา, เก็ท
โสภณ
ได้ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมจรกว่าผู้ต้องขังรายอื่นจะได้รับการประกันตัวทั้งหมด
ส่วนบุ้ง เนติพร ไม่ประสงค์ให้ยื่นประกันตัว
เพื่อประท้วงความอยุติธรรมของกระบวนการยุติธรรม
ในสถานการณ์เช่นนี้
ทำให้ความหวังในการใช้ชีวิตข้างนอกของประชาชนที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำริบหรี่
เพียงเพราะคำสั่งประกันของศาลในลักษณะเช่นเดิมที่ว่า
‘ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม’
กลายเป็นแรงผลักให้หลายคนต้องตัดสินใจยอมรับคำตัดสินโทษ โดยไม่ได้อุทธรณ์หรือฎีกาต่อไป
แต่เพื่อให้พวกเขาได้กลับมามีอิสรภาพในชีวิตให้เร็วที่สุดอีกครั้ง
การยื่นประกันตัวผู้ต้องขังทั้งหมดในวันนี้
ด้วยความหวังว่าศาลยุติธรรมจะยังคงยึดมั่นในหลักการขั้นพื้นฐานที่สำคัญของระบบกฎหมายสมัยใหม่
คือหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และแม้เป็นจำเลย
ก็ควรได้รับสิทธิในการต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวของผู้ต้องขังคดีการเมืองเหล่านี้อย่างเที่ยงธรรม
และคืนสิทธิประกันตัวซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
ทั้งยังเป็นหลักประกันในการได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม
ให้กับผู้ต้องขังคดีการเมืองทุกคน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
และเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน
9
ก.พ. 2567
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR #นิรโทษกรรมประชาชน