วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“หมอเหวง” ลั่น "ทักษิณ" ใส่เฝือกคอไม่แปลก หากป่วยโรคกระดูก ฝากถึงทักษิณ เพื่อคลายความคลางแคลงใจของสังคม อะไรที่พอเปิดเผยได้และไม่เสียหายต่อตัวคุณทักษิณ ก็ควรจะเปิดเผยอาการป่วยต่อสังคม

 


“หมอเหวง” ลั่น “ทักษิณ” ใส่เฝือกคอไม่แปลก หากป่วยโรคกระดูก ฝากถึงทักษิณ เพื่อคลายความคลางแคลงใจของสังคม อะไรที่พอเปิดเผยได้และไม่เสียหายต่อตัวคุณทักษิณ ก็ควรจะเปิดเผยอาการป่วยต่อสังคม 


เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นพ.เหวง โตจิราการ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เข้มข่าวค่ำ” ทางสถานี PPTV HD36 โดยผู้ประกาศข่าวกล่าวว่า นพ.เหวง ได้ออกตัวก่อนเลยว่าตนเป็นหมอทั่วไป ไม่ใช่หมอกระดูก จากนั้นผู้ประกาศข่าวกล่าวอีกว่า สิ่งที่คนสงสัยมากที่สุดคือที่พยุงคอ ปรากฏว่าหมอเหวงบอกเราว่า เท่าที่ดูจากภาพคุณทักษิณใส่เฝือกอ่อนที่คอ มองว่าที่คนบอกว่าขัดแย้งกับอาการที่ราชทัณฑ์เคยบอก หมอเหวงบอกว่าไม่ขัดแย้งนะ เพราะว่าราชทัณฑ์เคยแถลงเอาไว้ว่ามีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม จากนั้นปล่อยเสียงให้สัมภาษณ์จาก นพ.เหวง


นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวในรายการว่า “ดูจากรูปโฉมภายนอกมันเป็นไปได้สารพัดเลยนะ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมอนรองกระดูกที่ไปกดทับเส้นประสาท ซึ่งในกรณีแบบนี้โดยทั่วไปเขาจะรักษาโดยวิธีการที่ไม่ใช้การผ่าตัด ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ ถึงจะผ่าตัด เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ที่จะรักษาโดยไม่ใช้วิธีการผ่าตัด หรืออาจจะเป็นไปได้ที่เป็นโรคอื่นก็ได้เพราะผมดูจากภายนอกเท่านั้นเอง อย่างมากที่สุดก็คือจะเป็นภาพของการผ่าตัดหมอนรองกระดูกในระดับช่วงคอ ก็เลยจำเป็นจะต้องใส่ปลอกคอ”


จากนั้นผู้ประกาศข่าวสรุปว่า นี่เป็นความเห็นจาก นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำนปช. วิเคราะห์จากภาพที่คุณทักษิณออกมาจาก รพ.ตำรวจ ด้วยสภาพใส่เฝือกอ่อนที่คอ มองว่าไม่ได้ขัดแย้งกับอาการที่ราชทัณฑ์ได้แถลงก่อนหน้า เพราะเคยระบุว่านายทักษิณมีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม เพราะเป็นการใช้คำที่ให้คนทั่วไปเข้าใจ ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าเป็นส่วนไหนของกระดูกสันหลัง ซึ่งเมื่อมีการใส่เฝือกคอก็เป็นไปได้ว่าอาจเป็นอาการหมอนรองกระดูกบริเวณช่วงคอไปกดทับเส้นประสาท ซึ่งหากมีการผ่าตัด ก็เป็นไปได้ที่ทำให้ต้องใส่เฝือกอ่อนที่คอ


อย่างไรก็ตาม หมอเหวง ย้ำว่านี่เป็นการคาดเดาในฐานะผู้ที่ติดตามการเมือง แม้จะเป็นแพทย์ แต่ก็เป็นแค่แพทย์ทั่วไป ไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางออร์โธปิดิกส์ และเขาเองก็ไม่ใช่แพทย์ที่ทำการรักษานายทักษิณด้วย จึงวิเคราะห์ได้จากเฉพาะข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชน แต่ข้อเท็จจริงในรายละเอียดการป่วยคุณทักษิณเป็นอย่างไร ไม่สามารถล่วงรู้ได้ อาจจะผิดไปจากที่ตัวเองคาดเดาก็ได้


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนกรณีเฝือกอ่อนที่แขนบ้าง หมอเหวงบอกว่าก็อ้างอิงจากที่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าก็แล้วกันที่บอกว่าคุณทักษิณมีภาวะเอ็นหัวไหล่ขาด มองเรื่องนี้ข้อเท็จจริงก็ชัดเจนแล้ว ส่วนกรณีที่โลกโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า คุณทักษิณป่วยหนักมาหลายเดือน ทำไมยังมีกล้ามที่น่องขาอยู่เลย เพราะคุณทักษิณใส่กางเกงขาสั้น คนก็สังเกตเห็นจากภาพที่คุณอุ๊งอิ๊งโพสต์ หมอเหวงบอกว่า ถ้าจะให้ถึงขั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ในภาวะสลายได้มันต้องไม่ขยับเลยเป็นเวลานาน หากคุณทักษิณยังขยับอยู่บ้าง มันก็จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อสลายไปขนาดนั้น ซึ่งกรณีคุณทักษิณ ตัวเองไม่ทราบโปรแกรมการรักษาว่าแต่ละวันคุณทักษิณต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นปล่อยเสียงสัมภาษณ์ นพ.เหวง กล่าว


“ผมไม่ได้มีโอกาสไปเจอทักษิณเลย และผมไม่ได้ไป รพ.ตำรวจ และผมไม่เคยเห็นทักษิณเลย เพราะฉะนั้นผมก็เลยไม่รู้ว่ารากฐานของการวินิจฉัยโรคหรือสมมุติฐานของโรคคืออะไร จริง ๆ แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าห้องที่ทักษิณพักเป็นยังไง คือไอ้กล้ามขามันจะลีบเรียวเล็กลงก็ต่อเมื่อไม่ได้ใช้แรงงานเลย ไม่ได้ใช้มันเลย ถ้าเขาได้มีโอกาสขยับเขยื้อนตัวบ้าง กล้ามขอดังกล่าวมันก็ไม่ถึงขนาดที่จะเป็นฟีบหรือลีบเรียวเล็กลงแบบถนัดชัดตา เพราะฉะนั้นผมตอบแทนเขาไม่ได้ เพราะผมไม่รู้ว่าเขาออกกำลังกายหรือเปล่า”


ผู้ประกาศข่าว กล่าวว่า ทั้งนี้ นพ.เหวง ก็ยังบอกกับเราว่าจริง ๆ แล้วส่วนตัวเขาก็ยังอยากให้กรมราชทัณฑ์เปิดเผยรายละเอียดอาการป่วยคุณทักษิณมากกว่านี้ เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและตั้งคำถามกันมาก ซึ่งตัวคุณทักษิณก็เป็นบุคคลสาธารณะ ส่วนหากจะบอกว่าเป็นสิทธิของผู้ป่วยก็ควรพูดคุยกับคุณทักษิณว่ายินยอมให้เปิดเผยได้หรือไม่ หรือเปิดเผยได้มากน้อยแค่ไหนที่จะไม่กระทบต่อตัวของนายทักษิณ ซึ่งส่วนตัวก็อยากฝากไปถึงตัวคุณทักษิณด้วยเหมือนกันนะว่าอะไรที่เปิดเผยได้ก็เปิดเผยเถอะ จะได้โปร่งใส จะได้ลดความเคลือบแคลงของสังคม โดยเปิดเสียง นพ.เหวง ดังนี้


“ก็น่าจะคุยกัน แต่ผมก็ไม่รู้ว่าคุณทักษิณเขาคิดยังไงนะ เขาอาจจะเป็นคนที่คิดอย่างนั้นก็ได้ ผมไม่รู้ คือเขาอาจจะคิดว่าเป็นความลับส่วนตัวเขาที่ไม่ประสงค์ให้สาธารณชนรับรู้ก็ได้ เพียงแต่ผมอาจจะให้ข้อคิดเห็นได้ว่าคุณทักษิณเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี คนรักก็เยอะ คนชังก็มี อะไรที่มันจะปัดเป่าความคลางแคลงใจ ความไม่ชัดเจน และทำให้ทุกอย่างโปร่งใสทั้งหมด คือสงบเรียบร้อยทั้งหมด ก็น่าจะทำ อยากจะเรียนไปยังคุณทักษิณว่า อะไรที่เปิดพอเผยได้ ไม่เสียหายต่อตัวคุณทักษิณ ก็ควรจะเปิดเผยนะครับ”


ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่คุณหมอเหวงบอกว่าราชทัณฑ์อยากจะเปิดถ้าตัวคุณทักษิณไม่ให้เปิดมันก็เปิดไม่ได้ เป็นสิทธิผู้ป่วย หมอเหวงก็บอกเปิดเถอะ เป็นบุคคลสาธารณะ พอไปถามเรื่องอื่นนอกจากสุขภาพแล้ว การที่คุณทักษิณได้รับการพักโทษแบบนี้ จะส่งผลต่อการเมืองไทยอย่างไรบ้าง


หมอเหวงบอกว่า นายทักษิณเป็นคนมีศักยภาพสูง เคยปลดหนี้ IMF ได้ในเวลา 2 ปี ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นถูกปรามาสว่าไม่น่าจะทำได้ และส่วนตัวมองว่านายทักษิณยังใส่ใจปัญหาบ้านเมืองและอยากแสดงความคิดเห็น จากการที่ร่วมพูดในแอพพลิเคชั่นคลับเฮ้าส์ในช่วงก่อนที่คุณทักษิณจะกลับไทย แต่ส่วนตัวมองว่าคุณทักษิณไม่ควรออกตัวเปิดเผย ควรทำตัว low profile สักระยะหนึ่ง หากอยากออกความเห็นอะไร ก็สามารถคุยส่วนตัวกับลูกสาวซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้อยู่แล้ว เพราะหากเปิดหน้าจะไม่เป็นผลดีกับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จะทำให้รัฐบาลสั่นสะเทือน เนื่องจากแค่เท่านี้ก็โดนครหาว่าตกลงนายกฯ มีกี่คนกันแน่ หากนายทักษิณแสดงบทบาทแบบเอิกเกริก อาจจะทำให้มีปัญหาตามมาได้ครับ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #หมอเหวง #ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร