“หมอเหวง”
พบ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ช่วยผลักดันให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเร่งรัดคดีความปี 53 คืนความยุติธรรมให้ปชช.
และแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เอาคนฆ่า/คนสั่งฆ่า มาลงโทษตามกฎหมาย
วันที่
29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.30
น. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย คณะประชาชนทวงความยุติธรรม นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ, ญาติวีรชน
เมษา-พฤษภา 53, ทนายโชคชัย อ่างแก้ว
และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและรักความยุติธรรม ได้เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือทวงความยุติธรรมเพื่อให้มีปฏิบัติการที่เป็นจริง
ในกรณีคดีความจากการปราบปรามประชาชนปี 2553 โดยมี ชัยธวัช
ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร,
อภิชาต ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล, เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล,
ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี เขต 3 พรรคก้าวไกล, ปิยรัฐ
จงเทพ สส.กทม. เขตพระโขนง-บางนา พรรคก้าวไกล ให้การต้อนรับ
นพ.เหวง
ได้กล่าวก่อนเดินเข้าด้านในรัฐสภาว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา คปช.53 ได้ไปยื่นหนังสือต่อพรรคเพื่อไทย และทวงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ในการทวงความยุติธรรมให้กับวีรชนประชาธิปไตย
เมษา-พฤษภา 53 โดย 3 ข้อเรียกร้องเร่งด่วน ได้แก่ 1)
ตั้งคณะกรรมการและคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วยฝ่ายต่าง ๆ ตรวจสอบเร่งรัดคดีความปี 2553
ที่ถูกแช่แข็ง ไม่มีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพซึ่งมีจำนวนมากถึง 62 ศพ ให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย 2) แก้ไขกฎหมายทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง
กรณีที่ทหารและนักการเมืองทำความผิดอาญาต่อประชาชน ให้ขึ้นศาลพลเรือน
ไม่ใช่ทหารขึ้นศาลทหารและนักการเมืองขึ้นศาลนักการเมือง และ 3) ลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553 ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล
สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับหนังสือและรับจะนำเสนอหัวหน้าพรรคต่อไป
นอกจากนี้
นพ.เหวง ยังกล่าวว่า “ประชาชนยังจับตาดูอยู่ว่าท่าทีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในการทวงความยุติธรรมให้วีรชนประชาธิปไตยปี
53 หากรัฐบาลนิ่งเฉย
ผมก็อยากจะรู้ว่าคนเสื้อแดงทั่วประเทศจะรู้สึกอย่างไรต่อพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลเพื่อไทย”
นพ.เหวง
กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพบกับพรรคก้าวไกลในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ด้วยความหวังว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่พรรคก้าวไกลจะผลักดันให้มีการปฏิบัติจริงในการทวงความยุติธรรมตามข้อเรียกร้อง
โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการฯ ตรวจสอบเร่งรัดคดีความปี 2553 ให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
และการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีที่ทหารและนักการเมืองทำความผิดอาญาต่อประชาชน
ให้ขึ้นศาลพลเรือน
ด้านทนายโชคชัย
กล่าวว่า “ในส่วนของการติดตามทวงถามความเป็นธรรม
เราได้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไปที่พรรคเพื่อไทย
และวันนี้ก็มาพบพรรคก้าวไกล คุณหมอเหวงได้พูดไปค่อนข้างจะครบถ้วนแล้ว
เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุการณ์มันผ่านมานานแล้ว จะได้รับการชำระสะสาง
ซึ่งเป็นความหวังของญาติ ของพวกเราที่ไม่เคยลืมเรื่องนี้”
จากนั้นคณะประชาชนทวงความยุติธรรม
2553 นำโดย นพ.เหวง ได้เดินเข้าไปยังจุดนัดหมายรับ-ยื่นหนังสือ
ระหว่างนั้น “หมอเหวง” ได้กล่าวว่า ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยาวไกล คือหยุดการฆ่าประชาชนสองมือเปล่ากลางถนน
และหยุดการยึดอำนาจรัฐประหารในประเทศไทย ผมไม่แน่ใจว่าในช่วงชีวิตผมนี้จะบรรลุภาระนี้ได้สำเร็จหรือเปล่า
หากผมเสียชีวิตไปโดยยังมีการฆ่าประชาชนกลางถนนและยังมีการยึดอำนาจรัฐประหารอยู่อีก
ผมก็อยากจะฝากให้พี่น้องประชาชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มสาว กรุณาแบกรับภารกิจนี้ต่อไป
คือการหยุดทหารขวาจัดฆ่าประชาชนกลางถนน และหยุดการยึดอำนาจรัฐประหาร และวิธีการ “หยุด”
มีประการเดียวคือจับคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
เมื่อถึงจุดยื่น-รับหนังสือของรัฐสภา
นพ.เหวง ได้โชว์หนังสือ “การขับเคลื่อนทวงความยุติธรรม 2553 – 2566 จาก นปช. ถึง คปช. 53”
ซึ่งถือเป็นภารกิจต่อเนื่องจาก แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ
นปช. ที่ปัจจุบันไม่มีสภาพองค์กรนำแล้ว คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 หรือ คปช.53 จึงเกิดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนทวงความยุติธรรมให้วีรชนประชาธิปไตย
เมษา-พฤษภา 53 ต่อไป
ซึ่งในหนังสือดังกล่าวมีรายละเอียดต่าง ๆ ที่สำคัญในการตรวจสอบและผลักดันคดีความที่ถูกแช่แข็งจนเหลืออีก
6 ปีจะหมดอายุความ ให้สามารถดำเนินการชันสูตรพลิกศพและให้ศาลได้มีคำสั่งการตาย
และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ที่สำคัญคือคำโต้แย้งของอธิบดีศาลอาญา (นายธงชัย
เสนามนตรี) ที่ไม่เห็นด้วยกับป.ป.ช. ที่ยกฟ้อง อภิสิทธิ์-สุเทพ
ในเวลาต่อมา
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือ
โดย นพ.เหวง
ขอให้พรรคก้าวไกลผลักดันให้เกิดการตั้งคณะกรรมการเพื่อทวงความยุติธรรมฯ, แก้กฎหมายให้ทหารและนักการเมืองที่กระทำผิดอาญาต่อประชาชน
ให้ขึ้นศาลพลเรือน และเซ็นรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีเหตุการณ์เมษา-พฤษภา53
ชัยธวัช
กล่าวว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในวันนี้ หลายท่านก็ได้ทำงานร่วมกันมาสิบปี ในการพยายามค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับเหตุการณ์สลายการชุมนุมในเดือนเมษายน-พฤษภาคม
2553 ต้องเรียกว่ากว่าทศวรรษแล้ว แม้ว่ายังเป็นฝ่ายค้านอยู่
เราก็คิดว่าเราจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาได้ประสานงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอยู่เป็นระยะ
เพื่อขอติดตามความคืบหน้าของคดีความที่ค้างอยู่ในสารบบ ไม่ว่าจะเป็นคดีความที่ศาล
การไต่สวนการตายในชั้นสอบสวนไปแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้มีการสั่งฟ้องขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาล
หรือคดีความที่ยื่นสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ก็ถูกตีตกด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่างในแง่เทคนิคทางกฎหมาย
รวมถึงอีก 62 ศพ ที่ยังไม่มีการไต่สวนการตายจนถึงวันนี้
ก็ได้พยายามติดตามอยู่เป็นระยะเพื่อที่จะผลักดันให้คดีเหล่านี้มีความคืบหน้า
ชัยธวัช
กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น คิดว่าจะรับข้อเสนอว่าเราจะผลักดันให้มีคณะกรรมการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างไร
ซึ่งน่าจะมีหลายช่องทาง และถ้าจะให้มีประสิทธิภาพ
คณะกรรมการชุดนี้จะต้องมีอำนาจทางกฎหมายพอสมควร ซึ่งผมอยู่ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาเรื่องการนิรโทษกรรมด้วย
แต่ในการพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรมนี้ไม่ได้พูดเฉพาะเรื่องการนิรโทษกรรมอย่างเดียว
แต่มีการพูดคุยกันเรื่องการค้นหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ซึ่งเรื่องที่ใหญ่ที่สุดคือการสลายการชุมนุมปี 2553
ที่จะต้องมีการแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งจะใช้ช่องทางนี้ในการผลักดันด้วย
“ขณะเดียวกัน
คณะกมธ.ของสภาก็น่าจะทำได้ แม้ว่าอาจจะมีข้อจำกัดในการเรียกหลักฐานและบุคคล นอกจากกมธ.ความมั่นคงแล้ว
จะต้องหารือกับกมธ.กฎหมายการยุติธรรมสิทธิมนุษยชน แม้ทางรัฐบาลจะเป็นประธานกมธ.
แต่คิดว่าน่าจะคุยกันได้” ชัยธวัชกล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล
กล่าวต่อว่า
ขณะนี้พรรคก้าวไกลได้พิจารณาการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
การทบทวนแก้ไขกฎหมายความมั่นคงที่ผ่านมา
ที่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงโดยไม่ต้องรับผิด
รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการอำนวยความยุติธรรมให้คดีสลายการชุมนุมปี
2553 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมาก
ปรากฏว่าเรามีบทเรียนว่ามีการส่งฟ้องศาลแล้ว
แต่ด้วยกฎหมายเกี่ยวกับศาลทหารทำให้ศาลยุติธรรมโอนคดีไปยังศาลทหาร
สุดท้ายศาลทหารก็ไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐสลายการชุมนุมจนเสียชีวิต
โดยตอนนี้ใน
กมธ.การทหาร ได้ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับศาลทหารอยู่
เชิญผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับศาลทหารร่วมแก้ไขสาระสำคัญ
นอกจากเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ทหารระดับล่างแล้ว
ต้องทำให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดในข้อหาทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดในยามสงคราม
ต้องขึ้นศาลยุติธรรมเหมือนประชาชนทั่วไป
เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด
เป็นไปอย่างเท่าเทียมและได้มาตรฐานเดียวกัน
หลังจากที่ร่วมประชุมหารือร่วมกันแล้ว
นพ.เหวง ได้กล่าวว่า ท่านผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทน รับปากจะเดินเรื่องไปยัง
กมธ.กฎหมายยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อให้กมธ.ชุดนี้ยึดกุมเรื่องทวงความยุติธรรมให้กับวีรชนประชาธิปไตย
เมษา-พฤษภา53 ให้ถึงที่สุด
นอกจากนี้
ผู้นำฝ่ายค้านยังได้ตอบรับอย่างหนักแน่นในการเดินเรื่องการแก้กฎหมายให้ทหารและนักการเมืองที่ทำผิดอาญาต่อพลเรือน
ต้องขึ้นศาลพลเรือน โดยเรื่องนี้ต้องสามัคคีทุกฝ่ายทุกพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร
โดยเดินเรื่องผ่านกมธ.ทหาร ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เตรียมร่างไว้เรียบร้อยแล้ว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คปช53 #ก้าวไกล #ทวงความยุติธรรม #เมษาพฤษภา53