‘กระทรวงสาธารณสุข’
เดินหน้าฉีดวัคซีน HPV
เกินล้านโดส ‘ตรีชฎา’ เผย
ผลงานทะลุเป้าหมายก่อน 100 วันตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
เล็งเดินหน้าต่อเพื่อปกป้องสุขภาพผู้หญิงทุกคน
วันที่
10 ธันวาคม 2566 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา
ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ได้มอบหมายให้ตนมาแจ้งข่าวดีกับประชาชนว่า
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันการติดดชื้อไวรัส เอชพีวี (HPV)
ป้องกันมะเร็งปากมดลูกทะลุ 1,000,000 โดสแล้ว ก่อนครบเวลา 100 วัน
ตามที่ได้กำหนดเป้าหมาย ที่จะต้องฉีดให้ได้ 1,000,000 รายใน 100 วัน
นับว่าเป็นการทำงานอย่างหนักของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขตามนโยบายของรัฐบาลได้เกินความคาดหมาย
อีกทั้งยังเป็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่ายต่างๆ
ที่ร่วมลงนามความร่วมมือกันไว้ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษาฯ และกรุงเทพมหานคร ฯลฯ
โดยในช่วงวันที่
7 ธันวาคม 2566 เวลา 20.00 น. ยอดฉีดสะสม 971,898 ราย แต่ข้อมูลในวันที่ 9 ธันวาคม
2566 สามารถฉีดวัคซีนสะสมเป็นจำนวน 1,036,891 โดสแล้ว
โดยกระทรวงสาธารณสุขยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้าฉีดวัคซีน HPV ให้มากที่สุดในเวลาที่ยังเหลืออยู่
เพราะยิ่งฉีดได้มาก โอกาสการเกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงก็ลดลงเท่านั้น
จึงขอเชิญชวนให้ผู้หญิงไม่ว่าจะอยู่ในระบบโรงเรียนหรือนอกระบบโรงเรียนรีบติดต่อมารับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกและวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี
นางสาวตรีชฎา
กล่าวว่า เรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
มีความตั้งใจมากตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่าจะต้องป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงให้ลดลงให้มากที่สุด
เพราะในปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกพบมากในผู้หญิงเป็นอันดับสอง รองมาจากมะเร็งเต้านม
โดยมะเร็งปากมดลูกจากสถิติปี 2563 พบผู้ป่วยใหม่ประมาณ 9,000 ราย เสียชีวิต 4,700
ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข
ฝ่ายการเมือง กล่าวอีกว่า สำหรับมะเร็งปากมดลูกนั้นข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ HPV ชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
เป็นเชื้อที่ติดได้ง่ายผ่านการมีเพศสัมพันธ์
และการสัมผัสจากพาหะที่นำเชื้อเข้าสู่ช่องคลอด เมื่อเชื้อ HPV เข้าสู่ร่างกายจะมีระยะเวลาดำเนินโรค 10-15 ปี
ระหว่างนั้นจะไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือนใดๆ กว่าอาการจะปรากฏให้เห็น
ทั้งนี้ผู้หญิงที่ได้รับชื้อ HPV มานาน มักจะมีอายุมากกว่า
30 ปีขึ้นไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นมักจะเป็นขั้นรุนแรง ดังนั้นการตรวจคัดกรอง
จึงจำเป็นสำหรับผู้หญิงโดยทั่วไป
“กระทรวงสาธารณสุขห่วงใยสุขภาพของผู้หญิงทุกคน
โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนวัยสาว อายุ 11-20 ปี
ไม่ต้องการให้ใครป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก
จึงขอให้คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน รีบไปฉีดตั้งแต่วันนี้”
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง กล่าว