วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2566

“เศรษฐา” ปาถกฐาวันต่อต้านคอร์รัปชั่น ประกาศ! ซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มีในรัฐบาลนี้

 


“เศรษฐา” ปาถกฐาวันต่อต้านคอร์รัปชั่น ประกาศ! ซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มีในรัฐบาลนี้


วันที่ 6 กันยายน 2566 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โซนประตู 4 (สถานีกลางบางซื่อ) มีการจัดกิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย โดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT และภาคีเครือข่าย มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ พร้อมกับประกาศนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน


นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า อยากนำเสนอรัฐบาลใหม่ให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน เป็นวอร์รูม เพราะวิกฤติคอร์รัปชันยิ่งใหญ่กว่าวิกฤติอื่น ๆ ที่เผชิญมา รวมทั้งวิกฤติโรคระบาดที่เพิ่งเผชิญด้วย นอกเหนือจากมีนโยบาย มีแนวทาง มีรูปแบบของการปฏิบัติร่วมกันแก้ไขเป็นเรื่องสำคัญ อยากเรียนเสนอว่า ก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ ม.หอการค้า ได้สำรวจว่า ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรกับรัฐบาลใหม่ เป็นครั้งแรกจากการสำรวจ คือการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ประชาชนเรียกร้องถึงการแก้ไขปัญหานี้


นายวิเชียร ยังกล่าวอีกว่า เชื่อว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องที่ยากที่องค์กรและภาคีทำงานร่วมกันมา 12 ปี เป็นเรื่องยาก ประสบความสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง เห็นแสงสว่างปลายทางบ้าง ภาครัฐแก้ไขเรื่องนี้ก็ยาก วันก่อนได้รับฟังจากข่าวที่นายกฯ กล่าวในที่ประชุมบอกว่า หน้าที่รัฐบาลไม่ได้มาชี้แจงว่า เรื่องที่ทำไม่ได้มันเป็นเพราะอะไร แต่หน้าที่รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องยากให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นเรื่องยากที่ภาคประชาชนประสบพบเห็นอยู่ เราเสนอว่า การเป็นหุ้นส่วนซึ่งกันและกันระหว่างรัฐบาล กับภาคประชาชน สร้างโอกาสให้เอาชนะปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน แก้ปัญหาวิกฤติศรัทธา ป้องกันวิกฤติอันนี้สืบทอดไปสู่อนาคตของลูกหลานเราต่อไป


ทั้งนี้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ได้เปิดวีดิทัศน์ถึง 5 ข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลใหม่ ได้แก่


1. กำหนดให้การปราบปรามคอร์รัปชันเป็นวาระแหงชาติ ตั้งคณะกรรมการที่มีตัวแทนทุกภาคส่วน มีนายกฯเป็นประธาน พร้อมีวอร์รูมเพื่อการทำงานอย่างทันเหตุการณ์

2. สนับสนุนให้ ป.ป.ช., สตง. และ ป.ป.ท. ทำหน้าที่ได้อย่างเป็นกลาง มีอิสระ

3. เร่งรัดออกกฎหมายต่อต้านคอร์รัปชันที่ค้างคาอยู่ เช่น กฎหมายข้อมูลสาธารณะในความครอบครองของรัฐ

4. ทุกหน่วยงานต้องพร้อมเปิดเผยข้อมูล นับจาก TOR ไปจนถึงสัญญาต่าง ๆ ในรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงกับ ACT Ai ตามมาตรฐานสากลได้อย่างโปร่งใสถูกต้อง

5. แก้ไขกฎระเบียบราชการต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลปัญหาคอร์รัปชัน


ต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได่กล่าวว่า ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพูดคุยกับทุกท่านในงานวันต่อต้าน คอร์รัปชัน 2566 ในวันนี้ 


หัวข้อเรื่องการปราบปรามการทุจริตและเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของรัฐบาล และเป็น “หน้าที่” ของหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องสนับสนุน และปฏิบัติตาม อย่างไม่มีข้อยกเว้น


ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) เป็นอันดับที่ 101 ของโลก ในด้านของดัชนีการรับรู้การทุจริต เป็นอันดับ 4 ของอาเซียน (ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม) ซึ่งหมายความว่าเรามีสิ่งที่จะต้องพัฒนากันอีกมากนะครับ


ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันนั้น นอกจากที่จะทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อภาครัฐแล้ว ยังทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เศรษกิจไทยถดถอย และมีผลต่อเนื่องไปสู่ปัญหาการขับเคลื่อน GDP ของประเทศอีกด้วย


เพื่อที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไป ทางรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย มีนโยบาย ทั้งด้านการใช้หลักนิติธรรม หรือ Rule of Law ที่เข้มแข็ง และนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในกระบวนการต่าง ๆ ของภาครัฐ ทำให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งจะช่วยพี่น้องประชาชนได้ทั้งความโปร่งใสและการให้บริการภาครัฐที่เร็วยิ่งขึ้น หลักนิติธรรมที่มั่นคงแข็งแรงมาจากระบบการเขียนกฎหมาย และการออกกฎหมายที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ และประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันกำหนดทิศทางและอนาคตของตัวเองและของประเทศ


เรามีแผนที่จะปรับปรุงกฎหมายเพื่อลดกระบวนการและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เปลี่ยน “รัฐอุปสรรค” ให้เป็น “รัฐสนับสนุน” และป้องกันการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินสินบนจากประชาชน นอกจากกฎหมายที่เข้มแข็งแล้ว รัฐบาลของเราจะให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและการลงโทษที่เฉียบขาดและครอบคลุม เจ้าหน้าที่รัฐในหลาย ๆ ตำแหน่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และในระดับสูงจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อแสดงความโปร่งใส และเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ


การมีกฎหมายที่เข้มแข็ง เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและการบังคับใช้กฎหมายที่โปร่งใส ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้นี้ จะส่งเสริมความแข็งแกร่งและสร้างรากฐานของสังคมที่เคารพในกฎหมายร่วมกัน และขจัดการคอร์รัปชันให้หมดไปจากประเทศไทย นอกจากนิติธรรมที่มั่นคงแข็งแรงแล้ว เราจะนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยให้เราสามารถเกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ ตัวอย่างนโยบายที่เราจะนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้คือ


1) ใช้ระบบการจ่ายเงินภาครัฐผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด

2) เปิดให้ขอใบอนุญาตและการติดต่อราชการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และทำให้ขอได้โดย “ง่าย” เป็น One-stop service (พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565)   

3) ปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ทันสมัยและโปร่งใส เพื่อป้องกันการทุจริต และเปิดข้อมูลให้ตรวจสอบได้ตามแนวทาง Open Government

4) ปรับเปลี่ยนการบริหารประเทศของรัฐบาลให้เป็น Digital Government และปรับใช้เทคโนโลยีสำหรับระบบการอนุมัติ การอนุญาต การควบคุมตรวจสอบ เพื่อให้มีความโปร่งใส และลดการต้องใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ติดต่อกับประชาชน


ผมเชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐบาลเพื่อไทยนี้ ปัญหาการคอร์รัปชันจะลดลง ความโปร่งใส่และเป็นธรรมจะเพิ่มมากขึ้น และตามมาด้วยความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลกระทบที่ดีต่อเศรษกิจของประเทศต่อไป


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เศรษฐาทวีสิน 

#รัฐบาลเศรษฐา1 #วันต่อต้านคอร์รัปชั่น