ณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ : ยังต้องจับตาดูฝั่งผู้มีอำนาจ ขณะที่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องสามัคคีกันตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้
วาระ
: 10 มิ.ย. 66 ทำบุญให้ “ผู้ประสานงานคนเสื้อแดงและมิตรร่วมรบ”
สวัสดีครับ
ขออนุญาตพี่น้องวันนี้มาร่วมกิจกรรมช้าหน่อย คือมีอาการคล้าย ๆ
สะบักจมแล้วมันเจ็บมาถึงน่อง ต้องกายภาพ ก็เลยไม่ค่อยสะดวกนะครับช่วงนี้ครับ
แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ หัวใจยังล้านเปอร์เซ็น อาการเจ็บป่วยแค่นี้สบาย ๆ ครับ
เพียงแต่ว่าวิ่งไม่ได้แค่นั้นเอง
ก็ดีใจที่มีวันนี้นะครับ
คือวันที่พวกเราพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์ มิตรร่วมรบ ร่วมเป็นร่วมตาย ได้มารวมใจส่งความรักความระลึกถึงความปรารถนาดีให้กับเพื่อนเราที่เสียสละผู้ประสบชะตากรรม
ไม่ว่าจะเป็นในเหตุการณ์ต่อสู้ปี 52, 53 หรือเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องหลังจากนั้น
ผมเชื่อว่าไม่ว่าเหตุการณ์ทางการเมืองจะเดินมาถึงจุดไหน
ไม่ว่าความคิดทางการเมืองของพี่ ๆ น้อง ๆ เรา จะสนับสนุนแนวทางของพรรคการเมืองใด
แต่ว่าในหัวใจในความรักในความผูกพันมันจะคงมีกันและกันเหมือนเดิม
เช่นเดียวกับที่เรามีกันและกันมาสิบกว่าปีที่ผ่านมา
การเมืองขณะนี้ก็ต้องรอเอาใจช่วยให้ฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล
312 เสียง 8 พรรค ให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้
ตรงไปตรงมาล่ะครับว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอันดับ
1 คือคุณพิธาก็ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี
ตรงไปตรงมาแบบนี้ไม่มีอย่างอื่น
ส่วนว่าภัยคุกคามหรือการพยายามสกัดกั้นจากฝ่ายผู้มีอำนาจ
อันนี้ก็ยังประมาทยังละวางสายตาไม่ได้ ต้องคอยจับตาดู คอยระแวดระวังภัยกันต่อไป
ผมยังเชื่อนะครับว่าถ้า 8 พรรค 312 เสียง จับมือกันแน่น
ยังไงถึงที่สุดก็ต้องตั้งรัฐบาลได้ ทีนี้ฝ่ายโน้น ถ้าเกิดว่าเราตั้งไม่ได้
เขาคงไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยนะครับ แต่เขาจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างเดียว
รัฐบาลเสียงข้างเดียวหมายความว่าอยู่แบบนี้ อยู่แบบที่เขาอยู่เนี่ย
เพราะกฎหมายเขียนว่ารัฐบาลเก่าจะไปก็ต่อเมื่อรัฐบาลใหม่มา ถ้าตั้งไม่ได้
เขาก็อยู่แบบที่เขาอยู่ ประยุทธ์ก็จะเป็นนายกฯ ไปเรื่อย ๆ มีการเสนอว่าถ้ายังงั้น 8 พรรค ก็ต้องจับมือกันเป็นฝ่ายค้าน ก็มีคำถามตามมาว่า
เป็นฝ่ายค้านของใครในเมื่อรัฐบาลที่มันอยู่ไม่ได้มาจากสภาชุดนี้
แต่มันมาจากการอยู่ต่อเพราะยังไม่มีรัฐบาลใหม่ ดังนั้น ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือต้องสามัคคีกันนะครับ
แล้วก็ช่วยกันนำพาไปให้ถึงฝั่งให้ได้
คิดเห็นไม่เหมือนกันยังไงก็แข่งกันใหม่ในสนามเลือกตั้ง
แต่วันนี้เลือกตั้งเสร็จแล้วต้องสู้กับฝ่ายตรงข้าม ตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้
และทันทีที่ตั้งรัฐบาลได้
เมื่อสภาเปิดทำการนะครับ ผมก็จะยื่นร่างแก้ไขพ.ร.บ.ป.ป.ช.
เนื้อหาสาระก็อย่างที่ได้ประกาศผ่านสื่อมวลชนไปหลายรอบแล้ว ว่าจะแก้ให้กรณีเสียชีวิตที่ป.ป.ช.เขาตีตกหรืออัยการไม่ฟ้อง
ไม่ตัดสินให้ญาติหรือผู้สูญเสียฟ้องศาลโดยตรงได้ ถ้าแก้เสร็จก็หมายความว่า
ญาติผู้สูญเสียเมื่อเหตุการณ์ปี 53 จะฟ้องคดีต่อศาลโดยตรงได้ทันที คนสั่งการ
คนลงมือ จะขึ้นศาลก็เที่ยวนี้ ตัวร่างแก้ไขกฎหมายทำเสร็จแล้ว
ผมเตรียมประสานงานส.ส.ไว้ 30 คน เพื่อเข้าชื่อกันเสนอกฎหมาย
ได้ส่งร่างให้ส.ส.ทุกคนอ่านพิจารณาเนื้อหาและรับฟังความเห็นรับฟังข้อเสนอแนะเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จะเป็นภารกิจร่วมกันที่เราจะทำด้วยกันนะครับ
ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน
แต่ว่าผมยังมีภารกิจสำคัญที่ทำไม่เสร็จก็คือกินน้ำพริกปลาทูของอาจารย์ธิดา
แต่ก่อนนี่กว่าจะได้กินต้องติดคุกนะครับ อาจารย์ถึงตำไปให้กิน
วันนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในคุกก็ได้กิน แต่มันก็เหลือเกินนะ
มากินวัดอยู่ตรงข้ามคุกอีกนะครับ มันก็เวียน ๆ อยู่แถวนี้
ขอส่งหัวใจนะครับ
ส่งความปรารถนาดีไปยังเพื่อนมิตรพี่น้องเราผู้จากไปทุกคนทุกท่าน เรายังคงคิดถึงกัน
เรายังคงมีกันและกันอยู่เสมอ ตราบใดที่ยังมีการต่อสู้
ตราบนั้นก็ยังมีวิญญาณของคนเสื้อแดง และต่อให้การต่อสู้ลุล่วงไปแล้ว
ก็ยังจะคงมีคนเสื้อแดงอยู่บนบรรทัดประวัติศาสตร์การเมืองไทยอย่างเข้มแข็งและสง่างามแน่นอนครับ
ขอบคุณครับ