ปล่อยตัวแล้ว
"บุ๊ค-ปฏิมา-พรพจน์" ภายหลัง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ประกันตัว
โดยใช้หลักทรัพย์คนละ 1
แสนบาท
ตามที่เมื่อวันที่
20 มิถุนายน 2566 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีที่
ธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ “บุ๊ค” ศิลปินแร็ปเปอร์วง Eleven Finger พร้อม ปฏิมา หรือนิว และ พรพจน์ แจ้งกระจ่าง ถูกอัยการสั่งฟ้องในข้อหา
“ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด, พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน
หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร”
จากเหตุถูกกล่าวหากรณีปาระเบิดปิงปองบริเวณบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ในช่วงคืนวันที่ 10 เม.ย. 2565
สำหรับคดีนี้
“พรพจน์” ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจในวันที่ 12 เม.ย. 2565 และถูกนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ภายหลังจากที่ศาลไม่อนุญาตประกันตัว
เขาได้ถูกคุมขังจนวันที่ 20 ก.พ. 2566 จึงได้รับการประกันตัว
รวมถูกขังไป 315 วัน ขณะที่ “ปฎิมา”
เคยถูกคุมขังภายหลังถูกเชิญสอบปากคำในฐานะพยาน
ก่อนตำรวจแจ้งข้อหาและนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2565 จนได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 27
พ.ค. 65 รวมถูกขังมาแล้ว 47 วัน
โดยเวลา
10.00 น. (20 มิ.ย. 66) ศาลอ่านคำพิพากษาโดยสรุป
ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสามระยะเวลา 1 ปี ไม่รอลงอาญา
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 221 “ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด”
และปรับ 500 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เรื่องการพกพาอาวุธไปในเมือง
ภายหลังมีคำพิพากษา
ทนายความได้ยื่นประกันตัวทั้ง 3 คน
โดยศาลอาญามีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์
ให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาคำสั่งประกันตัว
ทำให้พรพจน์และธนายุทธถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ขณะที่ปฎิมาถูกส่งตัวไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อรอฟังผลการประกันตัวต่อไป
ต่อมา
ช่วงเย็นวันที่ 22
มิถุนายน 2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง #อนุญาตให้ประกันตัว “บุ๊ค “ธนายุทธ-ปฏิมา-พรพจน์ ระหว่างอุทธรณ์คดี โดยใช้หลักทรัพย์คนละ 1
แสนบาท
ล่าสุด
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พจน์และธนายุทธถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่ปฎิมา
ถูกปล่อยตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว ท่ามกลางมวลชนจำนวนหนึ่งไปรอรับ
และต่างสวมกอดด้วยความยินดี
ธนายุทธ
หรือบุ๊ค กล่าวว่า ขอส่งกำลังใจให้กับทุก ๆ
คนที่กำลังต่อสู้คดีที่เกี่ยวกับการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองกันอยู่ ณ ขณะนี้
หวังว่าฟ้าสีทองผ่องอำไพจะรอพวกเราทุกคนอยู่ คดีการเมืองทุกคดีจะได้รับการชำระ
ให้ทุกคนได้รับความยุติธรรม
ขอส่งกำลังใจให้กับนักสู้ทุกคน
ครั้งนี้ตนเองได้อยู่ในเรือนจำ 3 วัน ก็เทียบไม่ได้กับนักสู้คนอื่น
ๆที่อยู่ในเรือนจำเป็นเดือนเป็นปี ก็ขอส่งกำลังใจให้กับทุกคน
ที่จะก้าวเดินกันต่อไป
สำหรับตนก็จะเก็บเรื่องราวทุกอย่างมาเขียนเป็นบทเพลงให้ทุกคนได้ฟังกันต่อไป
หวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะได้รับการปฏิรูป พร้อมฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่อย่างแรกเลยคือการชำระคดีทางการเมือง
ที่เกิดขึ้นหลังจากการเกิดรัฐประหาร ทำให้ทุกอย่างเคลียร์มากที่สุด
เพราะมีนักต่อสู้หลาย ๆ
คนที่ออกมาต่อสู้และเสียสละเพื่อที่วาดหวังจะได้เปลี่ยนแปลงประเทศ
ซึ่งตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลชุดใหม่จะให้ความสำคัญ ธนายุทธ กล่าว
ขอบคุณข้อมูล
: ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน