วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Nurses Connect และ สมาพันธ์แพทย์ผู้ปฏิบัติงาน แสดงจุดยืนสนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เรียกร้องพรรคการเมืองและ 250 ส.ว. เคารพมติของประชาชน

 


Nurses Connect และ สมาพันธ์แพทย์ผู้ปฏิบัติงาน แสดงจุดยืนสนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เรียกร้องพรรคการเมืองและ 250 ส.ว. เคารพมติของประชาชน


วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ที่เพจ Nurses Connect ได้เผยแพร่แถลงการณ์สนับสนุนพรรคก้าวไกลให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเรียกร้องพรรคการเมืองต่าง ๆ และสมาชิกวุฒิสภา 250 คน ต้องเคารพมติของประชาชนในการโหวตสนับสนุนให้แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดยแถลงการณ์ระบุว่า


จากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 (ไม่เป็นทางการ) พรรคก้าวไกล - Move Forward Party ได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงสูงสุด โดยแบ่งเป็นจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตทั้งหมด 113 ที่นั่ง และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีก 39 ที่นั่ง (14,233,895 คะแนน) คิดเป็นจำนวน 152 ที่นั่ง ซึ่งส่งผลให้พรรคก้าวไกลมีจำนวน ส.ส สูงสุดเป็นอันดับที่ 1


ต่อมาพรรคก้าวไกลได้ประกาศว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคร่วมรัฐบาลคือ พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคประชาชาติ และ พรรคเป็นธรรม รวมทั้งสิ้น 310 เสียง ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง)


หากเป็นในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยปกติ เราคงมั่นใจได้แล้วว่า พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมนั้น จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐบาลได้ แต่ในสถานการณ์วิปริตอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการทำรัฐประหารที่ชื่อว่า “รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560” ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาเพื่อต่ออายุของคสช.หรือรัฐบาลเผด็จการนั้น ได้อนุญาตให้ ส.ว. หรือ สมาชิกวุฒิสภา (สภาสูง) ซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยคสช.นั้น เข้ามามีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรีได้ หากแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่สามารถรวมรวมเสียงจากส.ส.ได้ครบ 376 ที่นั่ง และเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ โดยอาศัยเสียงของส.ว.


ดังนั้น พวกเรา Nurses Connect และ สมาพันธ์แพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ในฐานะประชาชนจึงขอแสดงจุดยืนในการสนับสนุนพรรคก้าวไกล ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และดำเนินการในฐานะฝ่ายรัฐบาลอย่างสมศักดิ์ศรี ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้ใจสูงสุดจากประชาชน


หลักการประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น คือการ “เคารพมติเสียงส่วนมาก” และ “ไม่ละเลยการรับฟังเสียงข้างน้อย” ดังนั้น เมื่อผลการเลือกตั้งซึ่งเป็น “มติเสียงส่วนมาก” ออกมาเช่นนี้ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้เห็นพรรคการเมืองอีกหลาย ๆ พรรค ที่ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล และเหล่าส.ว. ที่ไม่ได้มากจากการเลือกตั้งทั้ง 250 คน “เคารพ” ในมติของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง


#NursesConnect #สมาพันธ์แพทย์ผู้ปฏิบัติงาน #เลือกตั้ง66

#สวต้องฟังเสียงประชาชน #นายกคนที่30 #ทิมพิธา

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์