ลูกจ้างโรงพยาบาลรัฐร้องเพื่อไทย
ดันบรรจุเป็นพนักงาน - ขึ้นเงินเดือน เหตุไม่พอยาไส้
พร้อมทวงค่าเสี่ยงภัยโควิดรัฐบาล ‘ประยุทธ์’ ค้างจ่าย 7
เดือน
วันที่
31 พฤษภาคม 2566 เวลา 15.10
น.กลุ่มลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4 ภาค
กระทรวงสาธารณสุข ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพรรคเพื่อไทย
ให้ช่วยผลักดันในการบรรจุให้ลูกจ้างรายวัน รายคาบ รายเดือน สายสนับสนุน 56 สายงาน
ปรับสถานะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และขอให้ช่วยผลักดันให้พนักงานกระทรวงสาธารณสุข
56 สายงาน
ได้ปรับค่าจ้างและค่าตอบแทน
และให้ได้รับการบรรจุเป็นลูกจ้างประจำในกรณีพิเศษ หรือพนักงานราชการ รวมถึงการดูแลชีวิตในวัยเกษียณ
และให้จ่ายค่าเสี่ยงภัยที่ค้างอยู่ 7 เดือน โดยมีนายแพทย์ชลน่าน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้ารับข้อร้องเรียนดังกล่าว
นางสาวอภิสราธรณ์
พันธ์พหลเวช ตัวแทนกลุ่มลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข 4 ภาค
กระทรวงสาธารสุข กล่าวว่า
การระบาดของโควิด 19 ตั้งแต่ปี 2563
ทำให้ลูกจ้างใน 56 สายงาน รวมจำนวน 140,000 คน
ไม่ได้รับการนำเข้าสู่วาระการพิจารณาบรรจุตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคในระลอกแรก
จนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันกลุ่มที่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ จำนวน 45,105 อัตรา 25
สายงาน แต่มีเพียงตำแหน่งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร
และกลุ่มวิชาชีพต่างๆ เท่านั้น ทั้งที่ตำแหน่งมี 131
สายงาน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความท้อแท้
ขาดขวัญและกำลังใจในการทำงาน บางคนปฏิบัติงานมายาวนาน 10-30
ปี มีรายได้ต่อเดือนเพียง 11,000 บาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
และยังถูกตัดสวัสดิการความมั่นคงในหน้าที่การงานด้วย
นายแพทย์ชลน่าน
ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
ตนในฐานะที่เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งริเริ่มโครงการนี้ไว้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ขอรับข้อเรียกร้องและข้อเสนอนี้ โดยเฉพาะข้อเสนอเร่งด่วน
เช่น ค่าจ้าง ค่าเสี่ยงภัยโควิด จะนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านกลไกราชการ ส่วนข้อเสนอที่เหลือขอรับไว้พิจารณา และขอให้กำลังใจมดงานทุกคน
แต่ขณะนี้สถานภาพของว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้รับการรับรองเป็น ส.ส.
การแจ้งไปยังหน่วยงานมี่เกี่ยวข้องให้รับทราบปัญหา จะทำได้ทันทีในขั้นตอนต่อไป
และอยากมีโอกาสได้ไปทำหน้าที่เป็นรัฐบาลดูแลพี่น้องประชาชน
เพราะนโยบายทุกพรรคการเมืองมุ่งเน้นสิทธิเสรีภาพ สวัสดิภาพ
สวัสดิการของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนทำงาน
ทั้งนี้ในอดีตที่มีการยุบตำแหน่งลูกจ้างประจำของทุกหน่วยงานไป
ซึ่งกระทบถึงลูกจ้างหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงพนักงานกระทรวงสาธารณสุข
ให้เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยกฐานะ ยกศักดิ์ศรีทางอาชีพ เพื่อให้ได้รับโอกาสได้ค่าตอบแทนและสวัสดิการต่าง
ๆ โดยผู้ที่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าว จะได้รับเงินค่าตอบแทนจากเงินนอกงบประมาณ หรือมาจากเงินบำรุงที่สถานพยาบาลจัดเก็บได้จากการดำเนินกิจกรรมของสถานพยาบาล
ซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่ต้องส่งเข้าคลัง และได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง จึงมีความเห็นใจผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย
การจ่ายในอัตราดังกล่าวเป็นการจ้างในอัตราขั้นต่ำของเงินค่าจ้างในสมัยเป็นลูกจ้างประจำเป็นตัวกำหนด จ้างได้ไม่เกิน 4,100 บาท
แม้ปรับขึ้นมาสูงสุดที่ 15,000 บาท แต่ต้องทำงานระยะยาว 27-28
ปี แม้ทำงานล่วงเวลา มีรายได้เพิ่มขึ้น 3,000-4,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #สาธารณสุข