วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

‘บางแค’ วิกแตกกว่าหมื่นคนแห่ฟัง ‘เพื่อไทย’ ‘เศรษฐา’ ชู รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ขณะที่ ‘พิชัย’ ยืนยันประชุมครม.นัดแรก ลดค่าไฟทันที ดีเซลเหลือ 30 บาท

 


‘บางแค’ วิกแตกกว่าหมื่นคนแห่ฟัง ‘เพื่อไทย’ ‘เศรษฐา’ ชู รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ขณะที่ ‘พิชัย’ ยืนยันประชุมครม.นัดแรก ลดค่าไฟทันที ดีเซลเหลือ 30 บาท


วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวฝั่งธนฯ ณ ลานตรงข้ามตลาดบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โดยมีผู้สมัคร ส.ส.กทม. ประกอบด้วย นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 24  เบอร์ 8, นายกิตติพล รวยฟูพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 25 เบอร์ 14, นายศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร  ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 26 เบอร์ 2นางกมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 27 เบอร์ 4, นายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 28 เบอร์ 10, นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 29 เบอร์ 9, นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 30  เบอร์ 13, นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 31 เบอร์ 2, นายอารุม ตุ้มน้อย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 32 เบอร์ 13, และ นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 33 เบอร์ 13 ร่วมปราศรัยอย่างคึกคัก โดยมีพ่อแม่พี่น้องในเขตฝั่งธนบุรีทราบข่าวเดินทางมาฟังปราศรัยอย่างคับคั่งเต็มลานจนออกไปถึงสถานีรถไฟฟ้ากว่า 10,000 คน ชูป้ายตะโกนร้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างคึกคัก 


นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่ามาบางแคคราวนี้พบว่ามีบ้าน คอนโดมีเนียมสวยงามเกิดขึ้นรองรับความเจริญจำนวนมาก โดยเฉพาะบางแค มีคอนโด มีตลาดใหญ่หลายแห่ง มีถนนเพชรเกษมเป็นเส้นคมนาคมหลัก แต่หลายคนก็บอกว่าพรรคเพื่อไทยมีแต่นโยบายเอาใจคนชั้นกลาง ซึ่งในความจริงแล้ว นโยบายสำหรับคนเมืองรายได้น้อย พี่น้องคนทำงานหาเช้ากินค่ำ ควรต้องได้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าแต่ปรากฎว่ามีราคาแพง พรรคเพื่อไทยต้องการให้คนไทยได้ใช้ขนส่งสาธารณะในราคาถูก จึงเสนอนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เพื่อลดรายจ่ายให้พี่น้อง


“การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นมวยรอง เพราะเราเริ่มต้นที่ 0 แต่พลเอกประยุทธ์เริ่มต้นที่ 250 ทำอย่างไรเราจะเปลี่ยนขั้วอำนาจนี้เพื่อพาพี่น้องหลุดพ้นจากประยุทธ์ เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยเสียงไม่พอ เขาก็เสนอพลเอกประยุทธ์ กลับมาแน่นอน เราจะเปลี่ยนประเทศได้ทางเดียวคือเข้าคูหากาเพื่อไทย เพื่อเศรษฐกิจ สังคมเท่าเทียมและอนาคตที่ดีกว่า” นายเศรษฐา กล่าว


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะลดค่าไฟทันที ลดค่าน้ำมันดีเซลทันทีเหลือลิตรละ 30 บาท ที่ใครบอกว่าจะลดเหลือ 18 บาทบอกได้เลยว่าทำไม่ได้ พูดแบบไม่รู้โครงสร้างราคาพลังงานเลย นี่คือการลดค่าใช้จ่ายให้พี่น้อง นอกจากนี้เราจะมีกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพิ่มเงินในกระเป๋าพี่น้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นี่คือสิ่งที่เราคิดวางแผนล่วงหน้าจากนี้ไปอีก 10 ปีข้างหน้า


ด้านนายดนุพร ปุณณกันต์ ปราศรัยว่าวันนี้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นหมด ค่าไฟค่าน้ำมันแพง ผู้สูงอายุในต่างจังหวัดได้เงินสวัสดิการมาเดือนละไม่กี่ร้อยแต่ต้องมาจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้นเดือนละเป็นพันบาท พรรคเพื่อไทยจึงย้ำตลอดว่านโยบายเราคือการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และขยายโอกาสให้พี่น้อง ตั้งแต่นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน ทุกครอบครัวต้องมีรายได้ขั้นต่ำเดือนละ 20,000 บาท เพื่อให้ชาวฝั่งธนฯ กลายเป็นเศรษฐีฝั่งธนฯ


“พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ชัดเจนและทำได้จริง เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกอนาคตลูกหลานของตนเอง 14 พฤษภาคมนี้ ทวงคืนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบทั้งคนทั้งพรรค เปลี่ยนรัฐบาลประชาชนด้วยกัน” นายดนุพร กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66