‘ธนาธร’ หาเสียงเมืองปากน้ำโพ พบสมาคมขนส่งทางบกฯ
รับฟังปัญหาส่วยรถบรรทุกโยงวงจรทุจริตตำรวจ ชูนโยบาย ‘ก้าวไกล’
ยกเครื่องปฏิรูปตำรวจ ยุติวงจรทุจริต ล้างระบบตั๋ว-เส้นสาย เปลี่ยนเป็นระบบผลงาน
เชื่อ 3-5 ปีเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรตำรวจได้
วันที่
25 เมษายน 2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ร่วมหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.
ของพรรคก้าวไกล ที่ จ.นครสวรรค์
โดยช่วงเช้าได้เดินสายแห่รถและเปิดเวทีปราศรัยขนาดย่อมไปรอบ อ.ชุมแสง อ.เก้าเลี้ยว
และ อ.บรรพตพิสัย ร่วมกับ นิรุด เรืองงาม ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ เขต 3 (เบอร์ 10)
ส่วนช่วงบ่าย
ได้เข้าพบกรรมการสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
ที่มีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการรถบรรทุกกว่า 4 แสนคัน
พูดคุยรับฟังการสะท้อนปัญหาของสมาชิกสมาคมฯ พร้อมนำเสนอแนวทางแก้ไขของพรรคก้าวไกล
โดยเฉพาะต่อปัญหาการเก็บส่วยรีดไถ และการทุจริตของตำรวจ
ในกรณีจำกัดน้ำหนักการบรรทุกสินค้า
ซึ่งทางกรรมการของสมาคมฯ
ได้ร่วมสะท้อนปัญหาว่าในขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายพยายามอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างถูกต้อง
แต่กลับมีผู้ประกอบการอีกกลุ่มหนึ่งไม่เล่นตามกฎกติกา
ไปต่อรองผลประโยชน์กับตำรวจให้ตัวเองสามารถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ผ่านการมีสติ๊กเกอร์ผ่านทาง
ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องตามกฎหมายเสียเปรียบในการแข่งขันแล้ว
ยังทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติด้วย
ด้านธนาธร
หลังจากรับฟังความคิดเห็นมาระยะหนึ่งแล้ว กล่าวว่าตนเข้าใจเรื่องราวการถูกรีดไถดี
ในฐานะผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องใช้บริการขนส่ง
และพรรคก้าวไกลที่ผ่านมาก็เล็งเห็นถึงปัญหาการทุจริตในวงการตำรวจเป็นอย่างดีเช่นกัน
ซึ่งไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหาเพียงเรื่องของส่วยเท่านั้น แต่รวมถึงปัญหายาเสพติด
และอาชญากรรมที่ชุกชุมในช่วงนี้ด้วย
เพราะเราทุกคนรู้กันดี
ว่าระบบการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผู้กำกับทุกวันนี้
ไม่ได้อยู่ที่การรับใช้ประชาขน จับยาเสพติด จับโจรผู้ร้าย แต่อยู่ที่การรับใช้นาย
ต้องตั้งด่าน เก็บเงิน รีดไถ เพื่อส่งส่วยให้นายไปซื้อตั๋วกันเป็นทอดๆ
ใจความสำคัญของนโยบายปฏิรูปตำรวจของพรรคก้าวไกล
จึงอยู่ที่การยกเลิกระบบเส้นสายและระบบการซื้อตั๋วในวงการตำรวจให้หมดให้ได้
ธนาธรยังกล่าวด้วย
ว่าพรรคก้าวไกล คือพรรคที่ตั้งขึ้นมาไม่ใช่ด้วยเป้าหมายด้านผลประโยชน์ส่วนตัว
นี่คือข้อได้เปรียบที่ทำให้เราสามารถเริ่มต้นการปฏิรูปได้ตั้งแต่ระดับหัวลงไป
ทำให้อำนาจในการแต่งตั้งตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยุติการเรียกเงินได้
ซึ่งหากทำตั้งแต่ระดับหัวได้ ระดับล่างลงไปก็จะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในที่สุด
“เรื่องใหญ่ที่สุดในการปฏิรูปตำรวจก็คือการเปลี่ยนวัฒนธรรมในองค์กรตำรวจ
อาจจะต้องใช้เวลา ถ้าหัวไม่เรียกเงิน หางก็ไม่จำเป็นต้องส่งเงินขึ้นไปเป็นขั้นๆ
ถ้าเราเลิกสิ่งนี้ได้ตั้งแต่ต้นทาง
ทำให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยุติวงจรการเรียกเงินได้
นำระบบผลงานเป็นตัวชี้วัดมาใช้อย่างจริงจัง
ถ้าเริ่มต้นได้เมื่อไรมันจะต่อยอดไปทีละลำดับ สัก 3-5 ปีเชื่อว่าจะเปลี่ยนวัฒนธรรมในองค์กรตำรวจได้”
ธนาธรกล่าว
ส่วนในช่วงเย็นวันนี้
ธนาธรจะเข้าร่วมการแห่รถหาเสียง ร่วมกับ กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี ผู้สมัคร
ส.ส.นครสวรรค์ เขต 1
(เบอร์ 2) ในเขตอำเภอเมืองและเปิดเวทีปราศรัยที่อุทยานสวรรค์ต่อไป
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66