วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2566

ชาวพิจิตรแห่ฟังปราศรัยใหญ่เพื่อไทยล้นหลาม ‘เศรษฐา’ ปราศรัยครั้งแรก ประกาศอาสาทำเพื่อบ้านเมือง อ้อนชาวพิจิตรเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค ‘ณัฐวุฒิ’ เผย 17 มี.ค. นี้ ประกาศนโยบายชุดใหญ่

 


ชาวพิจิตรแห่ฟังปราศรัยใหญ่เพื่อไทยล้นหลาม ‘เศรษฐา’  ปราศรัยครั้งแรก ประกาศอาสาทำเพื่อบ้านเมือง อ้อนชาวพิจิตรเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค ณัฐวุฒิ’ เผย 17 มี.ค. นี้ ประกาศนโยบายชุดใหญ่ 


วันที่ 11 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย พิจิตร ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ณ วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อ.เมือง จ.พิจิตร ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นเกือบ 20,000  คน นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเพื่อไทยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย  และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร  ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย  พร้อมด้วย ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย นายภูดิท อินสุวรรณ และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย  นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร นายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ และอดีต ส.ส. เพื่อไทย นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ประกาศต่อที่ประชุมไว้ว่า ชูธง ปักชัย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียงขึ้นไป ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าไปกาในคูหาให้เกิดขึ้นมาจริง ๆ หากเพื่อไทยไม่ได้ 310 เสียง ชาวพิจิตรจะต้องอยู่กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปอีก 4 ปี เอาหรือไม่ ก่อนหน้านี้ไม่กล้าประกาศ ขอเพียงได้ 250 เสียง เพื่อเอาชนะ ส.ว. 250 คนเท่านััน แต่จากการรณรงค์พบปะพี่น้องประชาชนและการสำรวจของหลายสำนัก เพื่อไทยอาจได้ถึง 270 เสียงขึ้นไป อยากขอให้พี่น้องช่วยกันขยับเป้าหมายไปที่ 310 เสียง เพื่อปิดกั้นการกลับมาของพลเอกประยุทธ์ให้สิ้นซาก ช่วยกันจัดตั้งรัฐบาลของชาวพิจิตรและชาวไทยทุกคน


พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจและภูมิใจกับผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 3 เขตของพิจิตร ว่าเป็นคนที่อยู่กับพี่น้องประชาชน ทำงานกับพี่น้อง โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 คือรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร เขตเลือกตั้งที่ 2 อดีต ส.ส.ภูดิศ อินทร์สุวรรณ และเขตเลือกตั้งที่ 3 อดีต ส.จ. วิชัย ด่านรุ่งโรจน์ ทั้ง 3 คนคือโอกาสและความหวังของพี่น้องชาวพิจิตรยกจังหวัด เชื่อว่าการเลือกตั้งจะไม่เกิน 14 พฤษภาคม นี้ ขอให้กา ส.ส. พรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขต และกาบัญชีรายชื่อเพื่อไทย โดยจำสัญลักษณ์ให้ดี เจอสัญลักษณ์นี้กาทันที


พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นต้องจับมือกับพี่น้องประชาชน ยืนยันว่าเราไม่ยอมจับมือกับพลเอกประวิตร เพื่อไทยพรรคเดียว ขอให้พี่น้องมั่นใจกับคนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่ได้ 310 เสียง เราจะไม่มีอำนาจ ถ้าทำได้จะได้นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย” นายแพทย์ชลน่านกล่าว


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า  พรรคเพื่อไทยทราบดีว่าพี่น้องเจอปัญหามากมาย  เพื่อไทยจะแก้ปัญหาให้ชาวเกษตรกร เรามีนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ผ่าน 3 ดี ได้แก่ ดินดี น้ำดี เมล็ดพันธุ์ดี เพื่อให้ราคารสินค้าเกษตรดีถ้วนหน้า ราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นยกแผง และจากปัญหาที่กินทำกิน พรรคเพื่อไทยมี 4 ขั้นตอนที่จะทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นได้ คือ


1. นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพิสูจน์สิทธิ์อย่างเป็นธรรม

2.จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน

3. แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน

4. ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า


นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า เกษตรกรต้องมีลดต้นทุนลง ราคาสินค้าเกษตรต้องดียกแผง ข้าวราคาดี ปุ๋ยราคาถูก พรรคเพื่อไทยมีนโยบายนำนวัตกรรมมาเสริม เวลานาล่มก็ไม่ต้องเสียเงิน มีทุนมาให้ทำเกษตรกรรมต่อเนื่อง เราเล็งเห็นปัญหาและพร้อมแล้วที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกช่วงอายุ ช่วงวัย ช่วงอาชีพ จึงขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขตของพิจิตรให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดพิจิตร


คุณเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  บุคคลท่านนี้เรามั่นใจได้เลย ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยจะขึ้นอย่างแน่นอน” นางสาวแพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย


นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยครั้งแรกที่เวทีพิจิตร คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทย ทุกคน ในวันนี้ว่า รู้สึกเป็นเกียรติ และรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นความภูมิใจ มีความซึ้งใจเป็นอย่างมาก วันนี้ตนมีหัวใจที่รักพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอาเผด็จการ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ตนในฐานะนักธุรกิจที่สั่งสมประสบการณ์มากว่า 30 ปี ต้องก้าวออกมาจากวงการธุรกิจ  และมาทำเพื่อบ้านเมือง 


ทั้งนี้ในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมายาวนานมาก สูญเสียโอกาส รายได้ลดลง รายจ่ายสูงขึ้น ยาเสพติดระบาดทั่วทุกระแหง ลูกหลานไม่เห็นอนาคตประเทศ คนที่มีความสามารถในการย้ายถิ่นฐานย้ายประเทศ บุตรหลานไม่อยากมีลูก เพราะไม่อยากเห็นอนาคตที่ไม่สดใจ คนแก่เฒ่าเกษียณอายุ มีเงินเก็บไม่พอเลี้ยงดูตัวเองอย่างมีความสุข มีศักดิศรีได้ในสังคม ไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย วันนี้เราถดถอยขนาดไหน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีดีพีเติบโตมากกว่าเรามโหฬาร  ประเทศไทยไม่มีเวทียืนในเวทีโลก ผู้นำไม่เคยออกไปเปิดตลาดขายสินค้า เปิดตลาดใหม่ ๆ เป็นความคับแค้นใจของพวกเรา


ในอดีต พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ทำนโยบายนำ นำความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้พรรคเพื่อไทยภายใต้สโลแกนคิดใหญ่ ทำเป็น เคยทำ และหวังว่าจะได้ทำ  มาขอเสียงพี่น้องประชาชนสู่จุดมุ่งหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยทุกคน ตนอยากเห็นประเทศชาติมีอนาคต มีแสงสว่างที่ดี นำพาลูกหลานไปสู่อนาคตที่สดใส 


“8 ปีที่ผ่านมาเพียงพอหรือยัง ผมว่าพอนะครับ อีกไม่กี่เดือน วันที่ 7 หรือ 14 พฤษภาคม เราจะมีวันสำคัญยิ่ง ที่จะเกิดขึ้นคือวันเลือกตั้ง ถ้าเราไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ใน 8 ปี เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งสองเบอร์ ทั้งคน ทั้งพรรค ไม่ปันใจให้คนอื่น ไม่สามารถทำได้ เพราะหากมีพรรคอื่นเข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่ิคิดมาและเห็นว่าเหมาะสม และพี่น้องจะไม่ได้ในสิ่งที่เราสัญญาไว้ ผมและเพื่อนร่วมทีม จากพรรคเพื่อไทยไม่อยากจะกลับมาอีก มาอธิบายว่าทำไมเราทำไม่ได้ อยากจะกลับมาอีกพร้อมกับนโยบายใหม่ๆที่จะทำให้รายได้ของพี่น้องสูงขึ้น วันนี้ผมขอ ครั้งแรกที่มาปราศรัยที่นี่ ขอชาวพิจิตรแลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้ง 3 เบอร์” นายเศรษฐากล่าว


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยมาเป็นทีม มีหัวหน้าพรรค หัวหน้าครอบครัว ทีมเศรษฐกิจ มีนักการเมืองคุณภาพ ขณะที่ฝ่ายตรงข้าม ไม่มีใคร มีแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับเฝือกหนึ่งอันที่แขนขวา พลเอกประยุทธ์เป็นทั้งแคนดิเดต หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อไทยมาเป็นแผง เราวางคนให้ตรงงาน เอาความรู้ความสามารถให้ตรงกับการแก้ปัญหา เป็นการรวมตัวกันของคนคุณภาพทางการเมือง กลไกราชการ ภาคธุรกิจและเอกชน


“ไม่มีพรรคการเมืองไหนพร้อมเท่านี้ ไม่มีทีมไหนพร้อมเท่าเพื่อไทยอีกแล้ว เหลือเพียงคนไทยพร้อมหรือยัง คนพิจิตรพร้อมหรือยังที่จะเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เดินหน้านโยบายที่ประกาศไว้ และวันที่ 17 มีนาคม นี้ อย่าไปไหน ขอให้ติดตามข่าวดี พรรคเพื่อไทยจะเปิดเวทีใหญ่ ประกาศนโยบายสำคัญชุดใหญ่ นโยบายที่ประชาชนจะไชโย แล้วพลเอกประยุทธ์จะอกแตกตาย นโยบายที่ประชาชนจะได้ลืมตาอ้าปาก และส่งพลเอกประยุทธ์กลับบ้าน ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจะส่ง 3 คน บนเวทีนี้มีอย่างน้อย 2 คน” นายณัฐวุฒิกล่าว


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันพยายามรักษาอำนาจ พยายามอยู่ต่อ ถึงกับบอกว่าถ้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ก็ยังมี ส.ว. 250 คนที่คอยจะยกมือให้พลเอกประยุทธ์ไปต่อ ตนนั้นไม่เชื่อในอำนาจที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ยอมรับและให้เกียรติรัฐประหาร ตนเชื่อมั่นและเคารพในอำนาจที่มาจากประชาชนเท่านั้น ดังนั้น ถ้าพลเอกประยุทธ์ตั้ง ส.ว. 250 คน คนไทยจะเลือกเพื่อไทย 310 เสียงชนะกันให้เด็ดขาด มีคนบอกว่าพรรคเพื่อไทยจะไปยกมือให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ต้องกลัว ถ้าพรรคเพื่อไทยเกินครึ่ง เราตั้งรัฐบาล แก้ปัญหาให้ประชาชน


“ในยุคปัจจุบัน การเลือกตั้งที่จะมาถึง ปรากฎพรรคการเมืองรูปงาม ไม่ได้ชื่อไกรทอง แต่ชื่อเพื่อไทย ขออาสาจัดการ ‘ไอ้สาละวัน’ ชาละวันมีเขี้ยวเพชรคงกะพัน ไอ้สาละวันมี ส.ว. 250 คน ไกรทองปราบชาละวันด้วยหอกสัตตโลหะ พรรคเพื่อไทยจะปราบไอ้สาละวันด้วยปากกาประชาชน ไกรทองฆ่าชาละวันโดยเอาหอกทิ่มก้านคอ พรรคเพื่อไทยจะฆ่าสาละวันโดยประชาชนทิ่มปากกาในบัตรเลือกตั้งแล้วกาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ สู้ครั้งนี้ไม่ได้เพื่อช่วยนางตะเภาทอง แต่เพื่อช่วยตัวเอง ช่วยลูกหลานเรา บ้านเมืองเรา เพราะถ้าชีวิตดีคงดีตั้งแต่ 8 ปีไปแล้ว แต่นี่จะพาไปต่อ แต่ไม่รู้พาไปไหน ไม่รู้ว่านโยบายคืออะไร”


นายณัฐวุฒิ กล่าวถึง กรณีมีผู้ยื่นยุบพรรคเพื่อไทยว่าอย่าไปกังวล พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ทำอะไรผิด บางคนบอกณัฐวุฒิไม่มีสิทธิ์ขึ้นเวทีปราศรัย ขอประกาศให้ทราบว่าตนไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แค่ถูกขังคุกทำให้ไม่สามารถสมัครส.ส.ได้ ยังมีสิทธิ์เลือกตั้ง มีสิทธิ์กาให้พรรคเพื่อไทยได้ และขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นคนแต่งตั้งมา


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #พิจิตร #เลือกตั้ง66