วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

‘หมอหวาย’ เป็นกังวลอาการ ‘ตะวัน-แบม’ หากยังมีสติ ขอให้น้องเริ่มเข้ารับการรักษาทันที! ขณะที่ ‘หมอเหวง’ ฝากความหวังและความเชื่อมั่นกับคณะแพทย์รพ.ธรรมศาสตร์

 


หมอหวาย เป็นกังวลอาการ ตะวัน-แบม หากยังมีสติ ขอให้น้องเริ่มเข้ารับการรักษาทันที! ขณะที่ หมอเหวง ฝากความหวังและความเชื่อมั่นกับคณะแพทย์รพ.ธรรมศาสตร์


วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่เพจเฟซบุ๊ก สลักธรรม โตจิราการ ได้โพสต์ข้อความแสดงความเป็นกังวลต่อข่าวที่ลงแพร่หลายในโซเชียล แจ้งว่า แพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ โทรแจ้งกับพ่อแม่ ตะวัน-แบม ว่าอาการทั้งสองทรุดลงอย่างน่าวิตก ขอให้พ่อแม่และทนายไปเยี่ยมในเช้าวันรุ่งขึ้น ดังนั้น หมอหวาย จึงได้โพสต์ข้อความว่า


เห็นข่าว #ตะวันแบม สุขภาพไม่ดีแล้วกังวลครับ ถ้าน้องเลือดเป็นกรดร่วมกับมีคีโตนซึ่งเกิดจากการย่อยสลายไขมันที่เหลือในร่างกาย (starvation ketoacidosis) ก็แปลว่าชีวิตมีความเสี่ยงแล้วครับ ถ้าเป็นกรดมากๆ อาจไม่ไหว


ถ้าน้องยังมีสติ ผมคงขอให้น้องเริ่มเข้ารับการรักษาทันที ซึ่งถ้ามาถึงขั้นนี้ต่อให้น้องจะเลิกอดอาหารอดน้ำก็ให้อาหารและน้ำทางปากไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นถ้ากินทันทีเซลล์ลำไส้ที่อ่อนแอจะทนไม่ไหวแล้วแล้วเซลล์ตายเกิดภาวะเกลือแร่ผิดปกติซ้ำซ้อนเข้าไปอีก ได้แค่ให้น้ำเกลือและอาหารทางหลอดเลือดไปก่อนแล้วรอฟื้นฟู


แต่ถ้าน้องหมดสติแล้ว ผมคิดว่าโดยทั่วไปหมอน่าจะเริ่มรักษาได้ เพราะน้องไม่ได้มีโรคร้ายแรงที่ทำให้ทรมานจนอยู่แบบไม่มีศักดิ์ศรี และเท่าที่ตามข่าวน้องก็ไม่ได้แสดงความประสงค์ที่จะห้ามกู้ชีพ(no CPR) ก่อนหน้านี้ด้วยครับ


ขณะเดียวกัน นพ.เหวง โตจิราการ ได้โพสต์ข้อความว่า


“ภาวนาขอให้นักสู้ของประชาชนทั้งสองท่านได้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์เช่นเดิม เพื่อจะได้ช่วยกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในสังคมไทยให้ปรากฏเป็นจริงต่อไปครับ ฝากความหวังและความเชื่อมั่นกับคณะแพทย์รพ.ธรรมศาสตร์ให้ดำเนินการรักษาพยาบาลจนนักสู้ทั้งสองของประชาชนกลับมามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดังเดิมครับ”


“ยูดีดีนิวส์” ได้ส่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และเฝ้าติดตามอาการทั้ง ตะวัน-แบม อย่างใกล้ชิด และจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบในโอกาสต่อไป


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คืนสิทธิประกันตัว #มาตรา112