‘โรม’ สวน ‘ประยุทธ์’ กล้ามาก สอนคนอื่น เคารพกฎหมาย
ทั้งที่ตัวเองเป็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร
ย้อน จำได้ไหม คสช. นิรโทษกรรมให้ตัวเอง ชี้ ความปรองดองจะเกิดขึ้น
ต้องมีอย่างน้อย 3 ข้อ
วันที่
10 กุมภาพันธ์ 2566 รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล
แสดงความเห็นกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นการนิรโทษกรรม ระบุทุกคนที่ทำผิดกฎหมาย
ต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม ถ้านิรโทษกรรมให้คนบางกลุ่ม
แสดงว่าต้องนิรโทษกรรมให้คนทั้งคุกเลยหรือไม่
รังสิมันต์
กล่าวว่า ต้องถือเป็นความกล้าหาญของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สอนคนอื่นให้เคารพกฎหมาย
ทั้งที่ตัวเองเป็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ
กระทำความผิดที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่ยังลอยหน้าลอยตาเป็นนายกฯ
มาได้จนถึงปัจจุบัน เพราะเขียนนิรโทษกรรมตัวเองและพวกลงในรัฐธรรมนูญ 2560
มาตรา 279
แม้ประชาชนนับแสนคนเคยเข้าชื่อขอแก้รัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว
เพื่อเปิดทางให้มีการดำเนินคดีกับคณะรัฐประหาร แต่ก็ถูก ส.ว.
ที่มาจากการแต่งตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ปัดตก
จึงไม่รู้ว่าตอนที่พูดประโยคเหล่านั้นออกมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฉุกคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำมาก่อนบ้างหรือไม่
รังสิมันต์
กล่าวอีกว่า พล.อ. ประยุทธ์ ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับความปรองดอง
ตนและพรรคก้าวไกลยืนยันว่าความปรองดองในสังคมไทยจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีอย่างน้อย 3
ขั้นตอน
หนึ่งคือการคืนสิทธิประกันตัวแก่ผู้ต้องหาคดีการเมืองที่ยังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด
สองคือการนิรโทษกรรมคนเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งในทุกเหตุการณ์ความสูญเสีย
ต้องเริ่มจากการค้นหาความจริงและตามหาผู้รับผิดชอบ
สามคือการแก้ไขกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ดังนั้น
ความปรองดองไม่ใช่แค่การสร้างความรักความสามัคคีแบบปลอม ๆ อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์
กล่าวอ้าง และการนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความปรองดอง
แต่ต้องเป็นการนิรโทษกรรมประชาชน ไม่ใช่นิรโทษกรรมผู้มีอำนาจ
หรือนิรโทษกรรมให้คนที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน ลอยนวลพ้นผิด
“ถ้ายึดตาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าทุกคนที่ทำผิดกฎหมาย
ต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม ผมคงต้องถามกลับไปที่ พล.อ. ประยุทธ์
ว่าการรัฐประหารนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ หากไม่ผิด ทำไม คสช. ต้องนิรโทษกรรมตัวเอง
แต่ถ้าผิด พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะคนที่อ้างนักหนาว่าเคารพกฎหมาย
พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่” รังสิมันต์ กล่าว