“ทนายวิญญัติ” เข้าแจ้งความ “ศรีสุวรรณ”
กรณีไปร้อง กกต. สอบ “ทักษิณ” ครอบงำ “พรรคเพื่อไทย” ปมค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เป็นการจงใจใส่ร้ายโดยไม่ได้ตรวจสอบ
วันนี้ (15 ธ.ค. 2565) เวลา 10.00 น.
ที่สน.ทุ่งสองห้อง นายวิญญัติ ชาติมนตรี
เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.)
พร้อมทีมงานเข้าแจ้งความกล่าวโทษ ให้สืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ จรรยา จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ
เป็นผู้แจ้งหรือผู้กล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
อันเป็นความเท็จต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
โดยน่าเชื่อว่ามีเจตนาพิเศษกลั่นแกล้ง กล่าวหาพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ชินวัตร
ในลักษณะน่าจะเป็นการจงใจใส่ร้าย
กล่าวหาว่ามีการกระทำผิดกฎหมายโดยมิได้ตรวจสอบให้ดีหรือมิได้มีพยานหลักฐานยืนยันการกระทำของพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ
ชินวัตร กระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยจริง
นายวิญญัติ กล่าวว่า
ข้อเท็จจริงที่รับรู้กันทั่วไปว่าพรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600
บาทต่อวัน ในปี 2570
ต่อสาธารณะเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ต่อมามีบุคคลต่าง ๆ หรือพรรคการเมืองอื่น
ก็ต่างมาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ เช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร
ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังมีการประกาศนโยบายนั้นแล้ว แต่นายศรีสุวรรณกลับนำมาเป็นพฤติการณ์เพื่อนำไปเชื่อมโยงให้เข้าลักษณะว่าเป็นการครอบงำชี้นำพรรคเพื่อไทย โดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ
การกระทำของนายศรีสุวรรณ
จึงน่าจะเป็นการกระทำเข้าข่ายกระทำความผิดฐานแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมืองหรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 101
วรรคหนึ่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
และข้อหาฐานเป็นผู้รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น
แต่กลับแจ้งข้อความแก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้กระทำความผิด
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท
นายวิญญัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเห็นว่าการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง อันเป็นเสรีภาพแก่บุคคลจัดตั้งพรรคการเมืองตามวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เปิดโอกาสในการกำหนดนโยบาย และการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จึงมีพรรคการเมืองหลากหลายที่มาจากการสนับสนุนของประชาชน นี่คือสิ่งที่ต้องรักษาตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่จะหาเรื่องยุบพรรคการเมือง ทำลายหลักการประชาธิปไตย หรือใช้สิทธิใด ๆ ที่ไม่สร้างสรรค์หรือไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมมาทำลายพรรคการเมือง บุุคคลต้องเคารพต่อเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการให้พรรคที่ตนสนับสนุนได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ผ่านการเลือกตั้ง มีการแข่งขันกันที่นโยบายของแต่ละพรรคและบุคคลที่เสนอตัวลงเลือกตั้ง และไปวัดกันด้วยการพิสูจน์ผลงาน จึงไม่ควรใช้กระบวนการใด ๆ มาทำลายพรรคการเมืองด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่สมเหตุสมผลอีก ตนจึงมาแสดงออกถึงการปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักการประชาธิปไตย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์