คปช.53
จี้! พรรคการเมือง ร่วมมือชำระคดีความ หยุดวงจร “ลอยนวลพ้นผิด”
[บทคัดย่อ] แถลงข่าวการดำเนินงานทวงความยุติธรรม 2553
โดย
คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53)
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565
ณ อนุสรณ์สถาน 14ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง
อ.ธิดา
ถาวรเศรษฐ แถลง :
เนื่องจากมีการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนหลังรัฐประหาร 2549 ซึ่งเป็น 2
ทศวรรษแห่งความขัดแย้งใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553
ยังไม่สามารถทำความจริงให้ปรากฏได้ชัดเจนว่าผู้ฆ่า ผู้สั่งฆ่าเป็นใคร
ยังลอยนวลพ้นผิด อันที่จริงเขารู้กันหมด
กระบวนการยุติธรรมหลังมีการทำรัฐประหารเริ่มเบี่ยงเบนและหยุดชะงัก ตั้งแต่มีการทำรัฐประหาร
2557 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยุติธรรมในระดับต้น ในระดับกลาง
และในระดับปลาย ผลพวงการทำรัฐประหารได้ทำให้มีการเบี่ยงเบนและก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนมาจนถึงบัดนี้
และความยุติธรรมนั้นยังไม่มีมาจนถึงปัจจุบัน
ถ้าคุณฆ่าคนแล้วผู้สั่งฆ่าผู้ฆ่ายังลอยนวลพ้นผิดได้
การที่ตาข้างหนึ่งของคุณถูกกระสุนยางบาดเจ็บมันจะครณาอะไร เพราะว่าการตาย 2553
เป็นการตายที่ประจานประเทศไทยมากที่สุดใน 2 ทศวรรษนี้
เราจึงมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนของผู้ติดตามสถานการณ์ 2553
ที่ต้องการทวงความยุติธรรมให้คนในประเทศและสังคมโลกได้รับรู้ ว่ามีการเสียชีวิต
บาดเจ็บ ถูกจับกุมคุมขังโดยมิชอบ
เพื่อนำคดีขึ้นสู่ศาลยุติธรรมในประเทศและระหว่างประเทศ
หมายถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ ให้ได้! เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ฆ่าคนที่มีความคิดต่างมือเปล่ากลางถนน
แล้วผู้สั่งการผู้กระทำยังลอยนวลพ้นผิด จะเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าถ้า 2553 ยังลอยนวลพ้นผิด 2565 กระทั่ง 2575
ร้อยปีนับจากเปลี่ยนแปลงการทำการปกครอง คนฆ่าประชาชนมือเปล่าก็จะเกิดขึ้น “ลอยนวล”
เหมือนเดิม ดังนั้น เราจึงตั้งคณะขึ้นมาเพื่อทำงานติดตามเพื่อที่จะให้คดีความทั้งหลายสามารถเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเป็นทางออกของประเทศ
นี่เป็นเวลาต่อสู้รอบใหม่ของคนเสื้อแดง
พรรคการเมืองก็เป็นการต่อสู้รอบใหม่ เราเป็นขานอกรัฐสภา
เราก็ต้องเริ่มการต่อสู้รอบใหม่เช่นกัน
จึงขอส่งสารไปยังคนเสื้อแดงทั่วประเทศว่าได้เวลาแล้ว
ท่านอาจจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดก็ได้ แต่ท่านต้องไม่ลืมสิ่งที่เกิดขึ้น
ถ้าท่านไม่ร่วมกันทำให้คนเสื้อแดงที่เสียชีวิตหรือประชาชนทั่วไปที่เสียชีวิตกลางถนนแล้วจะต้องมาตายฟรี
ดิฉันพูดแทนหัวใจคนเสื้อแดงได้ว่า “ไม่มีใครลืม”
ท่านสนับสนุนพรรคการเมืองในเวทีรัฐสภา แต่ท่านอย่าลืมขานอกเวทีรัฐสภา
เรายังสู้ด้วยกันเพราะภารกิจยังไม่จบค่ะ
ฆ่าแล้วยังปกป้องผู้ฆ่ากับผู้สั่งฆ่า
แล้วกระบวนการยุติธรรม ถ้าเราไม่มีการต่อสู้
เขาก็จะทำกับลูกหลานเราต่อไปข้างหน้าอย่างไม่สิ้นสุด ดังนั้น การดำเนินคดีในประเทศ
ทั้งขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย จึงต้องอาศัยสติปัญญาความร่วมมือของนักกฎหมายละทนายของเรา
หาทาง หาวิธี ที่จะพังป้อมค่าย ฝ่าด่านที่มันกั้นความยุติธรรมเอาไว้
ไม่ว่าจะโอบอุ้มนักการเมือง ไม่ว่าจะโอบอุ้มทหาร ถ้าทหารทำความผิดต่อพลเรือน
ให้ขึ้นศาลพลเรือนค่ะ
มีคดีจำนวนมากที่เราถูกข้อหายัดเยียด
ตั้งข้อหาไว้ก่อน ไม่ให้ประกันตัว จำคุกอยู่ 4 ปี 5 ปี 6 ปี แล้วสุดท้ายศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด
แล้วเป็นไง? ติดคุกฟรี ไม่มีการเยียวยา
เขาบอกว่าที่ไม่ให้เยียวยาเพราะว่าศาลไม่ได้ตัดสินว่า “ไม่มีความผิด”
แต่หลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิดได้ ไม่มีการเยียวยา
นี่คือสิ่งที่คนเสื้อแดงถูกกระทำ แล้วลูกหลานของเราบัดนี้ก็ถูกกระทำแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นข้อเสนอว่าต้องมีการเยียวยาให้กับในทุกกรณีที่ศาลตัดสินให้พ้นผิด
ถ้าเราทำ
4 ข้อมาทั้งหมดแล้วมันไม่ได้ผลเลย ยังมีป้อมค่ายป้องกันนักการเมืองให้พ้นผิด
ยังมีป้อมค่ายป้องกันกองทัพให้พ้นผิด เราก็ต้องทะลุป้อมค่ายออกไป
นั่นก็คือรวบรวมหลักฐานใหม่เพื่อส่งให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)
เพิ่มเติมจากที่เคยยื่นไปเมื่อปี 2555
เราอยากจะรู้ว่าในฤดูการเลือกตั้งที่จะมีมาถึง ที่กำลังทำสงครามขับเคี่ยวแย่งที่นั่ง
ท่านคิดถึงฐานประชาชนที่ต่อสู้เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยอยู่ในประเทศไทย
และเขาได้เสียชีวิตมามากมาย เหมือนกับอนุสรณ์สถานตั้งแต่ 14ตุลา เป็นต้นมา
จนกระทั่งถึงพฤษภา53 และมาจนถึงปัจจุบันนี้
พรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย
ดิฉันจะถามว่า คุณจะสามารถบอกประชาชนได้ไหมว่าเมื่อคุณเข้าไปอยู่ในรัฐสภา
เมื่อคุณเป็นรัฐบาล คุณจะอนุญาตให้ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาสืบสวน สอบสวน
ในกรณีเฉพาะการตายการบาดเจ็บประชาชน 2553 ได้หรือเปล่า?
ต้องถามกันตั้งแต่ก่อนลงเลือกตั้ง ก่อนกาบัตรในหีบบัตร เพราะว่าพอเป็นรัฐบาลแล้ว “เสียงประชาชน”
มันเบาแทบไม่ได้ยิน
เพราะฉะนั้นเที่ยวนี้เราจึงจำเป็นต้องมาขับเคลื่อนเพื่อว่าให้สอดคล้องกับสถานการณ์
ดิฉันขอเรียกร้องว่าเราทำด้วยกัน
และเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเรา แต่เราทำเพื่อประเทศ ทั้งลูกหลานปัจจุบันและอนาคต
มันเป็นการต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้เป็นทางออกของประเทศ ไม่ต้องมาเข้าข้างเรา
ไม่ต้องมาเข้าข้างคนเสื้อแดง
เราเพียงแต่ต้องการให้กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นจนปลายไม่ถูกแทรกแซง
ไม่เบี่ยงเบน และเป็นกระบวนการยุติธรรมที่ให้ความเสมอภาคกับประชาชนไทยถ้วนหน้า
คณะของเราทำอยู่ในกรอบของกฎหมาย
รักษากติกากฎหมาย แม้กฎหมายจะไม่เป็นธรรม เราก็เรียกร้อง
เพราะกฎหมายก็มีชนชั้นและผลประโยชน์ ดังนั้น การต่อสู้ของเราเที่ยวนี้
ขอให้เข้าใจว่าเป็นการต่อสู้ระยะยาว ในวัตถุประสงค์นี้เขียนระยะสั้น ระยะยาวไว้หมด
ไม่มีการหลอกใคร การต่อสู้นี้มันจะยืดยาวกี่ปีไม่รู้
และพวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้อาจจะทำไม่สำเร็จ
แต่รูปแบบการจัดตั้งและเป้าหมายจะอยู่ตลอด และพวกเราคนอื่น ๆ จะเข้ามาทำ
เพราะว่าคนที่นั่งอยู่ไม่สำคัญเท่ากับหลักการและโครงสร้าง
ท่ามกลางการพูดคุยครั้งสุดท้ายก็คือมีข้อเสนอจากฝ่ายนักกฎหมายของเราทนายของเรา
ก็คือ เสนอไปยังพรรคการเมือง นักการเมืองด้วย ก็คือ
เราต้องการให้มีคณะกรรมการพิเศษซึ่งประกอบด้วยฝ่ายต่าง ๆ เพื่อชำระคดีความปี 2553
ให้ได้ความยุติธรรมและเป็นทางออกทางเดียวของประเทศค่ะ
ตัวแทนญาติวีรชน
กล่าวว่า ฝากขอบคุณด้วยน้ำใจที่มีให้กับพวกญาติวีรชน อยู่บนเวทีตรงนี้น้ำตามันจะไหล
เหมือนวิญญาณทุก ๆ คนนั่งรอความยุติธรรมอยู่
แต่ความยุติธรรมมันยังไม่ได้เดินหน้าไปหาใครเลย ทุกท่านคงได้ยินข่าวคนที่ทำร้ายแมว
แมวตัวหนึ่งท่านยังรักษาชีวิตมัน ท่านยังออกโซเชียลเรียกร้องความยุติธรรมให้มัน
แต่นี่เป็นวิญญาณของคนนะคะ ชีวิตคนกับสัตว์มันมีค่าเท่ากัน
แต่วุฒิภาวะมันมีไม่เท่ากัน
แต่ความคนมีเสมอเหมือนเท่ากันหมดไม่ว่าคุณจะอยู่เหนือฟ้าหรือใต้ดิน
เหมือนที่น้องชายดิฉันและญาติวีรชนทุก ๆ คนที่อาจจะมาไม่ครบในวันนี้
แต่ทุกคนยังรอความยุติธรรม ยังรอให้มีการไต่สวน ถ้าพวกเราผิดเราก็ก้มหน้ารับกรรมของเรา
แต่การไต่สวนยังไม่มีเกิดขึ้นเลย เราจะต้องเรียกร้องความยุติธรรมอันนั้นคืนมา
เพราะว่าคนตายพูดไม่ได้
นายบรรเจิด
ฟุ้งกลิ่นจันทร์ บิดาของนายเทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์ ซึ่งเสียชีวิตที่สี่แยกคอกวัว
กล่าวว่า ผมก็ดีใจกับพี่น้องคนเสื้อแดงและญาติ ๆ
ที่ยังมีผู้ใหญ่ทวงความยุติธรรมให้กับญาติ ๆ ให้พี่น้องคนเสื้อแดงช่วย ๆ
กับญาติเป็นกำลังใจญาติและญาติ 10 เมษา-พฤษภา จะต่อสู้จนกว่าหมดลมหายใจ
ทนายโชคชัย
อ่างแก้ว กล่าวว่า ผมเป็นทนายความซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับคดีความของคนเสื้อแดงมาตั้งแต่เหตุการณ์ปี
2553 ซึ่งนับถึงวันนี้ก็ 12 ปีแล้ว รอบนี้เป็นการต่อสู้รอบใหม่ของคนเสื้อแดงเพื่อทวงความยุติธรรม
ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นหลักซึ่งต่อไปนี้ในฐานะที่ผมเองเป็นทนายความ
เป็นนักกฎหมาย เป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งที่จะร่วมต่อสู้และทวงความเป็นธรรม
ทวงความยุติธรรมให้กับพี่น้องที่สูญเสีย
ทนายวิญญัติ
ชาติมนตรี กล่าวว่า หลายคนจะเห็นว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเป็นการต่อสู้หนึ่งที่ยืนยาวและเป็นแบบอย่างให้กับน้อง
ๆ เยาวชนและคนที่ออกมาเรียกร้องเรื่องของประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในปัจจุบัน
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือเรื่องของอำนาจรัฐที่กระทำต่อประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม
สิ่งนี้ครับคือผมก็เป็นทนายความอย่างที่พี่โชคชัยบอก
พวกเราเล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้ที่จะนำไปสู่การ
นอกจากเรียกร้องความเป็นธรรมในวันนี้ตามวัตถุประสงค์ที่อาจารย์ธิดาได้แถลงไปแล้ว
เราพร้อมที่จะประกาศตัวว่า ต่อจากนี้เราจะไม่รับอย่างที่ผ่านมา เราจะรุกกลับ
และเราจะชำระพวกท่านคืน!
ทนายปิ่น
กล่าวว่า พวกกระผมในฐานะทนายความได้ต่อสู้อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ของท่าน
พวกเราได้ตั้งองค์กรกันขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยเหลือในทางกฎหมาย
แม้ว่าเราจะไม่ประกาศชัดเจนว่าเรารักความเป็นธรรมอย่างไร
แต่ว่าเมื่อเห็นท่านทั้งหลายออกมาเรียกร้องความยุติธรรมที่มันไม่มีในประเทศนี้
จนถึงกระทั่งสูญเสียชีวิต พวกเราก็ทนอยู่ไม่ได้ที่จะออกมาเป็นกำลังสนับสนุนให้กับท่านอย่างที่คณะทนายได้พูดไปแล้ว
พวกเราขอยืนยันว่าจะทวงความยุติธรรมคืนให้กับประชาชนตลอดไป
นพ.เหวง
โตจิราการ กล่าวว่า คือคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 เป็นก้าวแรก แต่เป็นก้าวสำคัญที่สุดของการหยุดใช้ทหารฆ่าประชาชนสองมือเปล่าในประเทศไทยอีกต่อไป
คือถ้าเราทำไม่สำเร็จนะ มันก็จะฆ่าต่อไปเรื่อย ๆ
เราจะยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นต่อไปในประเทศไทยหรือเปล่าครับ เราไม่ยอมใช่มั้ยครับ
ถึงเวลาแล้ว พี่น้องเสื้อแดงทั้งประเทศ ผู้รักความยุติธรรมทั้งประเทศ อาจจะมีความรู้สึกว่าเราซบเซากันมานาน
แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเราต้องลุกขึ้นแล้วใช่มั้ยครับภายใต้กรอบของกฎหมาย
แต่ผมขออนุญาตที่จะกราบเรียนความเห็นส่วนตัวของผมซึ่งคิดว่าสำคัญไม่ต่างกัน
นั่นก็คือ
ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องเอาคณะรัฐประหารที่แม้จะชนะมาลงโทษตามกฎหมายด้วยครับ
ระยะนี้พรรคการเมืองพยายามหาเสียงกันอย่างคึกคักคึกโครม
ผมจึงฝากพี่น้องเสื้อแดงทุกคนทั่วทั้งประเทศ และฝากผู้รักความยุติธรรมทั่วทั้งประเทศ
ไปถามนักการเมืองทุกคนและพรรคการเมืองดังต่อไปนี้ครับ ถามว่าคุณจะลงส.ส.ใช่ไหม?
พรรคการเมืองคุณอยากจะชนะถล่มทลายแลนด์สไลด์ใช่ไหม? คุณจะอนุญาตให้ทหารฆ่าประชาชนสองมือเปล่าทั่วทั้งประเทศเกิดขึ้นได้อีกครั้งหนึ่งหรือเปล่า?
ถามเขาเลยครับ แล้วขอคำตอบเขาด้วย ต้องมัดไว้เลยครับ ว่าถ้าพวกผมเลือกคุณ
แล้วคุณจะอนุญาตให้ทหารหรือปล่อยให้ทหารใช้อาวุธสงครามมาฆ่าประชาชนสองมือเปล่าที่ชุมนุมด้วยความสงบสันติปราศจากอาวุธอีกต่อไปหรือเปล่า?
ทีนี้ถ้าเขาตอบว่าทำ
เราก็บันทึเทปไว้เลย ถามต่อเลยครับ ถ้าคุณทำนะ ถ้าคุณได้รับการเลือกตั้งนะ คดีความ
99 ศพ คุณจะผลักดันให้มันเดินหน้าหรือเปล่า? และยังต้องถามต่อว่าพรรคการเมืองของคุณมีนโยบายเรื่องนี้อย่างไร?
นี่คือคำถามข้อที่ 2
คำถามข้อที่
3 มันอาจจะยุ่งยากกว่านั้นนิดหน่อย แต่ต้องถามนะ ถามเขาว่าคุณจะยอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเฉพาะกรณีปี
2553 หรือเปล่า แล้วสิ่งที่เราทำนี่ก็คือถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
เราต้องการเอาฆาตกรมาลงโทษตามกฎหมาย เราต้องการเอาคนสั่งฆ่ามาลงโทษตามกฎหมาย
เราต้องการให้เป็นนโยบายของพรรคการเมืองว่าไม่อนุญาตให้เอาทหารในกองทัพมาฆ่าประชาชนสองมือเปล่าในกรุงเทพมหานครหรือที่ไหนก็ตามแต่ในประเทศไทยอีกต่อไป
เราจะแบกรับภารกิจนี้
จึงเป็นการประกาศต่อพี่น้องเสื้อแดงและผู้รักความยุติธรรมทั่งทั้งประเทศว่า
อย่างน้อยที่สุดผมกับอาจารย์ธิดาจะไม่ทิ้งกรณีปี 2553 เด็ดขาด
อย่างน้อยที่สุดผมสองคนจะเดินหน้าไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ หมดลมหายใจของผมสองคนก็จบเมื่อนั้น
แต่เรามีคณะกรรมการชุดนี้แล้ว คณะกรรมการชุดนี้ก็จะเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ
จนกว่าความยุติธรรมมันจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยอย่างแท้จริง
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #คปช53