"พิธา" อภิปรายโค้งสุดท้าย ขอ ส.ส.หนุน กฎหมายสุราก้าวหน้า
เพื่ออนาคตเกษตรกร-รายย่อย ชี้ ปลดล็อกศักยภาพคนไทยสู่ระดับโลก
วันนี้
(2 พ.ย. 2565) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายสนับสนุนร่างแก้ไข
พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือร่างกฎหมาย “สุราก้าวหน้า” ที่กำลังมีการอภิปรายในวาระ 2
และจะมีการลงมติวาระ 3 ในวันนี้
พร้อมชี้ข้อเปรียบเทียบกับกฎกระทรวง ว่าด้วยการผลิตสุรา
ที่ออกมาใหม่โดยรัฐบาลเมื่อวานนี้
พิธา
ระบุว่าหลักการที่สำคัญที่สุดในการพิจาราเรื่องนี้
คือการเอาสภาพข้อเท็จจริงและศักยภาพของผู้ประกอบการ มาเทียบกับร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า
และกฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อวานนี้
ว่าสิ่งใดที่เหมาะสมกับข้อเท็จจริงของประเทศและศักยภาพของผู้ประกอบการมากกว่ากัน
ซึ่งหากเป็นกฎกระทรวงที่ออกมาเมื่อวานนี้
กล่าวได้ว่าเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนจากล็อกเก่ามาเป็นล็อกใหม่เท่านั้น หากพิจารณาตามข้อเท็จจริง
ผู้ประกอบการจินหรือรำ ทั้งที่เชียงใหม่ หนองคาย สงขลา สุราษฎร์ธานี
ที่เป็นผู้ประกอบการระดับโลก ส่งออกไปได้ 17 ประเทศ
ชนะการประกวดทั้งที่ปารีส โตเกียว ฮ่องกง ชนะคู่แข่งจากออสเตรเลีย
อาร์เจนติน่าจะไม่ได้รับการปลดล็อกจากกฎกระทรวงฉบับนี้ ด้วยการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำ
30,000 ลิตรต่อวันที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย
รวมทั้งการที่ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็น
ดังนั้น
กฎกระทรวงที่มีวิธีคิดมาจากข้าราชการและกรมสรรพสามิตอย่างเดียว
จึงไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและสินค้าเกษตรของไทยได้
เป็นกฎหมายที่หยุมหยิม พายเรือในอ่าง ลดกำแพงหนึ่งแต่สร้างอีกกำแพงหนึ่งขึ้นมา
กีดกันไม่ให้ประชาชนไปถึงศักยภาพระดับโลกได้ ผิดกับร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า
ที่ต้องการไม่ให้มีการกีดกันการแข่งขันผ่านกำลังการผลิต กำลังแรงม้า ทุนจดทะเบียน
และจำนวนพนักงาน ซึ่งจะปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของผู้ประกอบการไทยได้อย่างแท้จริง
และเป็นทั้งนโยบายเศรษฐกิจ นโยบายการเกษตร และนโยบายท่องเที่ยวไปในตัวด้วย
พิธายังระบุด้วย
ว่าตัวเองต้องฝากไปถึง ส.ส. ทุกคนจากทุกพรรค
ว่าการพิจารณาในวันนี้มีความหมายและความสำคัญต่ออนาคตของเกษตรกรไทย
ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมทั้งเศรษฐกิจของไทย
และขอให้ทุกคนได้ตัดสินใจโดยยึดเอาประโยชน์ของประชาชนเหล่านี้มาเป็นที่ตั้ง
"นี่อาจจะเป็นเพียงการโหวดหนึ่งในพันหรือหมื่นครั้งของท่าน
ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก เมื่อท่านโหวตเสร็จก็คงจะกลับไปกินไวน์ฝรั่งเศส
สาเกญี่ปุ่น โซจูเกาหลี ปลายปีนี้ก็อาจจะเตรียมตัวเดินทางปีใหม่
ไปเที่ยวไร่องุ่นไวน์ที่อเมริกา หรือไปกินเตกิล่า หรือเหล้าข้าวโพดที่เม็กซิโก
แต่สำหรับเกษตรกร คนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการ คนที่อยู่ในวงการสุราขนาดย่อย
นี่คือความฝันของพวกเขา สำหรับเกษตรกร ผู้ประกอบการที่สู้กันมาเป็น 30-40 ปี ตั้งแต่เครือข่ายเหล่าไทยสมัยที่ผมยังเด็กจนถึงทุกวันนี้
นี่เป็นโค้งสุดท้ายของเขาที่จะทำให้เขามีความฝันอยู่ในประเทศนี้" พิธากล่าว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #สุราก้าวหน้า