วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565

“สุภิญญา” ยื่นหนังสือถึง กสทช. ให้ใช้หลักอุดมคติและยืนข้างผู้บริโภคประชาชน ในการพิจารณาควบรวม “ทรู-ดีเทค”

 


“สุภิญญา” ยื่นหนังสือถึง กสทช. ให้ใช้หลักอุดมคติและยืนข้างผู้บริโภคประชาชน ในการพิจารณาควบรวม “ทรู-ดีเทค”

 

วันนี้ (10 ต.ค. 2565) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ( กสทช. ) นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ ยื่นหนังสือถึงประธาน กสทช. เพื่อขอให้คณะกรรมการฯ ใช้หลักอุดมคติและยืนหยัดข้างผู้บริโภคและประชาชน ในการพิจารณาควบรวม “ทรู-ดีแทค” โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธานฯ กสทช. และ ศ.พิรงรอง รามสูตร เป็นผู้รับหนังสือ

 

นางสาวสุภิญญา กล่าวว่าในนามของสภาองค์กรเพื่อผู้บริโภค ขอมายื่นหนังสือเนื่องจากว่าประเด็นที่ผู้บริโภคกำลังจับตา คือ วันที่ 12 ตุลาคมนี้ กสทช. จะมีการพิจารณาในประเด็นเรื่องการควบรวม “ทรู-ดีแทค” ซึ่งเป็นดีลใหญ่ที่กระทบประโยชน์สาธารณะ และสภาฯ ก็มีการติดตามมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้แสดงจุดยืนมาเป็นระยะ และคิดว่าจังหวะนี้เป็นจังหวะที่ดีเพราะเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาเพิ่งครบรอบวันสถาปณา กสทช. 11 ปี และวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค. 65) ก็จะครบรอบ 25 ปีของการมีมาตรา 40 ตามรัฐธรรมนูญ 40 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อเกิดองค์กรอิสระอย่าง กสทช. ที่ต้องมากำกับดูแลและจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยเน้นเรื่องการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม วันนี้เราจึงมายืนยันว่าอยากให้กรรมการ กสทช. ทำหน้าที่บยหลักนิติธรรม ไม่ใช่นิติเพื่อทุน รวมถึงยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชนสูงสุดตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 60 และสำคัญที่สุดคือตามแผนแม่บทของ กสทช.

 

นอกจากนี้ยังนำแผนแม่บทของ กสทช. มามอบให้ กสทช. ด้วย เพื่อเป็นการทบทวน เนื่องจากเท่าที่ติดตามมาไม่แน่ใจว่า กสทช. ได้ใช้แผนแม่บทเป็นหลักในการพิจารณาผลกระทบจากการควบรวมหรือไม่ เพราะในแผนแม่บทฉบับที่ 2 เขียนชัดเจนเรื่องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม เกรงว่าถ้า กสทช. ไม่ได้อิงเรื่องนี้หากมีคดีไปศาลปกครองอาจมีปัญหาในเรื่องกระบวนการได้

 

เมื่อถามว่าใกล้วันชี้ชะตา 12 ต.ค. แล้วทางสภาฯ มีจุดยืนต่อดีลควบรวมอย่างไร นางสาวสุภิญญา ตอบว่าทางสภาฯ ยังคงยืนยัน 2 เรื่องหลัก คือ กสทช. มีอำนาจตามกฎหมายในการพิจารณาดีลนี้ เพื่ออนุญาตหรือไม่อนุญาต และเรื่องที่ 2 คือ เราไม่ควรอนุญาต เพราะการควบรวมเป็นการลดทางเลือกของผู้บริโภคให้เหลือทางเลือกแค่ 2 ทางหลัก จะส่งผลต่อการกำกับดูแลกลไกราคาในอนาคต และจะกระทผู้ใช้บริการดีแทค 19 ล้านราย จะมีทางเลือกไหนในการใช้บริการ ซึ่งเป็นเรื่องของทางเลือกและเรื่องของราคา แต่ที่สุดคือส่งผลให้สภาพแวดล้อมในตลาดโทรคมนาคมการแข่งขันลดลง ซึ่งเป็นแผนแม่บทของ กสทช. ขัดหลักเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญของการที่มี กสทช. ขึ้นมาจัดสรรคลื่นความถี่ ในส่วนของระยะยาวส่งผลต่อผู้บริโภคแน่นอน แต่ระยะสั้นคือผู้ใช้บริการดีแทคหรือทรู ขาดทางเลือก เพราะจะเหลือทางเลือกแค่ไม่กี่ราย จึงคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ กสทช. ต้องยืนหยัดตามหลักนิติธรรมไม่ใช่หลักนิติทุน ในการที่จะยืนหยัดการคัดค้านการควบรวม ซึ่งในมุมของผู้บริโภคแน่นอนว่าต้องเคารพการลงมติของ กสทช. สุดท้ายอาจจะมีเสียงข้างมากและเสียงข้องน้อย ก็ว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่ไม่ว่าจะตัดสินออกมาอย่างไรก็ต้องมีคนไปฟ้องศาลอยู่แล้ว ถ้าภาคเอกชนไปฟ้ององค์กรผู้บริโภคก็พร้อมที่จะร่วมสนับสนุนและร่วมต่อสู้ด้วย แต่ถ้าการตัดสินออกมากระทบกับผู้บริโภคองค์กรฯ ก็คงจะขึ้นศาลปกครองเช่นเดียวกัน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ควบรวมทรูดีแทค