#16ปีนวมทองไพรวัลย์ : นพ.เหวง โตจิราการ
พี่น้องประชาชนผู้เคารพรักทุกท่าน
ก่อนอื่นผมขออนุญาตที่จะเอ่ยนามลุงนวมทอง ไพรวัลย์
ผมไม่ทราบว่าท่านอยู่ในภพภูมิไหนนะครับ แต่ผมเชื่อมั่นว่าท่านอยู่ในภพภูมิที่ดี และในวันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน
แต่ผมคาดเดาว่าท่านคงยังไม่ได้ไปเกิดที่ไหน เพราะท่านบอกแล้วนะครับว่า
“เกิดชาติไหนขออย่าได้พบการปฏิวัติอีกเลย”
ตอนนี้ประเทศใต้อยู่ภายใต้การปกครองของคณะปฏิวัติหรือเรียกว่าคณะรัฐประหารอยู่
ดังนั้นผมเชื่อมั่นว่าจะด้วยวิถีญาณใด ๆ ก็แล้วแต่
ลุงนวมทองคงไม่ตัดสินใจที่จะมาเกิดอีกครั้งหนึ่งเพราะยังอยู่ภายใต้การยึดอำนาจรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้ผมขออนุญาตที่จะกราบเรียนพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า
ผมขอประจานทหารเผด็จการหรือรัฐประหารหรือทหารยึดอำนาจ อำนาจนิยม ประการแรก
ลุงนวมทองเป็นผู้พิสูจน์แล้วว่าคำพูดของทหารนั้นเป็นคำพูดที่ไร้สาระ ไร้ค่า
ไม่น่าเชื่อถือ เพราะว่าโฆษกทหารในสมัยนั้น ขออนุญาตเอ่ยนาม พ.อ.อัคร ทิพโรจน์
เป็นคนพูดเองว่าไม่เชื่อว่าจะมีคนมีอุดมการณ์มากขนาดที่จะพลีชีพได้
คำพูดอันนี้แหละที่ทำให้ลุงนวมทองตัดสินใจในการที่จะพลีชีพต่อต้านการยึดอำนาจรัฐประหาร
ผมขออนุญาตทวนความอดีตเล็กน้อย
อันที่จริงถ้าหากว่าท่านทั้งหลายที่เกิดทันหรือยังจำได้ในการยึดอำนาจครั้ง ๆ
มีประชาชนจำนวนไม่น้อยแห่กันไปเอาดอกไม้ไปมอบให้ทหาร
เอาดอกไม้ไปปักไว้ที่ปากกระบอกปืนของรถถัง แต่ปรากฏว่ามันเลยเถิดไปครับ เลยเถิดไปถึงขั้นเอาโคโยตี้
ขออนุญาตด้วยความเคารพ ผมเคารพวิชาชีพโคโยตี้นะครับ
แต่การกระทำในครั้งนั้นมันไม่เหมาะสม
ผมเชื่อว่าจะต้องมีพรรคพวกของพวกขวาจัดหรืออำนาจนิยมเป็นคนจัดขึ้น
คือไปจัดโคโยตี้นุ่งน้อยห่มน้อยมาเต้นระบำติ๊ดชึ่งติ๊ดชึ่งหน้ารถถัง
ซึ่งมันเป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพ
ฉับพลันทันใดในวันนั้นเองก็เลยมีการสั่งให้ทหารกลับกรมกองทั้งหมดเลย ทั้ง ๆ
ที่ก่อนหน้าปล่อยให้ทหารยืนอยู่บนถนนรอบ ๆ พระบรมรูปทรงม้าหรือรอบ ๆ
ราชดำเนินเพื่อให้ประชาชนเอาดอกไม้มามอบให้
แสดงความภาคภูมิใจเสียเหลือเกินที่ตัวเองยึดอำนาจสำเร็จ
นี่ไง! คือเหตุการณ์ที่ทำให้ลุงนวมทองรับไม่ได้
ลุงนวมทองก็เลยตั้งใจที่จะกระชากอารมณ์ความรู้สึกของประเทศ ของสื่อกลับมา
ลุงก็เลยตัดสินใจที่จะขับแท็กซี่ไปชนรถถังเลยครับ จริง ๆ
วันนั้นท่านตัดสินใจที่จะพลีชีพ แต่ท่านบอกของท่านเองนะครับว่าวงในการเลี้ยวมันผิด
จริง ๆ ผมได้มีโอกาสคุยกับท่านตอนที่ท่านไปป่วยอยู่ที่รพ.วชิระ
ก็คือหลังจากที่บาดเจ็บแล้วก็มีคนพาส่งรพ.วชิระ ในวันนั้นสื่อจำนวนหนึ่ง
ประชาชนจำนวนหนึ่งยังรุมประณามลุงนวมทอง หาว่าเมายาบ้าบ้างล่ะ
หาว่าขับรถแล้วไม่ได้สตางค์บ้างล่ะ วันนั้นไม่มีผู้โดยสาร แต่ความจริงไม่ใช่เลย
ผม, หมอสันต์,
ครูประทีปไปเยี่ยมลุงนวมทองเพราะมองเห็นแล้วว่าลุงนวมทองทำไปด้วยอุดมการณ์
ท่านบอกเองนะครับว่าพอดีเห็นทหารยืนเฝ้ารถถังอยู่ หากว่าขับพุ่งชนตรง ๆ
มีโอกาสที่จะทำให้ทหารเสียชีวิตซึ่งมันไม่ถูกต้อง
เพราะว่าพลทหารไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้อง ท่านก็เลยหักก็เลยทำให้ท่านไม่เสียชีวิต
พวกเราก็เลยขอร้องว่าคุณลุงครับ
ชีวิตของคุณลุงมีค่ามากเกินกว่าที่จะมาแลกกับคณะรัฐประหารชุด คปค. หรือ คมช.
สมัยโน้น คุณลุงก็รับฟังโดยดุษณีภาพและเปลี่ยนการตัดสินใจ
ปรากฏว่าโฆษกกองทัพบกนี่แหละครับไปพูดเหยียดหยามน้ำใจ นี่ไง! ที่เสาสดมภ์มีเขียนไว้นะครับว่า
น้ำใจคนไทยนั้น ฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านก็เลยตัดสินใจ
และการตัดสินใจของท่านละเอียดลึกซึ้งนะครับ ท่านเดินไปดูงาน 14ตุลา แรกสุดท่านตัดสินใจที่จะแขวนคอกับอนุสาวรีย์
แต่ท่านคิดแล้วมันอาจจะเป็นการกระทำที่มันรุนแรงเกินไป บาดตาบาดใจของคนมากเกินไป
ท่านก็เลยคิดใหม่ ในที่สุดท่านก็เลยมาแขวนคอที่นี่!
เพราะฉะนั้น
การกระทำของคุณลุงนวมทองจึงเป็นการตบหน้าทหารเผด็จการอย่างแรงครับ
ประจานทหารเผด็จการอย่างแรง ที่ทหารเผด็จการเคยปรามาสคนไทยไว้ว่า
จะไม่มีใครมีอุดมการณ์มากพอที่จะพลีชีพเพื่ออุดมการณ์ได้ นี่ไง!
ลุงนวมทอง และผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ที่สุดพร้อมที่จะต่อสู้กับเผด็จการ แต่ผมเห็นด้วยกับที่อาจารย์ธิดาได้พูดมาเมื่อสักครูนี้
เราศึกษาจิตใจที่สูงส่งของลุงนวมทอง
แต่เยี่ยงอย่างและวิถีทางเดินผมขออนุญาตที่จะเสนอว่าเราเลือกหนทางอื่นดีกว่า ชีวิตเรามีค่ามากกว่าที่จะมาทำเช่นนี้นะครับ
แต่ผมเคารพในวิถีทางของคุณลุง นี่คือเรื่องที่หนึ่งนะครับ
เรื่องที่สองผมขออนุญาตที่จะประจานทหารเผด็จการ
ก็คือทหารเผด็จการเขาให้คำมั่นสัญญากับคุณบุญชู (ภรรยาลุงนวมทอง) และครอบครัวว่าจะอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือจนสามารถที่จะยืนบนลำแข้งของตัวเองได้
เมื่อสักครู่นี้ผมก็ยังถาม ผมถามทุกปีครับว่าทหารเผด็จการเขาเคยมาช่วยเหลือครอบครัวบ้างหรือไม่?
อย่างไร? ที่ผมมาพูดนี่ไม่ได้ต้องการมาทวงนะครับ
แต่ต้องการมาประจานว่าคำพูดของทหารเผด็จการนั้นรับฟังไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้น ท่านที่เคารพทุกท่านโปรด่พิจารณาดูนะครับว่าคำพูดของทหารเผด็จการนั้นรับฟังไม่ได้นะครับ
ประการที่สาม
ลุงนวมทองบอกแล้วนะครับว่าเกิดภพหน้าชาติใหม่ขออย่าได้เจอปฏิวัติอีก!
ผมต้องกราบเรียนทุกท่านนะครับว่านี่เป็นภาระรับผิดชอบของพวกเราในการที่จะป้องกันหรือปิดประตูไม่ให้รัฐประหารเกิดขึ้นในประเทศไทยได้อีก
ผมเองขอเสนอทางเลือกซึ่งผมเชื่อว่าสำหรับผมเป็นทางเลือกที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการยึดอำนาจรัฐประหารได้
นั่นก็คือ เราต้องเอาคณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจสำเร็จมาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 113 ได้ ผมคิดของผมในฐานะที่ไม่ได้เป็นทนายความ เป็นหมอ
แต่ก็ได้เรียนกฎหมายมาบ้าง ณ วินาทีที่พวกเขายึดอำนาจ
วินาทีนั้นพวกเขาเป็นผู้ร้ายแล้วครับ เป็นอาชญากรครับทำผิดมาตรา 113 มีความผิดข้อหากบฏครับ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาประกาศสืบเนื่องมาภายหลังก็คือนิรโทษกรรมนั้น
ต้องถือว่ารับฟังไม่ได้ ถือว่าเป็นโมฆะ ดังนั้นผมฝากให้ประเทศไทย ให้ประชาชนไทย
ให้พรรคการเมืองของฝ่ายประชาชนทุกพรรคนำไปพิจารณา หากว่าท่านได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายหรือจะเรียกว่าแลนด์สไลด์ก็สุดแท้แต่นะครับ
ได้โปรดนำคณะรัฐประหาร ไม่ว่าชุดของ สนธิ(บัง) หรือว่าชุดของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
มาลงโทษตามประมวลกฎหมายมาตรา 113 ให้ได้
ส่วนที่เลือกที่สอง
ผมเรียนรู้จักประวัติศาสตร์ก็เพียงแต่นำมากราบเรียนเพื่อประกอบการพิจารณา
ในประวัติศาสตร์ชาติไทยมีการยึดอำนาจรัฐประหารหลายครั้ง
แต่การยึดอำนาจรัฐประหารที่พ่ายแพ้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีกองกำลังทหารฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายประชาธิปไตยกล้าต่อสู้ครับ
ครั้งแรกที่สุดก็คือกบฏบวรเดช คณะราษฎรเขาสู้ครับ เพราะฉะนั้นก็เลยสามารถที่จะปราบกบฏบวรเดชได้
คงจำได้นะครับว่า “ดิ่น ท่าราบ” ถูกยิงตายที่ไหน? โดยใคร? หลังจากนั้นจึงมีการจับกบฏบวรเดชไปลงโทษตามประมวลฯ
113 และต่อมา “เมษาฮาวาย” ที่พ่ายแพ้เพราะว่าฝ่ายพล.อ.เปรมเขาไม่ยอม
และฝ่ายพล.อ.เปรมเขามีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นกำลังสำคัญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
ก็เลยส่งกำลังทหารมาลงที่ดอนเมืองนี่แหละ C130
เอารถถังเข้ามา แล้วก็จับ “ประจักษ์ สว่างจิตร” ในที่สุดก็สามารถที่จะปราบกบฏได้
ดังนั้น
ผมได้ยินได้ฟังมาเยอะว่าพวกเราไม่ประสงค์ที่อยากจะให้มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกต่อไป
การตราไว้ในรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ประโยชน์ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ 2517
ได้ไว้เรียบร้อยว่าการรัฐประหารนั้นไม่สามารถออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรมได้
แต่ว่าพอปฏิบัติเข้าจริง ๆ เป็นไปไม่ได้ครับ รัฐประหารเสร็จเขาฉีกรัฐธรรมนูญทันที ดังนั้นถึงจะตราไว้ในรัฐธรรมนูญว่ารัฐประหารไม่สามารถออกพ.ร.ก.ได้
สุดท้ายเขาก็ฉีกรัฐธรรมนูญในที่สุดเขาก็สามารถที่จะนิรโทษตัวเอง
มันมีแต่ว่าถึงจะนิรโทษไปแล้วก็ต้องนำเอานักกฎหมายทั้งหลายมาถกเถียงกันว่าพวกที่เป็นกบฎตามมาตรา
113 สามารถออกพ.ร.ก.นิรโทษตัวเองได้หรือเปล่า?
ดังนั้น
ผมจึงประสงค์ที่อยากจะฝากให้พี่น้องทุกคนพิจารณานะครับ ทำอย่างไรถึงจะให้อุดมการณ์ของลุงนวมทองปรากฎเป็นจริงขึ้นมา
ขอบคุณมากนะครับ สวัสดีครับ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นวมทองไพรวัลย์