วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565

“ณัฐวุฒิ” แถลงครอบครัวเพื่อไทยสัญจรเชียงใหม่ "สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ" ให้เวลาพบปะพี่น้องเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงอย่างเต็มที่ ฝากถึง “ประยุทธ์” ให้ตัดสินใจ ดูตัวอย่าง “นิพนธ์” รมช.มหาดไทย ที่ตัดสินใจลาออกแล้ว!


“ณัฐวุฒิ” แถลงครอบครัวเพื่อไทยสัญจรเชียงใหม่ "สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ" ให้เวลาพบปะพี่น้องเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงอย่างเต็มที่ ฝากถึง “ประยุทธ์” ให้ตัดสินใจ ดูตัวอย่าง “นิพนธ์” รมช.มหาดไทย ที่ตัดสินใจลาออกแล้ว!

 

วันที่ 5 ก.ย. 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้แถลงรูปแบบกำหนดการการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยสัญจร จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ “แพทองธาร ชินวัตร” เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในทางการเมืองที่ จ.เชียงใหม่ ดังนั้น การลงพื้นที่ของครอบครัวเพื่อไทยที่ จ.เชียงใหม่ครั้งนี้จึงจัดทั้งรูปแบบ เนื้อหา และเวลาอย่างเต็มที่เพื่อให้ทั้งแกนนำและสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยได้มีโอกาสสัมผัสพบปะพูดคุยสื่อสารความคิด นโยบายและแนวทางการแก้ปัญหากับพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่และใกล้เคียงอย่างเต็มที่

 

โดยกำหนดลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 3 วันติดต่อกัน ได้แก่วันที่ 9-10-11 ก.ย. นี้ ภายใต้ชื่อตอน "สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ" ซึ่งใช้สัญลักษณ์กลองสะบัดชัยที่เป็นศิลปวัฒนธรรมแต่ดั้งเดิมของพี่น้องชาวภาคเหนือ และเป็นสัญญาณของการสร้างขวัญกำลังใจ สร้างจิตใจรุกรบต่อสู้ เพื่อนำพาพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่และทั้งประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตชีวิตความเป็นอยู่ และวิกฤตทุกด้านที่ต้องเผชิญรับมาตลอดระยะเวลา 8 ปี

 

ส่วนกำหนดการโดยละเอียดขอให้ติดตามทางช่องทางต่าง ๆ ของพรรคเพื่อไทยที่จะนำเสนอต่อไป

 

ส่วนกำหนดการคร่าว ๆ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 9 ก.ย. คณะพรรคเพื่อไทยและครอบครัวเพื่อไทยชุดใหญ่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และคณะแกนนำ จะเดินทางไปพบปะรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ และเยี่ยมชมแนวทางการใช้เทคโนโลยี การใช้นวัตกรรมสำหรับพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ สำหรับการแสวงหาและเปิดตลาดสร้างโอกาสให้พี่น้องเกษตรกร

 

หลังจากนั้นในช่วงบ่าย ณ ศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ TCDC สาขาเชียงใหม่ จะมีกิจกรรมการพบปะกับนักธุรกิจ Startup นักธุรกิจ SME ซึ่งมีแนวคิดสร้างสรรค์ มีนวัตกรรมทางความคิดแปลกใหม่ที่จะสร้างโอกาสและพัฒนารูปลักษณ์ของการประกอบธุรกิจ ขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองให้มีศักยภาพ ให้มีความเข้มแข็งโดยการหนุนเสริมของรัฐที่มีความชัดเจนทั้งในทางนโยบายและมีศักยภาพในทางบริหารจัดการ

 

หลังจากนั้นจะมีการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนบริเวณ “กาดหลวง” ซึ่งขณะนี้ได้ทราบว่าพ่อค้าแม่ขายและประชาชนผู้ไปจับจ่ายใช้สอยกำลังสัมผัสกับภาวะชะงักงัน ภาวะที่ยากลำบากในการประกอบธุรกิจและความซบเซาของ “กาดหลวง” ซึ่งเดิมเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งจับจ่ายใช้สอยที่สำคัญของ จ.เชียงใหม่

 

ต่อมาในวันที่ 10 ก.ย. ภาคเช้าจะมีเวทีครอบครัวเพื่อไทย "สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ" เป็นการขึ้นเวทีพบปะพูดคุยปราศรัยกับพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่และใกล้เคียง ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ โดยแกนนำที่จะขึ้นเวทีนี้นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, จาตุรนต์ ฉายแสง, วิสุทธิ์ ไชยณรุณ, จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, จักรพล ตั้งสุทธิธรรม, และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นอกจากนั้นในห้องประชุมจะมีแกนนำพรรคเพื่อไทยทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ภาคเหนือเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

 

ไฮไลท์สำคัญของเวทีคือการประกาศนโยบายด้านการเกษตร แนวทางการแก้ปัญหาชีวิตของพี่น้องเกษตรกรของพรรคเพื่อไทย โดย แพทองธาร ชินวัตร ภายใต้แนวคิด  “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของพรรคเพื่อไทยให้ได้รับชมไปพร้อม ๆ กัน

 

จากนั้นจะมีพาเหรดกลองสะบัดชัย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของทั้งจ.เชียงใหม่และภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน นพ.ชลน่าน จะถือธงนำขบวนในฐานะหัวหน้าพรรค แสดงความพร้อม แสดงพลังของครอบครัวเพื่อไทย

 

ในภาคบ่ายจะมีการลงพื้นที่เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย มีการพบปะนักธุรกิจนักวิชาการเกี่ยวกับศิลปะร่วมสมัย พูดคุยประเด็นปลดล็อคศักยภาพเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยนโยบายที่สร้างสรรค์

 

ในช่วงเย็นคณะฯ จะเดินทางไปตลาดสันกำแพง เดินพบปะพี่น้องประชาชนพ่อค้าแม่ขายกันที่นั่น

 

วันที่ 11 ก.ย. ภาคกลางวันจะเป็นกิจกรรมของ แพทองธารและญาติพี่น้องในครอบครัว และช่วงเย็นคณะฯ จะเดินลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ถนนคนเดินท่าแพ โดยมี จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ในฐานะว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 1 จ.เชียงใหม่ โดยมีส.ส.และแกนนำของพรรคฯ ร่วมลงพื้นที่พบปะประชาชนด้วย

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวย้ำว่า เราเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นทางออกจากวิกฤตของประเทศในเวลานี้ โดยนโยบาย โดยประสบการณ์ โดยศักยภาพทางการบริหารซึ่งเป็นที่รับรู้และยอมรับของประชาชนมาโดยตลอด และยังมั่นใจว่าการเลือกตั้งคือความหวังของประชาชน พรรคเพื่อไทยจะกลับมาหลังการเลือกตั้งและเดินหน้าผลักดันนโยบายตามที่ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชนอย่างถึงที่สุด  สนับสนุนพรรคเพื่อไทย แลนด์สไลด์ เพื่อออกจากวิกฤตนี้ด้วยกัน

 

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิยังสื่อสารไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะ โดยเฉพาะนิติบริกรที่กำลังพยายามออกข่าวอธิบายความเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อในอำนาจได้ ส่วนตัวนายณัฐวุฒิซึ่งประเมินจากอาการและทีมงานของพล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนจะมั่นใจว่าถึงที่สุดท่านจะรอดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่นายณัฐวุฒิมั่นใจยิ่งกว่าว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว 8 ปี ไม่มีข้ออ้างอย่างอื่น ไม่มีเงื่อนไขข้อกฎหมายใด ๆ ที่จะละเมิดความจริงนี้ได้ ถ้าเจตนารมณ์ของคนร่างกฎหมาย ถ้าความเข้าใจตรงกันของคนทั้งประเทศ ว่านายกฯ ต้องอยู่ในอำนาจไม่เกิน 8 ปี ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม เพื่อป้องกันการสืบทอดอำนาจ ป้องกันการลุแก่อำนาจแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ครบ 8 ปีไปแล้วโดยไม่ต้องสงสัย

 

และในเมื่อท่านเป็นผู้ใช้อำนาจให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงเหมาะควรอย่างยิ่งที่ท่านจะแสดงสำนึกตัดสินใจให้เป็นแบบอย่าง เคารพต่อกฎหมายที่ตัวเองร่าง เคารพต่อเจตนารมณ์ของกลุ่มคนที่ตัวเองแต่งตั้งมาร่างกฎหมาย แต่สิ่งที่กำลังพยายามตะแบงอธิบายคือการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ใช่หรือไม่?

 

คือการบอกว่ากฎหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้ ใช้กับคนไทยทุกคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ยกเว้นเว้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยทีมงานพล.อ.ประยุทธ์ พยายามอธิบายว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องทุจริตต่อแผ่นดิน แต่นายณัฐวุฒิกล่าวว่า มันร้ายแรงยิ่งกว่า! เพราะพล.อ.ประยุทธ์กำลังทุจริตต่อความจริง และบ้านเมืองที่ผู้นำประเทศทุจริตต่อความจริงนั่นหมายความว่าเขาพร้อมที่จะทุจริตต่อทุกสิ่งเพื่อผลประโยชน์และอำนาจของตัวเอง

 

นายณัฐวุฒิ ได้เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจ และให้ดูตัวอย่าง รมช.มหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี ซึ่งวันนี้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง และย้ำว่า ประเทศไทยอยู่ได้แน่ ๆ โดยไม่มีท่าน แต่ท่านกำลังแสดงออกว่าท่านอยู่ไม่ได้โดยไม่มีอำนาจ

 

สุดท้ายนายณัฐวุฒิ ฝากถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นอกจากปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการบริหารจัดการน้ำและอื่น ๆ แล้ว กรณีปัญหายาเสพติดก็เป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้ที่กำลังรอการแก้ไข ที่ผ่านมา 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ปัญหายาเสพติดบุกรุกเข้าถึงครัวเรือนของประชาชนอย่างน่าวิตกกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ครอบครัวเพื่อไทย #เชียงใหม่