6
แกนนำกลุ่มแรงงานสร้างชาติ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก
หลังจากออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตามคำสัญญาที่ได้หาเสียงไว้
ก่อนการเลือกตั้ง ปี 2562 ของพรรคพลังประชารัฐ ที่หน้า สน.นางเลิ้ง
วันที่
19 ก.ย. 2565 กลุ่มแรงงานสร้างชาติ ได้เดินทางมาที่
สน.นางเลิ้ง เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
กรณีที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลให้รัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามคำสัญญาที่ พปชร.
ได้หาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้งปี 2562
สำหรับผู้ที่ได้รับหมายเรียกให้มารายงานตัวประกอบด้วย
ธนพร วิจันทร์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, สุธิดา ลืนคำ, แซม สนธยา และเซีย จำปาทอง
ทั้งนี้
กลุ่มแรงงานสร้างชาติได้มีการอ่านแถลงการณ์ ความว่า
แรงงานไป
สน.นางเลิ้ง รายงานตัวข้อกล่าวหา พรก.ฉุกเฉิน
ต่อเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มพี่น้องแรงงานหลากหลายกลุ่มที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่
23 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลของประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตามคำสัญญาว่าด้วยการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามที่ให้ไว้เมื่อช่วงการหาเสียงในฐานะพรรคพลังประชารัฐก่อนการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรปี
2562 รวมถึงให้รัฐบาลประยุทธ์แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน
ลดค่าครองชีพ ก่อนลาออกตามกำหนดวาระ 8
ปีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามข้อกำหนดในกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่นอกจากตำรวจ สน.นางเลิ้ง
จะตั้งแนวกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าไปใกล้ทำเนียบฯ แล่วยังจะยัดข้อหา พรก.ฉุกเฉิน
ตามมาให้พวกเราถึง 5 คนด้วยกัน
นี่คือพฤติกรรมเยี่ยงเผด็จการทหารอันชัดเจนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ที่บังคับใช้กฎหมายแบบตีความกว้างขวางเกินจริง
นอกเหนือเหตุผลอันสมควรและเป็นไปเพื่อการคุกคามการแสดงออกทางการเมืองโดยสุจริตของประชาชน
พฤติกรรมแบบนี้ต้องถูกจัดการระงับและลงโทษทันทีโดยผู้บังคับบัญชา มิเช่นนั้นจะสามารถมองได้ว่ารัฐบาลประยุทธ์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รู้เห็น สนับสนุนและมีส่วนร่วมกับการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยคำสั่งภายในองค์กรโดยตรง
และต้องรับผิดร่วมกันโดยปริยาย
ในวันนี้พวกเรา
ประชาชนผู้ใช้เรางานจึงเดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อรายงานตัวตามหมาย
แสดงความบริสุทธิ์ใจและความประสงค์ที่จะใช้สิทธิเสรีภาพของเราภายใต้กฎหมายปัจจุบัน
แม้เรามองว่าการบริหารจัดการและการบังคับใช้กฎหมายภายใต้อำนาจมรดกเครือข่าย คสช.
จะเป็นสิ่งสมควรแก่การคัดค้านจนถึงที่สุด
เราจะยังคงเคารพในหลักการแห่งนิติธรรมและนิติรัฐตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
และจะสู้เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์กับเพื่อประชาชน รักษาความศักดิ์สิทธิ์ของสิทธิในการแสดงออกทางการเมืองของเราถ้วนหน้า
ถึงพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงาน
ไม่ว่าจะอาชีพไหน เชื้อชาติใด เพศสภาพอะไร รุ่นเก่าหรือรุ่นเยาว์
ในวันนี้พวกเราเดินหน้าฝ่าแดดฝ่าฝน
ต่อสู้ทางกฎหมายและบนท้องถนนในนามของเราปวงชนคนธรรมดาทุกคน เพื่อให้คุณเห็นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่าเสรีภาพของเรากำลังถูกบั่นทอนลงเรื่อย
ๆ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นปากท้องหรือโครงสร้างสังคมในภาพใหญ่
เราขอให้คุณจงอย่านิ่งเฉยกับภัยอันตรายทรราชใกล้ตัว
กระจายข่าวนี้ออกไปให้ได้กว้างขวางที่สุด
รวมกลุ่มและเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในทุกระดับโดยเร็วที่สุด
สุดท้ายนี้พวกเราผู้ใช้แรงงาน
ขอยืนหยัดในข้อเรียกร้องซึ่งแสดงออกได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของเรา
1 ให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตามสัญญาหาเสียงของพรรค พปชร.
ที่ให้ไว้ตั้งแต่เมื่อ
ปี 2562 โดยให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น
425 บาท ต่อวันเท่ากันทั่วประเทศและให้ประ
กาศใช้ภายในเดือนตุลาคมปี 2565
รวมถึงให้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 492 บาท
ต่อวันเท่ากันทั่วประเทศในเดือนมากราคมปี 2566
2
ให้ลดค่าน้ำมันทุกชนิดลง 6 บาท ต่อลิตร
ลดค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าครองชีพ
ให้กับประชาชน
3 ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเร็วที่สุด
ด้วยความสมานฉันท์กับธนพร
วิจันทร์, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, สุธิดา ลืนคำ, แซม สนธยา, เซีย จำปาทอง
แรงงานสร้างชาติไม่ใช่ทรราชคนใด
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #แรงงานสร้างชาติ #พรกฉุกเฉิน