วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2565

กทม. จับมือ ปตท. เดินหน้าปลูกต้นไม้ 1 แสนต้น สร้าง "ลมหายใจเพื่อเมือง" เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กทม.

 


กทม. จับมือ ปตท. เดินหน้าปลูกต้นไม้ 1 แสนต้น สร้าง "ลมหายใจเพื่อเมือง" เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กทม.

 

วันนี้ (7 ส.ค. 65) ที่ พื้นที่ดิน ปตท. ถ.กำแพงเพชร 6 เขตหลักสี่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีปิดโครงการ PTT Virtual Run โครงการ “ลมหายใจเพื่อน้อง” และ “พิธีเปิดโครงการ “ลมหายใจเพื่อเมือง” ปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพัฒนาสิ่งแวดล้อมเมือง

 

โดยมี ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) คณะผู้บริหาร กทม. คณะผู้บริหาร ปตท. สำนักงานเขตหลักสี่ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ผู้นำชุมชน คณะครูนักเรียน ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ ที่ดิน ปตท. ถ.กำแพงเพชร 6 เขตหลักสี่


โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะ วิ่งจากสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร ไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA Bangkok) ถ.กำแพงเพชร 6 เขตจตุจักร (ระยะทาง 6.5 กม.)

 

โดยนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหาร ปตท. ต้อนรับคณะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ MOCA Bangkok และร่วมวิ่งสมทบไปยังที่ดิน ปตท. ถ.กำแพงเพชร 6 (ระยะทาง 800 เมตร) สถานที่จัดงาน รวมระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร

 

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบเงินสนับสนุน PTT Virtual Run โครงการ "ลมหายใจเพื่อน้อง" โดย “โครงการลมหายใจเดียวกัน” เพื่อช่วยเหลือสังคมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และต่อเนื่องด้วย “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” ช่วยเหลือเยาวชนจากวิกฤตการศึกษา โดย ปตท. ได้จัดพิธีมอบเงินสนับสนุนแก่ กสศ. เพื่อจัดตั้ง “กองทุนแรกเริ่มศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในวิกฤตการศึกษา” งบประมาณ 20 ล้านบาท เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางสังคม อย่างน้อย 241 คน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาในปี 2565 อีกทั้งที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนช่วงชั้นรอยต่อที่มีปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจกว่า 60,000 คน จาก 17,432 โรงเรียนทั่วประเทศ รวมสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชนภายใต้โครงการลมหายใจเพื่อน้อง ทั้งสิ้น 171 ล้านบาท โดยมี เด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ชุมชนบ่อนไก่ เขตปทุมวัน ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาในครั้งนี้ด้วย

 

จากความสำเร็จของโครงการ "ลมหายใจเพื่อน้อง" ในเรื่องของการศึกษา ส่งต่อโครงการ "ลมหายใจเพื่อเมือง" สู่การปลูกต้นไม้ 1 แสนต้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างร่มเงาให้เมือง ดักจับฝุ่นและมลพิษในเมือง และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ โดยดำเนินการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ของ ปตท. และพื้นที่ของ กทม. ชนิดไม้ที่ปลูกเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่มอายุยาว และไม้เถาที่มีเนื้อไม้ เป็นพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่กรุงเทพฯ อาทิ ต้นประดู่ป่า ต้นรวงผึ้ง ต้นไทรย้อยใบแหลม เป็นต้น โดยนำร่องพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ ปตท. ในการพัฒนาใช้ประโยชน์และมุ่งให้เกิดพื้นที่สีเขียวควบคู่กันต่อไปในอนาคต

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปตท. ได้ขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทุกภาคส่วน ที่มีส่วนร่วมในการช่วยกันสร้างพื้นที่สีเขียว เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนเมือง เพิ่มสร้างสมดุลให้กับสภาพภูมิอากาศของประเทศและของโลก โดย ปตท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการลมหายใจเพื่อเมือง จะเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศน่าอยู่ต่อไป”

 

จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ CEO ปตท. ประสานกำปั้น แสดงสัญลักษณ์ความร่วมมือเปิด โครงการ "ลมหายใจเพื่อเมือง" พร้อมรับมอบกล้าไม้เพื่อ kick off การเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามเป้าหมาย และร่วมกันปลูกไม้ต้นแรกคือต้นรวงผึ้ง นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ปลูกต้นไทรย้อยใบแหลม นายอรรถพล CEO ปตท. ปลูกต้นประดู่ป่า โดยในวันนี้ มีการปลูกต้นไม้นำร่อง กว่า 30 ชนิด มากกว่า 1,200 ต้น ทั้งนี้นอกจากจะปลูกต้นไม้ในพื้นที่ของ ปตท. แล้ว ยังร่วมกับ กทม. ปลูกในพื้นที่สวนสาธารณะ อาทิ สวนจตุจักร สวนรถไฟ และอีกหลายพื้นที่ที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ เพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ กักฝุ่นและมลพิษรวมทั้งยังเป็นการช่วยลดอุณหภูมิรอบพื้นที่ปลูก ให้ร่มเงา และเพิ่มความน่าอยู่ให้กับสังคมเมืองอีกด้วย

จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "เป็นโครงการที่ดีมาก ๆ ทั้งการดูแลสุขภาพตัวเอง และการดูแลสุขภาพเมือง คือ การปลูกต้นไม้ ทุกอย่างต้องไปด้วยกัน ชีวิตคน ชีวิตเมือง ขอบคุณ ปตท. ที่มีโครงการดี ๆ อย่างนี้ขึ้นมา อย่าหยุดแค่นี้นะครับ ท่าน CEO ทำเยอะ ๆ ต่อเนื่องทุกอาทิตย์ เป็นวันที่เราช่วยดูแลเมือง"

.

ความจริงโครงการนี้เริ่มจากการที่ไปวิ่งที่สวนลุมพินีแล้วเจอน้องที่ทำงานอยู่ปตท. เราจึงเริ่มโปรโมทโครงการเรื่องวิ่งของปตท.ก่อน​ ซึ่งปตท. มีศักยภาพของตนเองอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นานปตท.ก็ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย​ กทม.จึงลองท้าปตท.ดูว่าให้ร่วมปลูกต้นไม้ 1 แสนต้นได้ร่วมกับกทม.ไหม​ ซึ่งปตท.ก็รับคำท้าทันที และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วก็ได้จำนวนครบ 1 แสนต้น​ ซึ่งคิดแล้วยังเสียดายว่าท้าน้อยเกินไปน่าจะท้า 2 แสนต้น โดยในตอนแรกที่ กทม.ท้าคนกรุงเทพฯ ร่วมปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นนั้น​ มีแต่คนหัวเราะเยาะและสบประมาทว่าจะเป็นไปได้หรือไม่​ แต่ในขณะนี้ผ่านไปแล้ว 2 เดือนมีคนร่วมปลูกต้นไม้กับกทม.แล้ว 1,600,000 ต้น​ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี​เนื่องจาก กทม.ไม่ได้ใช้งบประมาณของตนเองเลย เพียงแต่เป็นผู้ประสานงานและหาสถานที่ปลูกต้นไม้ให้​

 

"มิติโดยรวมนั้นไม่ใช่แค่เพียงการปลูกต้นไม้ในวันนี้แต่หมายถึงการดูแลต้นไม้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง​ รวมถึงการเปลี่ยนมุมมองต่อเมืองว่าเมืองคือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา​ ไม่ใช่จะโยนทุกอย่างให้กทม.ดูแลแต่เพียงผู้เดียว​ ซึ่งกทม.มีหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่อยู่แล้วตามหน้าที่​ แต่หมายถึงการที่ทุกคนต้องร่วมกันดูแลเมืองให้ดีขึ้นและเป็นการส่งต่อเมืองที่มีคุณภาพให้กับคนรุ่นใหม่​ จะเห็นได้ว่าต้นไม้ที่โตในปัจจุบัน คือต้นไม้ที่คนเมื่อ 20 ปีก่อนปลูกเอาไว้​ให้ ถ้าเราจะส่งเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อให้คนรุ่นต่อไป​ เราก็ต้องเริ่มลงทุนและเริ่มปลูกตั้งแต่วันนี้" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

 

ข้อมูล : กรุงเทพโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ผู้ว่าฯกทม #ชัชชาติสิทธิพันธุ์