วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ยืนหยุดละเมิดสิทธิประกันตัวหน้า UN เรียกร้องให้หน่วยงานของสหประชาชาติจับตาดูการละเมิดกติกา ICCPR ของกระบวนการยุติธรรมไทย พร้อมตั้งโต๊ะลงชื่อในจดหมายที่จะยื่นให้แก่ UN ชี้การละเมิดสิทธิประชาชนขนาดนี้ สหชาติควรมีท่าทีบางอย่างต่อรัฐบาลบ้าง

 




ยืนหยุดละเมิดสิทธิประกันตัวหน้า UN เรียกร้องให้หน่วยงานของสหประชาชาติจับตาดูการละเมิดกติกา ICCPR ของกระบวนการยุติธรรมไทย พร้อมตั้งโต๊ะลงชื่อในจดหมายที่จะยื่นให้แก่ UN ชี้การละเมิดสิทธิประชาชนขนาดนี้ สหชาติควรมีท่าทีบางอย่างต่อรัฐบาลบ้าง


วันนี้ (11 ก.ค. 65) ภาคประชาชนนัดหมายจัดกิจกรรม ยืนหยุดละเมิดสิทธิประกันตัวหน้า อาคารสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก ร่วมกันเรียกร้องให้หน่วยงานของสหประชาชาติจับตาดูการละเมิดกติกา ICCPR ของกระบวนการยุติธรรมไทย โดยนัดหมายจะยืนจะนั่งตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 17.00 น. เป็นเวลา 3 วัน คือวันที่ 11-13 ก.ค. นี้ 


ผู้จัดกิจกรรมระบุว่า ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights - ICCPR) ซึ่งรับรองว่าจะเคารพสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของบุคคล ซึ่งรวมถึงสิทธิในชีวิต เสรีภาพในศาสนา เสรีภาพในการพูด เสรีภาพในการชุมนุม สิทธิเลือกตั้ง และสิทธิในการได้รับการพิจารณาความอย่างยุติธรรม


แต่นักกิจกรรมทางการเมืองของไทยกลับถูกละเมิดสิทธิประกันตัว ถูกขังก่อนตัดสินคดี และหลายครั้งต้องเผชิญกับกระบวนการพิจารณาความที่ขัดต่อหลักกฎหมายทั้งในประเทศและกฎหมายสากล


ซึ่งขณะนี้มีนักกิจกรรมถูกคุมขังโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว 23 คน ในจำนวนนี้ มี 3 คนอดอาหารประท้วง และ 2 คนอาการหนัก (บุ้งและใบปอ) รวมทั้งสมาชิกทะลุแก๊สอีก 1 คน ที่ร่วมอดอาหารประท้วงด้วย


นอกจากนี้ยังมีสมาชิกทะลุแก๊ส 3 คนพยายามฆ่าตัวตาย โดยมี 2 คนที่พยายามฆ่าตัวตายเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากความเครียดที่ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว


อย่างไรก็ตามนักกิจกรรมที่ถูกคุมขังในขณะนี้ หลายคนเป็นเยาวชน ซึ่งเกือบทั้งหมดถูกฟ้องร้องคดีความเป็นครั้งแรก


ทั้งนี้ผู้จัดกิจกรรมนอกจากเชิญชวนประชาชนร่วมกันเรียกร้องให้หน่วยงานของสหประชาชาติจับตาดูการละเมิดกติกา ICCPR ของกระบวนการยุติธรรมไทยแล้ว ยังมีการตั้งโต๊ะให้ลงชื่อในจดหมายที่จะยื่นให้แก่หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติอีกด้วย


สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไป มวลชนราว 20 คน ยืนเรียงหน้ากระดานแขวนป้ายข้อความที่ต้องการสื่อสารโดยหันหน้าเข้าหาอาคารสหประชาชาติ โดยยืนฝั่งตรงข้ามอาคาร เพื่อเปิดทางให้รถได้สัญจรผ่านได้ โดยประตูทางเข้าออกอาคารปิดจะเปิดก็ต่อเมื่อมีรถจะเข้าออก


ด้านภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลและนักเขียนอิสระ กล่าวว่านักกิจกรรมทางการเมืองของประเทศไทยถูกละเมิดสิทธิการประกันตัวมาตลอดในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เฉพาะแค่ 23 คนที่ถูกคุมขังในเวลานี้ แต่เป็นมาตั้งแต่รุ่นอานนท์ นำภา, ไผ่, เพนกวิน รุ่นก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเข้าออกคุก 2-3 รอบแล้ว ก็ถูกละเมิดสิทธิการประกันตัวในลักษณะนี้


ในเมื่อกระบวนการยุติธรรมของไทยไม่มีความยุติธรรมเท่าไหร่แล้วในตอนนี้ เราก็เลยมาเรียกร้องกับสหประชาชาติในแง่ที่ว่า สหประชาชาติมีกติกาสากลอันหนึ่งที่เรียกว่า ICCPR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกติกาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน


ICCPR จะรวมถึงในข้อสิทธิประกันตัวและการได้รับการไต่สวนดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม เราจึงตั้งคำถาม มายื่นจดหมาย มาเรียกร้องต่อสหประชาชาติ ด้วยว่าในเมื่อไทยเป็นรัฐภาคีรัฐหนึ่งที่ลงนามในกติกานี้แล้ว และไม่ได้ทำตามกติกานี้เลย จึงขอตั้งคำถามต่อสหประชาชาติว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อเรื่องนี้


มิเช่นนั้นแล้วกติกาก็จะเป็นเพียงแค่ "เสือกระดาษ" แบบที่คนอื่นเขาวิจารณ์กัน 


ภัควดี กล่าวต่อว่าทราบว่าสหประชาชาติไม่สามารถจะแทรกแซงทางการเมืองประเทศอื่นได้ แต่อย่างน้อยถ้ามีการละเมิดสิทธิประชาชนขนาดนี้ สหชาติก็ควรมีท่าทีบางอย่างต่อรัฐบาลได้


การมายืนถือป้ายเรียกร้องตรงนี้เพื่อให้ทราบว่าประชาชนสนใจจริง ๆ และที่ตั้งใจจัดกิจกรรมที่หน้า UN 3 วัน ก็เพราะอยากให้เห็นว่าประชาชนมีความกังวลเรื่องนี้อย่างแท้จริง ภัควดี กล่าวทิ้งท้าย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ยืนหยุดละเมิดสิทธิประกันตัว