“ณัฐวุฒิ”
สะท้อนกรณีดินแดง “ผมพูดไม่ได้ว่าเห็นชอบกับแนวทางนี้ และคงไม่เชิญชวนใครเข้าร่วม
แต่ผมบอกได้ว่าผมเห็นใจพวกเขา พยายามทำความเข้าใจ
และจะส่งเสียงเรียกร้องต่อรัฐไม่ให้ใช้ความรุนแรงต่อไป”
วันนี้
(13 มิ.ย. 65) ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้โพสต์กรณีเหตุการณ์เผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุม
บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ความว่า
ผมเคารพทุกขบวนการต่อสู้
ไม่ว่าเล็ก ใหญ่ ใหม่ เก่า เมื่อเอาชีวิต อิสรภาพ
วางเป็นเดิมพันเพื่อหลักการที่ถูกต้อง
ถือว่าทุกคนมีสิทธิ์โดยชอบที่จะประกาศการต่อสู้ของตัวเอง
กรณีสามเหลี่ยมดินแดง
ผมเคยแสดงความห่วงใยตั้งแต่รอบก่อน ยอมรับว่าตัวเองเข้าไม่ถึงแนวทางการต่อสู้นี้
แต่จะอย่างไรก็ตาม รัฐไม่มีสิทธิ์ใช้ความรุนแรงกับประชาชน หรือใช้เล่ห์กลใดๆ
สร้างสถานการณ์ให้บานปลายป้ายสีพวกเขา
หากเกิดมีเรื่องเช่นนี้
เจ้าหน้าที่และรัฐบาลต้องรับผิดชอบ
ผมเคยเข้าพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงตรงแนวหน้า
ระหว่างเจรจาชวนน้อง ๆ กลับบ้าน ก็พบว่ามีจำนวนหนึ่งเลือกจะสู้แบบพลุไฟ ตะไล
ปิงปอง เกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ จนบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย
แม้พยายามเอ่ยปากห้าม
แต่ใจนึกถึงภาพคนเสื้อแดงใช้พลุ ตะไล สู้กับสไนเปอร์เมื่อปี 2553 ในอกก็สะทกสะท้อน
พี่สาวอาวุโสคนหนึ่ง
เป็นแดงแท้ยาวนาน ฐานะดี บ้านพักอยู่กลางเมือง สนับสนุนการต่อสู้มาตลอดเคยบอกผมว่า
“เห็นภาพพี่น้องใช้พลุบ้าง ประทัดบ้าง ขว้างใส่ทหาร
ทั้งที่เห็นชัดว่าเขาใช้ปืนยิงแล้วสงสาร คิดกันยังไง ทำไปทำไม”
แดงตัวแม่มีคำถาม
ผมก็มีคำอธิบาย “พี่ครับ พี่น้องเราเขาก็รู้นะว่าสู้สไนเปอร์ไม่ได้
รู้ด้วยว่ามันยิงจริง ตายไปแล้วหลายราย แต่ที่ทำเพราะพวกเขาต้องการบอกว่ากูสู้
กูไม่ยอม คนเล็ก ๆ ที่ถูกกดขี่มาตลอดเขาสู้เองไม่ไหว
เมื่อมีวาระที่จะได้สู้ร่วมกับคนที่รู้สึกเหมือนกัน เขาก็ลืมตัวลืมตาย สำหรับบางคน
การได้สู้มันยืนยันศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ครับพี่”
พูดไม่ทันจบผมเห็นเธอน้ำตาไหล
ผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าน้ำเต็มตาตั้งแต่เมื่อไหร่
ผมพูดไม่ได้ว่าเห็นชอบกับแนวทางนี้
และคงไม่เชิญชวนใครเข้าร่วม แต่ผมบอกได้ว่าผมเห็นใจพวกเขา พยายามทำความเข้าใจ
และจะส่งเสียงเรียกร้องต่อรัฐไม่ให้ใช้ความรุนแรงต่อไป
เราเคยผ่านสถานการณ์ถูกป้ายสีด้วยผังล้มเจ้า
กล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้าย แล้วก็ถูกไล่ยิงกลางเมือง นอนตายกลางมหานคร
โดยคนส่วนหนึ่งไม่ทุกข์ร้อน รู้สึกว่าชนะ ยิ้มกว้างล้างถนน
เราจะไม่ยอมให้เกิดเหตุแบบนี้อีก
เจ้าหน้าที่ต้องใช้ปัญญาและเมตตา
ไม่ใช่อาวุธและยุทธวิธี ถ้าผิดก็ดำเนินคดีตามหลักฐาน ไม่ใช่เอาปืนยิง ไล่ทุบไล่ตี
ส่วนน้อง
ๆ ผู้ชุมนุมขอให้ใช้สติ ประเมินสถานการณ์ดีๆ ฟังความให้รอบด้าน เรื่องสู้เข้าใจได้
แต่คนอีกส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบก็ต้องให้ความสำคัญ
อย่าลืมว่าการยึดกุมความชอบธรรม ขยายการยอมรับ เป็นกุญแจดอกใหญ่สู่ชัยชนะ
ห่วงใยน้องเอ้ย
ที่มา
: Fb.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
#ณัฐวุฒิใสยเกื้อ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์