วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565

บอย ธัชพงศ์ แกดำ : อาลัย “วัฒน์ วรรลยางกูร”


งานไว้อาลัย #วัฒน์วรรลยางกูร


บอย ธัชพงศ์ แกดำ : อาลัย “วัฒน์ วรรลยางกูร”


พอพูดถึงพี่วัฒน์นะครับ สิ่งแรกที่คนหนุ่มสาวตั้งแต่ปี 63 จนถึงปัจจุบันที่เราจะได้ยินกันบ่อย แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีการพูดชื่อ ก็จะมีแต่พวกเรา มีแต่พ่อแม่พี่น้องเสื้อแดง พ่อแม่พี่น้องที่นั่งกันอยู่ตรงนี้ เราจะรู้ผ่านบทเพลง ผ่านผลงาน ผ่านชีวประวัติขอพี่วัฒน์ ตั้งแต่การต่อสู้ในสมัย 14ตุลา 6ตุลา จนถึงปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้สานต่อและเราได้รับพลังจากคนที่ชื่อว่า “วัฒน์ วรรลยางกูร” คือเพลงสหาย


ทุกครั้งที่เราชุมนุม แล้วเราจะต้องต่อสู้หรือต้องไปปฏิบัติการอะไรสักอย่าง เพลงสหายเป็นหนึ่งเพลงที่เสียงพี่วัฒน์จะทำให้เรารู้สึกถึงพลัง ทุกครั้งที่เราร้องเพลงนี้ เราปลุกความหวังและพลังของพวกเรา สิ่งที่พี่วัฒน์ทำมาจนถึงปัจจุบันผมคิดว่าไม่ได้สูญเปล่า และอย่างน้อยเขาคือคนเดียวที่บทเพลงของเขาไปร้องในสถานที่แบบนี้และเหมาะสมที่สุด และนี่คือบทเพลงของปฏิวัติประชาชนมากที่สุด จนวินาทีสุดท้ายเขาก็ยังรับใช้อุดมการณ์ปฏิวัติประชาชนครับ


แตกต่างกับเพื่อนสหายบางคนที่วันนี้ไม่ได้ร้องเพลงของประชาชนเพื่อปฏิวัติประชาชน แต่ร้องเพลงเพียงแค่รับใช้ชีวิตของตัวเอง หรือรับใช้อนุรักษ์นิยมเพราะเพียงแค่ตำแหน่งและผลประโยชน์ส่วนตัว แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องจดจำฝังใจและจะต้องไม่มีวันลืมเลือน คนที่ทำให้ “วัฒน์ วรรลยางกูร” ไม่ได้อยู่ในประเทศนี้ก็คืออำนาจมืดของศักดินานี่แหละครับ เราจะต้องไม่ลืมว่าอำนาจที่แท้จริงและอำนาจที่ทำให้คุณวัฒน์ วรรลยางกูร ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ อำนาจที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนที่เรียกร้องความเป็นคนเท่ากันต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ หรือถูกอุ้มฆ่าถูกอุ้มหาย มันเกิดจากอำนาจของศักดินานี่แหละครับ


ถึงกระนั้นก็ตาม ณ วันนี้การปฏิวัติประชาชน สิ่งที่คุณวัฒน์ วรรลยางกูร ใฝ่ฝันและปฏิบัติมาโดยตลอดไม่ได้สูญเปล่า วันนี้สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว วันนี้ไม่มีใครยืนในโรงหนังแล้วครับ และสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 63 จนถึงปัจจุบัน สิ่งที่คนหนุ่มสาวคนยุคปัจจุบันเข้าใจและยอมเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมทางการเมืองและความคิดเก่าก็คือการต่อสู้และการยืนหยัดด้วยรักแห่งอุดมการณ์ของคุณวัฒน์ วรรลยางกูร และพี่น้องเสื้อแดงทุกคน พี่น้องที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกคน และทุก ๆ คนที่ถูกอุ้มฆ่า ถูกอุ้มหาย และลี้ภัยไปต่างประเทศ ทุกคนคือคนที่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งการปฏิวัติ และวันนี้มันงอกงามแล้วครับ


ไม่มีอำนาจใดที่จะมาขัดขวางการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ สิ่งที่คุณวัฒน์ วรรลยางกูร ได้ทำมาจน ณ ปัจจุบันผมยังคิดว่าเขาไม่ได้ตาย เพราะความคิดและอุดมการณ์การต่อสู้ของเขายังอยู่ ผมและพี่น้องทุกคน พวกเราคือผลผลิตแห่งอุดมการณ์และการต่อสู้ของคนที่ยืนหยัดและต่อสู้ ของคนที่เหมาะจะร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาในสถานที่แบบนี้จริง ๆ ไม่ใช่ใครที่ไปร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาในเวทีของอำมาตย์หรือศักดินาครับ ไม่ใช้ใครที่ร้องเพลงประชาชนบนเวทีรับใช้อำมาตย์หรือศักดินาครับ


นี่คือบทพิสูจน์ที่แท้จริงว่า ไม่ว่าในสมัยเป็นนักเรียนนักศึกษาต่อสู้มาอย่างไร แม้วินาทีสุดท้ายที่เขาตาย เขาก็ยังเป็นเหมือนเดิม เขายังรับใช้ประชาชนเหมือนเดิม เขายังรับใช้อุดมการณ์แห่งการปฏิวัติเพื่อประชาชนเหมือนเดิม ศิลปินเพื่อชีวิตหลายคนที่เป็นศิลปินแห่งชาติรุ่น ๆ ของคุณวัฒน์ ไม่พูดคำว่าปฏิวัติประชาชนแล้วครับ แต่พูดคำว่า “ปฏิรูป” แต่ไม่ได้ปฏิรูปสถาบันนะ และก็ได้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีมา แล้วก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะต้องพูดคำว่าปฏิวัติประชาชน คนเหล่านั้นขึ้นเวทีแล้วลืมคำว่าปฏิวัติประชาชนไปแล้ว ในหัวเขามีว่าปฏิวัติเพื่อตัวกู ๆ ๆ


แต่วันนี้ครับ วันนี้คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่าคนทุกคนรู้และเข้าใจคนชื่อ “วัฒน์ วรรลยางกูร” มากขึ้น คนหนุ่มสาวหลายคนรู้จักมากขึ้น แล้ววันนี้เราเห็นแล้วว่าดอกผลผลิตแห่งเมล็ดพันธุ์แห่งการปฏิวัติประชาชนไม่สูญเปล่า เราไม่ได้สู้เพื่อให้ใครขึ้นมาใหญ่ แต่เราสู้เพื่อให้ประชาชนขึ้นมามีอำนาจเท่ากัน แล้วสถานที่แห่งนี้เหมาะสมสุดแล้วที่จะร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา พี่น้องทุกคนตรงนี้เหมาะสมสุดแล้วที่จะร้องเพลงสหาย เพลงปฏิวัติประชาชน และพวกเราเหมาะสมสุดแล้วที่จะเรียกตัวเองว่าพวกเราคือคนที่ทำงานปฏิวัติประชาชนครับ ไม่ว่าพวกเราจะต้องแลกด้วยต้นทุนอะไรก็ตาม ผมรู้ว่าพ่อแม่พี่น้องทุกคน ทุกคนมา ทุกคนมีต้นทุนที่ต้องจ่าย ทุกคนมา ไม่ว่าจะเป็นคนพูด หรือคนร่วม ทุกคนมีต้นทุนที่ต้องเสียและต้องจ่ายเพื่อแลกกับการปฏิวัติ เราจะไม่ยอมให้อุดมการณ์แห่งการปฏิวัติประชาชนสูญเปล่า


สิ่งที่เราจะตอบสิ่งที่คุณวัฒน์ วรรลยางกูรได้ทำเอาไว้ตอบแทนสิ่งที่พี่น้องเราหลายคน ไม่ว่าจะเป็นวันเฉลิมหรือใครหลาย ๆ คนที่ถูกอุ้มฆ่าถูกอุ้มหาย หรือใครหลาย ๆ คนที่ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ สิ่งที่เราจะตอบแทนเขาได้คือการยืนหยัดและต่อสู้ไปเพราะวันนี้การต่อสู้ยังอยู่ มันยังไม่จบครับ จะไม่มีใครหน้าไหนมาหยุดยั้งการปฏิวัติและการเปลี่ยนแปลงของประชาชนได้ ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง การต่อสู้ของประชาชนก็จะไม่จบ การเลือกตั้งไม่ใช่จุดจบ การเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกสุดท้าย แต่ทางออกสุดท้ายที่จะเปลี่ยนเกมพลิกเกมให้ประเทศนี้เป็นของประชาชนจริง ๆ คือพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เพราะเราเชื่อมั่น ด้วยรักแห่งอุดมการณ์ “วัฒน์ วรรลยางกูร” ครับ ปฏิวัติประชาชนครับ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์