กลุ่มsaveนาบอน บุกตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าเรียกร้องยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ปักหลักหมู่บ้าน"ผู้ประสบภัยจากทุนศักดินา"
วันนี้ (20 ธ.ค. 64) เวลา 09.00 น. กลุ่มภาคีsaveนาบอน เดินทางจากหน้าองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เพื่อมาปักหลักบริเวณหน้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากทราบว่าทุนศักดินาล้วนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องมาเพื่อบอกให้ตลาดหลักทรัพย์รู้ว่า ทุนศักดินากำลังฆ่า "นาบอน"
กระทั่งเวลา 13.30 น.นายเอิบ สารานิตย์ เป็นตัวแทนกลุ่มฯ ยื่นหนังสือถึงประธานกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ผ่าน นายนิกร จรูญกิตติพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายอาคาร สำนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้กลุ่มภาคีเซฟนาบอน จะยังคงรอคำตอบจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจนถึงเวลา 15.00 ก่อนจะมีกิจกรรมต่อไป
สำหรับหนังสือที่ทางกลุ่มsaveภาคีเซฟนาบอนยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงประธานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่องการกำกับการดำเนินกิจการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีเนื้อหาระบุว่า
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศความเป็นบรรษัทภิบาลหรือการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งประกอบด้วย ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ ภาระรับผิดชอบ ในการนี้บริษัท แอ๊ปโซลูท คลีน เอนเนอร์จี้ (ACE) ได้กระทำการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชนในการดำเนินกิจการดังนี้
1. นายหน้าที่ดินของบริษัทได้กระทำการหลอกลวงประชาชนในพื้นที่ว่าจะซื้อที่ดินไปทำตลาดการเกษตร หลังจากเริ่มสัญญาซื้อขายได้แจ้งประชาชนว่าจะนำที่ดินไปสร้างโรงไฟฟ้า การกระทำอันหลอกลวงเช่นนี้คู่ควรกับความเป็นบรรษัทภิบาลหรือไม่ หรือว่าบริษัทจะปฏิเสธความรับผิดชอบว่าเป็นการกระทำของนายหน้าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท
2. ที่ดินของบริษัทตั้งอยู่ใจกลางชุมชนโดยพื้นที่รายรอบประกอบด้วยบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ และพื้นที่การประกอบอาชีพ การสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่เช่นนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิของชุมชน หากตลาดหลักทรัพย์ตั้งกฎไว้สำหรับปฏิบัติ จะต้องดำเนินการกับบริษัทที่มีพฤติกรรมไม่รับผิดชอบต่อสังคม นอกจากว่าตลาดหลักทรัพย์ตั้งกฎเกณฑ์ไว้เพื่อสร้างภาพลักษณ์เท่านั้น
3. การจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดำเนินการด้วยความฉ้อฉล ทั้งเนื้อหาของรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยภาคประชาชนและภาคีวิชาการยินดีที่จะพิสูจน์ต่อสาธารณะว่าความฉ้อฉลในเนื้อหาและกระบวนการของบริษัทเป็นเช่นไร
4. ในขณะที่ยังไม่มีการออกใบอนุญาต แต่บริษัทได้ดำเนินการถมที่ดินจนก่อความเดือดร้อนกับประชาชนโดยเฉพาะ 13 ครัวเรือนที่บริษัทซื้อที่ดินล้อมไว้ นับเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมต่อความรับผิดชอบทางสังคม แม้บริษัทจะอ้างว่าขออนุญาตจากองค์การบริหารส่วนตำบลในการถมดินแล้ว แต่พฤติกรรมเช่นนี้เป็นการแสดงอำนาจอิทธิพลให้เห็นว่า จะอย่างไรเสียใบอนุญาตทั้งสามใบก็สามารถออกมาได้ด้วยอิทธิพลของผู้ถือหุ้นของบริษัท
วิกฤติศรัทธาจะก่อเกิดต่อตลาดหลักทรัพย์ และ การมีกฎเกณฑ์เรื่องธรรมาภิบาลจะกลายเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อของตลาดหลักทรัพย์ จึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการกำกับธรรมาภิบาลและให้บริษัทยกเลิกการสร้างโรงไฟฟ้าใจกลางชุมชนนาบอน นครศรีธรรมราช
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา
กลุ่ม #Saveนาบอน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์