วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

บ้านกำลังจะถูกยึด “อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์” ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ผู้อุทิศทั้งชีวิตสร้างผลงานเพลงเพื่อการต่อสู้ของประชาชน

 


บ้านกำลังจะถูกยึด “อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์” ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ผู้อุทิศทั้งชีวิตสร้างผลงานเพลงเพื่อการต่อสู้ของประชาชน


วันนี้ (27 พ.ย. 64) ผู้สื่อข่าวยูดีดีนิวส์มีโอกาสได้สนทนากับ นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรือ อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ซึ่งจากการโพสต์เฟซบุ๊คเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ของ “อาเล็ก” ทำให้ทราบว่าขณะนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต นั่นคือบ้านที่พักอาศัยปัจจุบันขณะนี้กำลังจะถูกธนาคารยึด เนื่องจากขาดส่งการชำระค่างวดบ้านมาเป็นเวลานาน โดย “อาเล็ก” เล่าให้ฟังว่า


“อาเล็ก” และพี่ชาย มีความต้องการซื้อบ้านให้แม่มาอยู่ด้วยกัน ด้วยความที่อยู่บ้านเช่ามาตลอด ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง และแม่ซึ่งอยู่ที่นครศรีธรรมราชนั้น อยากมาอยู่ใกล้ ๆ ลูก จึงปรึกษาและหาบ้านให้แม่มาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ได้บ้านที่ถูกใจมา 1 หลัง อยู่แถวบางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งปัจจุบัน “อาเล็ก” และพี่ชายช่วยกันผ่อนบ้านหลังดังกล่าวมาได้ครึ่งทางแล้ว




ระยะหลังครอบครัวต้องเจอกับพิษเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การผ่อนชำระค่างวดบ้านมีปัญหา และในที่สุดก็ไม่ได้มีการติดต่อกับธนาคาร จนกระทั่งทางธนาคารแจ้งว่าจะมายึดบ้าน โดยศาลจะชี้ยึดในวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา น้องชายของ “อาเล็ก” จึงไปติดต่อกับทางธนาคารและศาล ขอให้เลื่อนวันยึดบ้านออกไปก่อนพร้อมทั้งจะพยายามหาเงินมาใช้หนี้ธนาคารเป็นจำนวนเงิน 510,000 บาท (ห้าแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งศาลและธนาคารได้กรุณายืดเวลา โดยให้นำเงินไปชำระหนี้ภายในวันที่ 3 ธ.ค. 64 นี้ ซึ่งทางธนาคารจะทำการถอนฟ้องทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข 


นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรือ อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันอายุ 52 ปี มาอยู่กรุงเทพมหานครร่วม 30 ปีแล้ว โดยอยู่ห้องเช่า กินข้าวกล่องมาตลอด 22 ปี “อาเล็ก” เคยเป็นนักร้องค่ายดัง (อาร์เอส) ในส่วนของอาร์สยาม (ด้านลูกทุ่ง) มีการทำสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดโดยเซ็นสัญญา 8 ปี 




หลังรัฐประหารเมื่อปี 2549 “อาเล็ก” เห็นความไม่ถูกต้องที่ทหารออกมาใช้กำลังอาวุธยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ในตอนนั้นเองทางแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ได้จัดเวทีที่โบนันซ่า เขาใหญ่  “อาเล็ก” จึงตัดสินใจวันนั้นเลยว่าตนเองต้องขึ้นเวทีคนเสื้อแดง ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นสัญญาที่เซ็นกับอาร์สยามยังเหลืออีก 4 ปี “อาเล็ก” เดินเข้าไปบอกเขาว่า “พี่ครับ ผมจะเลิกเป็นนักร้องอาร์สยามแล้วนะ ผมจะเป็นนักร้องแนวการเมือง” และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา “อาเล็ก” ก็แต่งเพลงคนเสื้อแดงขึ้นเวที เป็นคนใต้เสื้อแดงที่ขึ้นเวทีร้องเพลง จากวันนั้นจนถึงบัดนี้เป็นเวลา 15 ปีแล้วที่ “อาเล็ก” ร่วมต่อสู้และอยู่เคียงข้างประชาชนที่รักประชาธิปไตยมาตลอด 


“อาเล็ก” เล่าว่า ตอนนี้เพื่อน ๆ เขาเรียกกันติดปากว่าตนเป็น “กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร” ซึ่งมีความสามารถในการแต่งเพลงเอง เรียบเรียงดนตรีเอง บันทึกเสียงเอง โดยที่ไม่ได้ร่ำเรียนจากโรงเรียนที่สอนดนตรี แต่ได้ศึกษาเรียนรู้จากคนรอบข้าง และปัจจุบันก็ยังหาความรู้เพิ่มเติมจากโซเชียลมีเดีย จากยูทูป “อาเล็ก” บอกว่าทุกวันนี้ผมจะหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับการต่อสู้ที่ยืดเยื้อยาวนาน ถ้าเราสู้ แต่เราโง่ ก็จะผิดทิศผิดทาง ผมถือว่าการเรียนรู้ทุกวันนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดของนักสู้ โดยเฉพาะนักสู้ทางศิลปะที่จะต้องรู้เท่าทันคนอื่น


และจากการเป็นแนวร่วมด้านวัฒนธรรม ขณะนี้ “อาเล็ก” มีคดีทางการเมืองอยู่ 30 กว่าคดี เป็นคดีที่ถึงชั้นศาลไปแล้ว 5 คดี ที่เหลือก็อยู่ในระหว่างการสั่งฟ้องซึ่งกำลังจากตามมาเป็นลำดับ ซึ่งตนก็ได้เตรียมใจไว้แล้ว ซ้อมติดคุก ใช้จินตนาการล่วงหน้าไว้แล้วว่าถ้าต้องติดคุกจะทำอย่างไร ฉะนั้นจึงไม่มีความกังวล




สิ่งที่ “อาเล็ก” อยากทำต่อจากนี้คือ ผลิตงานศิลปะที่มีคุณภาพและมีคุณค่ามาประกอบการทำสงครามความคิดของประชาชนที่ยาวนาน สงครามความคิดคือสงครามที่ไม่หลั่งเลือด ตนจะใช้บทกวี ใช้ดนตรี มาร้อยเรียงเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ทางการเมือง เพื่อเป็นประโยชน์กับการขับเคลื่อนการต่อสู้ของประชาชน เพราะผมเลือกแล้วว่าผมจะตายอย่างมีคุณค่ากับมหาชน


“อาเล็ก” กล่าวต่อไปว่า สำหรับผมมีความมั่นใจว่าประชาชนต้องชนะล้านเปอร์เซ็น ไม่ว่าจะชนะหลังจากที่ผมได้ตายไปแล้ว อาจจะ 5-10 ปีนะ แต่บาทเท้าการย่างเดินของผมจะเป็นรอยย่ำชัดเจนว่าคนนี้ชื่อ “อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์” ได้สร้างเพลงการต่อสู้ของประชาชนเอาไว้เป็นร้อยเพลง และจะเป็นรอยจารึกที่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่มากมาย แต่ “ศิลปินเพลงไพร่” และ “ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร” คนนี้ได้อยู่ในใจของคนจำนวนหนึ่งแล้ว


ย้อนกลับมาเรื่องแม่ของ “อาเล็ก” ซึ่งขณะนี้อายุ 78 ปี สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ยังสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่งปากซอยได้ แม่เป็นคนทันสมัย เล่นโซเชียลเป็นประจำทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูป ไลน์ เพื่อคอยตามเฝ้าดู “อาเล็ก” ผ่านช่องทางโซเชียลทุกย่างก้าว ที่สำคัญก็คือแม่อยู่บ้านคอยรับหมายเรียกจากตำรวจที่มีมาถึง “อาเล็ก”




“อาเล็ก” บอกว่าวิกฤตเรื่องบ้านครั้งนี้ถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุด ผมถือว่าบ้านหลังนี้จะรักษาเอาไว้เพื่อให้เป็นที่อยู่ของครอบครัว โดยเฉพาะได้อยู่กับแม่ แต่ด้วยความเกรงใจ ด้วยความเคารพ และด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวของตน ขอพลังน้ำใจจากเพื่อน ๆ ที่ไม่ลำบากไม่เดือดร้อนคนละเล็กละน้อยตามกำลัง ประคับประคองความเป็นอยู่ เพื่ออุทิศตนทำงานศิลปะด้านดนตรีต่อสู้ทางการเมือง และได้ต่อสู้แบบสุดชีวิต


สุดท้าย “อาเล็ก” ได้ฝากภารกิจที่ทำมาตลอดในรอบสองเดือนที่ผ่านมา คือการไปทำกิจกรรม “ยืนหยุดขัง” หน้าเรือนจำคลองเปรม เพื่อเป็นการชี้เข้าไปในเรือนจำว่า “เพื่อนกูอยู่ในนี้” ชี้ให้ชาวโลกรับรู้โดยการเฟซบุ๊กไลฟ์ เล่นดนตรีผ่านภาษาเพลงที่เราใช้ ฝากทุกคนถ้ามีโอกาสก็ไปยืนเป็นเพื่อนกัน “พูดด้วยหัวใจ ปราศรัยด้วยเสียงเพลง” 


สนับสนุนและต่อลมหายใจ อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ได้ที่ 

ธนาคารกสิกรไทย

นายโชคดี ร่มพฤกษ์

เลขบัญชี 108-1-77526-1


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์