"แอมมี่" เปิดใจหลังติดกำไลอีเอ็ม กระทบงานดนตรี เพราะต้องโดนกักตัวกักบริเวณ เผย "รุ้ง" จิตใจเข้มแข็ง เป็นห่วงคนข้างนอก ชี้จับแกนนำขังหมด มีรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน
วันนี้ (22 พ.ย. 64) ตามที่เวลา 14.45 น. ศาลอาญา รัชดา มีคำสั่งเพิกถอนประกันตัว "รุ้ง ปนัสยา" คดี ม.112 กรณีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เหตุการโพสต์เชิญชวนให้แต่งชุดดำวันที่ 28 ก.ค. 64 และโพสต์การใส่ชุดดำลงโซเชียล ศาลชี้ ถือเป็นการสร้างความเสียหายต่อสถาบันฯ ด้านไมค์และแอมมี่ ไม่ถอนประกัน แต่เพิ่มเงื่อนไข ให้ติดกำไล EM ห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 16.00-05.00 น.เว้นแต่มีเหตุจำเป็น นั้น
ภายหลังเจ้าหน้าที่ศาลอาญาติดอุปกรณ์กำไลข้อเท้าอีเอ็ม (EM) ให้กับนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่เดอะบอตทอมบลูส์เรียบร้อยแล้ว
นายไชยอมร ให้สัมภาษณ์ว่า ก็ยังดีที่อย่างน้อยไม่โดนถอนประกัน ไม่โดนพรากอิสรภาพไป แต่ก็เพิ่มมาด้วยเงื่อนไขติดกำไลอีเอ็ม และต้องอยู่ในเคหะสถานเกือบ 24 ชั่วโมง พูดง่าย ๆ ว่าอยากให้แกนนำทุกคนหยุดเคลื่อนไหว หยุดความคิดเห็น หยุดศูนย์รวมจิตใจของมวลชนที่จะออกไปเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ที่น่าเสียใจไปกว่านั้นคือ คำตัดสินถอนประกันรุ้ง ปนัสยา เหตุผลฟังดูแล้วใกล้เคียงกับกรณีใส่เสื้อครอปท็อป คือ การชักชวนคนมาใส่เสื้อสีดำ คิดว่าเป็นประเด็นที่เปราะบางเกินไปที่เอานักศึกษาขังคุก ประเด็นมาตรา 112 ไม่ใช่เป็นเรื่องภายในประเทศ แต่เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน
นายไชยอมร กล่าวในประเด็นการปรับตัวหลังติดกำไลอีเอ็มว่า ไม่มีสิทธิ์แย้งอะไรเลย ทุกอย่างเป็นคำสั่งอยู่แล้ว ในเรื่องการกักบริเวณและการติดกำไลอีเอ็ม สำหรับตนเวลาขึ้นเวทีถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไวเลส ก็ไม่รู้ว่าอุปกรณ์กำไลอีเอ็มนี้จะมีผลอะไรหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือออกไปทำงานไม่ได้ เพราะต้องโดนกักตัวกักบริเวณ ปกติยังต้องเล่นดนตรีและมีอัดเสียงอยู่
อีกทั้งนายไชยอมร ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่พบ "รุ้ง-ปนัสยา" ที่ห้องพิจารณาวันนี้ว่า รุ้งใส่ชุดผู้ต้องขัง ส่วนจิตใจจะบอกว่าเข้มแข็งก็ได้ แต่ที่ได้พูดกับรุ้งก็เป็นเรื่องการฝากงานมากกว่า และรุ้งก็ยังเป็นห่วงว่าคนอยู่ข้างนอกจะขยับเขยื้อนกันอย่างไร แต่เชื่อว่าถ้าจับแกนนำขังหมดก็ต้องมีรุ่นใหม่ขึ้นมา เราจะใช้ความพยายายามและความอดทนให้มากขึ้น
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์