แลไปข้างหน้ากับธิดา ถาวรเศรษฐ Ep.50
ตอน
: เสียงหัวเราะของผู้นำท่ามกลางเสียงร้องไห้ของประชาชน
เสียงหัวเราะของผู้นำ
ท่ามกลางเสียงร้อยไห้คร่ำครวญของประชาชน เพื่อที่จะบอกสถานภาพว่า
ดิฉันเชื่อว่าในช่วงระยะใกล้นี้จะมีกลุ่มก้อนผู้คนในวงการต่าง ๆ
ออกมาเจริญพรท่านผู้นำ ซึ่งจะรู้ตัวหรือเปล่าก็ตามว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงวิกฤต
-
วิกฤตของเศรษฐกิจ
-
วิกฤตของสังคม โดยเฉพาะปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ทางสาธารณสุข
-
วิกฤตการเมือง
คือเป็นวิกฤตยิ่งกว่าวิกฤตทั้งหมด
เดิมมันมีวิกฤตการเมืองอยู่แล้วในฐานะที่คุณสืบทอดอำนาจมา พอคุณมาเจอสถานการณ์อย่างโควิด
ปรากฏว่าทำได้ จะเรียกว่าเลวมากก็ได้ ผู้คนก็สรรเสริญกันทั่ว
ไม่เคยขอโทษ
มีแต่ปกปิด ปกป้อง และมาหัวร่อต่อกระซิกกัน จนในที่สุดเวลาพูดกับนักข่าว “นะจ๊ะ
นะจ๊ะ” เนี่ย แล้วก็หัวร่อต่อกระซิกกัน มันเป็นเรื่องที่บาด! บาดหู
บาดใจประชาชน จนกระทั่งคำว่า “นะจ๊ะ นะจ๊ะ” ก็กลายเป็นอะไรที่คนรับไม่ได้
แต่สิ่งหนึ่งที่แสดงออกมาในท่ามกลางเสียงหัวเราะ ที่คุณนิ้วกลม (Roundfinger) เขาถามว่า
“ได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชนบ้างไหม?”
คำนี้มันโดนใจคนมาก
แต่ว่ามันโดนใจคุณหรือเปล่า กลายเป็นว่ามาหัวร่อต่อกระซิกคิกคัก แล้วก็มาพูด “นะจ๊ะ
นะจ๊ะ” แถมยังชูนิ้วสองนิ้ว แล้วพยายามอธิบาย อันนี้มันก็คล้าย ๆ กับเป็นเรื่องที่ว่า
V
Vaccine, V Victory
ไม่รู้พูดทำไม?
ทั้งหมดที่ทำมันประหนึ่งว่านอกจากคุณไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชนแล้ว
คุณยังมีความสุขอย่างดี มีความสุขอย่างคิกคัก แล้วไม่ได้คนเดียวด้วยนะ
บรรดารัฐมนตรี บรรดาหมอใหญ่ ๆ ที่ยืนอยู่ขนาบข้างก็ มันเป็นภาพเหมือนในยุคโบราณน่ะ
คือถ้าด่าแบบชาวบ้านนะเขาเรียกว่า
“นายว่าขี้ข้าพลอย” นายหัวเราะ ขี้ข้าก็หัวเราะตามไปด้วย แต่เราไม่พูดแบบนี้ก็ได้
เพราะว่ามันอาจจะดูมันไม่เหมาะสมสำหรับผู้นำระดับนายกรัฐมนตรีกับระดับรัฐมนตรี
อันนั้นมันเป็นสำนวนสำหรับชาวบ้าน
แต่ท่านไม่ใช่ชาวบ้าน
แสดงให้เห็นชัดถึงว่าภาวะผู้นำแบบที่มีคนมาคอยห้อมล้อมปกป้องแล้วก็เอาอกเอาใจ
ทำให้ดิฉันคิดไปถึงในสมัยโบราณ เพราะฉะนั้นอันนี้มันก็สอดคล้องว่า ผู้นำอำนาจนิยม
ผู้นำจารีตนิยม ก็ต้องมีขบวนห้อมล้อมที่ขึ้นกับอำนาจนิยมและจารีตนิยมมาช่วยกันเชียร์
ช่วยกันประจบสอพลอ แล้วก็ไม่ได้บอกให้รู้ว่าเสียงร้องไห้คร่ำครวญประชาชนมันดังอยู่
มันหัวเราะไม่ได้ แต่ว่าด้วยความเชื่อมั่นในสถานภาพของท่าน
ท่านอาจจะคิดว่าสถานภาพของท่านมั่นคง
กองทัพมั่นคง สภามั่นคง มีตัวอะไรไม่รู้อยู่ตั้ง 250 พร้อมที่จะสนับสนุน พรรคพปชร.
ก็หนุน อย่างน้อยก็เกือบทั้งหมดนั่นแหละ อาจจะมีคนหนุนบ้าง ไม่หนุนบ้าง
อยู่นิดเดียว หรืออย่างไร? แปลว่านิติบัญญัติก็มั่นคง กองทัพก็มั่นคง
อะไรก็มั่นคงไปหมด อาจจะมองดูหมิ่นหรือเยาะเย้ยคนที่ไม่ชอบใจ คนที่ต่อต้าน
ก็เลยเกิดความสุขชั่วคราวในตอนนั้น
อีกอย่างหนึ่งดิฉันก็ขอแถมว่า
“นะจ๊ะ” เนี่ย เขาใช้กับคนที่ระดับล่าง ทำไมนายกฯ ไม่พูด “ครับ” กับนักข่าว
หรือแม้กระทั่งคำขอโทษต่อประชาชน มันไม่มี! ดังนั้นแปลว่านักข่าวก็กลายเป็นบุคลากรอีกระดับหนึ่งซึ่งนายกฯ
เอ็นดู แล้วใช้คำว่า “นะจ๊ะ นะจ๊ะ”
คำว่า
“นะจ๊ะ” เนี่ย คือคนในระดับเท่ากันเขาไม่พูดกัน ใช้กับคนที่ต่ำกว่า ดังนั้น “นะจ๊ะ”
ก็เป็นความเอ็นดูของคนระดับบนใช้กับระดับต่ำกว่า
ดิฉันก็อยากจะถามผู้สื่อข่าวทำเนียบว่าคุณก็ยอมให้เขา
“นะจ๊ะ นะจ๊ะ” แล้วก็เขวี้ยงอะไรต่อมิอะไรใส่มาตั้งยาวนาน ไม่เดือดร้อน
ไม่แสดงการประท้วงอะไรเลยหรือ ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนเอง
อันนี้ตั้งขอสังเกตสำหรับผู้สื่อข่าว
วิกฤตขนาดไหน?
วิกฤตขนาดที่คุณหมอที่รพ.รามาธิบดี
คุณหมอยุวเรศมคฐ์ สิทธิชาญบัญชา ที่เป็นหัวหน้าภาคเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทย์ศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ออกมาประมาณว่ามาถึงจุดที่จะต้องเลือกแล้วว่าใครจะให้มีชีวิตอยู่ต่อหรือจากไป
คุณหมอยุวเรศมคฐ์ที่รามาธิบดีได้พูดเพิ่มเติมเพราะว่ามีคนไปถามที่ว่า
มันถึงขั้นวิกฤตขนาดนี้ทำไมไม่ด่ารัฐบาล คุณหมอยุวเรศมคฐ์บอกว่า "ไม่พูดถึง/ไม่ด่ารัฐบาล
เพราะเสียเวลา ไม่เคยผิดหวังรัฐบาลเพราะไม่เคยหวัง
เหมือนที่ไม่เคยหวังว่าปลาจะปืนต้นไม้ได้ หรือว่าไก่จะดำน้ำเป็น"
โอ้โห
อันนี้มันก็สุดยอด แสดงให้เห็นว่ามองรู้ตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าผู้นำรัฐบาลชุดนี้จะไม่สามารถแก้วิกฤตปัญหาต่าง
ๆ ได้เลย เปรียบเสมือนไก่ดำน้ำไม่ได้ คือรู้ตั้งแต่ต้นแล้ว ต้องถือว่าก้าวหน้า
เพราะฉะนั้น
อันนี้มันเป็นภาวะวิกฤตที่หนักหน่วงที่สุด ถ้าในทัศนะของดิฉัน สังคมไทยไม่เคยเจอวิกฤตรุนแรงขนาดนี้มาก่อนเลย
เราเคยได้รับสมญานามว่าเป็นประเทศที่มีการสาธารณสุขที่ดีเลิศ
มีบุคลากรการแพทย์ที่เก่งเยี่ยม มีอสม. มีระบบ มีสปสช.
มีระบบประกันสุขภาพซึ่งเป็นแบบอย่าง แล้วเป็นยังไง? มาถึงตอนนี้ปรากฎว่าเมื่อเจอโควิดระลอกนี้เข้า
มันเท่ากับท้าพิสูจน์ว่ามันดีจริง มันเก่งจริงหรือเปล่า? และในทำนองเดียวกันมันก็เป็นตัวทดสอบภาวะผู้นำ
ในขณะนี้คุณจะได้ยินเสียงที่โจมตีไปหมด
ท่านอาจจะบอกว่าทำอะไรก็ไม่ดีไปซะหมด พูดนะจ๊ะก็ด่า หัวเราะก็ด่า
ผมร้องไห้ก็ต้องด่า ก็อาจจะจริง ร้องไห้ก็ต้องด่าแน่ว่าร้องไห้ทำไม ร้องไห้จริงรึเปล่า?
เป็นน้ำตาจระเข้รึเปล่า?
ความจริงใจ
การยอมรับความจริง การรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำ และก็ขอโทษประชาชน แล้วก็ออกซะ!
อันนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ดิฉันเชื่อว่าทำไม่ได้แน่นอน!
คนที่อยู่รอบข้างมันก็เหมือนกับสังคมจารีตในสมัยโบราณ
เป็นลูกขุนพลอยพยัก และเราไม่ต้องแปลกใจในบรรดาพวกอาจารย์แพทย์จำนวนหนึ่ง
หรือผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขที่มีตำแหน่ง
ถ้าไปดูในอดีตเราจะเห็นว่าบุคลากรเหล่านี้ล้วนสนับสนุนการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
สนับสนุนการทำรัฐประหารในขบวนการของกปปส. ไปดูตอนนี้มีภาพเต็มไปหมดเลย
ธงกาชาดก็เต็มไปหมด สนับสนุนการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ไม่สนับสนุนให้ยุบสภาแบบที่เราต้องการก็คือคุณต้องออกไปตามระบบ
ไม่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ มันก็ต้องสนับสนุน “ประยุทธ์
จันทร์โอชา” น่ะซิ
ดังนั้น
ความเก่งในทางวิชาการที่เคยบอกว่าบุคลากรการแพทย์ของไทยเก่ง
นั่นเป็นที่น่าสงสัยหนึ่ง แต่ที่น่าสงสัยกว่าก็คือคนที่มีตำแหน่งสูง ๆ
อยู่ในกระทรวงสาธารณสุขหรือในโรงเรียนแพทย์ปัจจุบัน
ซึ่งมีแนวคิดปกป้องผู้สืบทอดอำนาจ สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์
เพราะฉะนั้นเราอย่าแปลกใจเลยว่าความสามารถในทางวิชาการนั้นนอกจากจะเป็นที่น่าสงสัย
ขณะนี้มีคนมาโหวตกันให้ปลดหมอบางคนออก เพราะว่าเวลาพูดอะไรไม่อ้างอิงวิชาการ
เพราะเน้นปกปิด ปกป้อง
และหมอคนนั้นก็มีภาพชัดในเรื่องแขวนนกหวีดแล้วก็ออกมาถ่ายภาพให้เห็นชัด
นอกจากเราจะมีรัฐบาลที่มาอย่างไม่ถูกต้อง
เป็นพวกอำนาจนิยม จารีตนิยม ไม่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย
เราอาจจะบอกได้ว่ากลุ่มบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขตัวดัง ๆ ตัวเด่น ๆ
แม้กระทั่งถึงรัฐมนตรี ก็ล้วนสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ
นั่นก็คือไม่สนับสนุนให้อำนาจเป็นของประชาชน
ถ้าไม่สนับสนุนอำนาจเป็นของประชาชน
สนับสนุนคนที่ไปปล้นอำนาจประชาชนมา ถามว่าเขาจะรักประชาชนด้วยน้ำใสใจจริงไหม?
ถ้าคุณรักประชาชนด้วยน้ำใสใจจริง คุณต้องรักระบอบประชาธิปไตย
คุณสนับสนุนรัฐประหารไม่ได้!
แล้วถ้าคุณรักประชาชนจริง
คุณจะได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชน คุณจะมาหัวร่อต่อกระซิกประหนึ่งเยาะเย้ยความทุกข์ยากของประชาชน
คุณทำไม่ได้เด็ดขาด!
ดังนั้นอย่าแปลกใจที่สิ่งที่เราเคยมี
สิ่งที่ดีในกระทรวงสาธารณสุข หรือว่าบุคลากรการแพทย์ เมื่อเจอวิกฤตท้าทาย
มันจะพบว่า “สอบไม่ผ่าน” เพราะในที่สุดวิธีคิดและแนวทางของการเมืองมันจะกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง
ก็คือแนวทางว่าคุณรักประชาชน คุณเห็นประชาชนต้องเป็นผู้มีอำนาจจริง
หรือคุณมองไม่เห็นอำนาจของประชาชน คุณก็ไม่รักประชาชน เมื่อคุณไม่รักประชาชน วิธีคิด
วิธีทำงาน คุณก็รักเฉพาะกลุ่มผู้มีอำนาจนำ ที่เหลือก็คือได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
วัคซีนบ้าบอคอแตกอะไรได้มายังไงก็ฉีดไปเลย
สิ่งที่เห็นชัดมากที่สุดเลยก็คือ
คุณไม่เข้าใจหรืออย่างไรว่าวัคซีนมันมีบทบาทสำคัญมาก ความผิดเรื่องวัคซีน
ความผิดเรื่องการแทงม้าตัวเดียว ไม่ต้องแก้ตัว ควรจะขอโทษ ไม่ขอโทษ! ความผิดเรื่องวัคซีน
ตามที่ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
เขาใช้คำว่า “รัฐบาลต้องใช้ความพยายามอย่างสูงสุดในการจัดหาวัคซีนโควิด-19
ให้มีใช้อย่างเพียงพอ” ทุกเรื่องเลยให้ใช้ความพยายามอย่างสูงสุด
คำถามว่าคุณทำหรือยัง ความพยายามสูงสุด
ในการจัดหาวัคซีนให้ทันกับเหตุการณ์
ให้มีปริมาณเพียงพอ การบริหารจัดการวัคซีน
มาจนกระทั่งที่สำคัญที่สุดที่ดิฉันพูดมาตลอดเวลา ก็คือการตรวจเชิงรุก ไม่ทำ! ขณะนี้ประเทศอยู่ในภาวะที่เรียกว่าการระบาดของเชื้อโรค
คุณจะไปหาว่าเป็นคลัสเตอร์ไปทำเป็นขนมครกอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
เพราะมันไปทั่วแล้วทั้งประเทศ คือคนที่ไปรับเชื้อมาก็เข้าสู่ครอบครัว
แล้วก็เข้าสู่ชุมชน มันอยู่ในขั้นที่เรียกว่าไม่สามารถจะใช้วิธีป้องกันได้แล้ว
เหลือแต่รักษาคนที่เป็น
ดังนั้นจึงมาถึงจุดที่เรียกว่า
“ไม่มีเตียง” แล้วตอนนี้บอกให้กักตัวอยู่ที่บ้าน คำถามว่ากักตัวอยู่ที่บ้านนั้น
โครงสร้างของสังคมไทยของคนจนนั้นเขามีห้องส่วนตัวหรือ คนที่มีห้องส่วนตัว
หรือมีคอนโดฯ หรืออยู่คนเดียว คนเหล่านี้บางทีเขามีทางเลือกอื่นมากกว่า
แต่คนเกือบทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่มีห้องส่วนตัว
เขาอยู่รวม แล้วก็น่าอนาถที่รอจนกระทั่งเสียชีวิต คือนั่งรอ นอนรอ ไม่มีเตียง
แล้วก็เห็นคนในครอบครัวเสียชีวิตต่อหน้า ประเทศไทยเคยมาถึงจุดนี้มั้ย?
เพราะฉะนั้น
ความเลวร้ายทั้งหมด ความย่อยยับของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นหนี้สูงสุด
ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจถ้วนหน้า
และไม่มีความหวังในอนาคต เพราะการนำที่ไม่เห็นหัวอกประชาชน
ไม่ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ หรือเสียงร้องไห้คร่ำครวญมันเข้าไม่ถึงหัวใจของผู้นำ
ของคณะผู้นำ
นี่เป็นเวลาที่วิกฤต และมีผู้นำที่วิปริตที่สุดในประเทศไทยที่เคยมีมา!
ดังนั้น
จะมีกลุ่มต่าง ๆ ต่อไปนี้ก็ให้เตรียมรับ ไม่ใช่มีแต่ม็อบของ M Power ที่มาจากสีลม
อาจจะดูรู้สึกเป็นสีสัน แต่ดิฉันว่าต่อไปนี้เตรียมรับทัพของประชาชนซึ่งทนไม่ได้ แม้คุณออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินซึ่งขณะนี้คุณโชคดีก็คือพรรคฝ่ายค้านไม่มีผู้นำที่แข็งแกร่งมากพอ
ไปใช้บริการคุณโทนี่ วู้ดซัม หรือคุณทักษิณ ชินวัตร มาจากแดนไกล
ซึ่งคุณอาจจะบอกว่าไม่มีผลสะเทือนสักเท่าไหร่
ดิฉันคิดว่าต่อไปนี้เป็นเวลาที่ผู้นำจะต้องเผชิญกับประชาชน
ซึ่งจะทนไม่ได้อีกต่อไป แล้วมาคอยดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ท่านอาจจะมีกองทัพ
ท่านอาจจะมีส.ส.ในสภาฯ
แต่ว่าท่ามกลางเสียงก่นด่าและคร่ำครวญของประชาชน จะอยู่ได้หรือเปล่านะคะ ลองดูกันค่ะ