วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่ง 18 แกนนำราษฎร ปักหมุดสนามหลวง 19-20 ก.ย. เป็นวันที่ 8 มี.ค.นี้ ขณะที่ 13 แกนนำ ชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมันนัดอีกที 25 มี.ค.

 


อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่ง 18 แกนนำราษฎร ปักหมุดสนามหลวง 19-20 ก.ย. เป็นวันที่ 8 มี.ค.นี้ ขณะที่ 13 แกนนำ ชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมันนัดอีกที 25 มี.ค. 


วันนี้ (17 ก.พ.64) เวลา 09.50 น.ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 นัดผู้ต้องหา 18 คน ในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ฟังคำสั่งในคดี ซึ่งนับเป็นผู้ต้องหาชุดที่ 2 หลังจากที่ที่อัยการมีคำสั่งฟ้องแกนนำ 4 คน ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา คือ อานนท์ นำภา สมยศ พฤกษาเกษมสุข พริษฐ์ ชิวารักษ์และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ซึ่งศาลไม่ให้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดีและทั้งหมดยังคงอยู่ในเรือนจำ


สำหรับผู้ต้องหาชุดที่ 2 จำนวน 18 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มตามข้อหา ดังนี้


ผู้ต้องหา 3 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลัก มาตรา 112 และ 116 ได้แก่ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ ภาณุพงศ์ จาดนอก


ผู้ต้องหา 15 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลัก มาตรา 116 และ "มั่วสุมกันมากกว่า 10 คนขึ้นไป" ตามมาตรา 215 ของประมวลกฎหมายอาญา ได้แก่ อรรถพล บัวพัฒน์, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, ชูเกียรติ แสงวงศ์, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, ณัทพัช อัคฮาด, ธนชัย เอื้อฤาชา, ธนพ อัมพะวัติ, ธานี สะสม, ภัทรพงศ์ น้อยผาง, สิทธิทัศน์ จินดารัตน์, สุวรรณา ตาลเหล็ก, อะดิศักดิ์ สมบัติคำ, อนุรักษ์ เจนตวนิชย์, ณัฐชนน ไพโรจน์ และไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์


โดยปนัสยา เปิดเผยก่อนที่จะเข้าพบอัยการสูงสุดว่า มีโอกาส 80 เปอร์เซ็นต์ ที่จะไม่ได้รับการประกันตัว ถ้ามองจาก 4 คนที่เข้าไปก่อนหน้านี้ เป็นคดีเดียวกันและมาตราเดียวกัน แต่เราก็หวังอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ที่กระบวนการยุติธรรมจะอยู่บนหลักการความเป็นธรรม ซึ่งวานนี้ (16 ก.พ.) ตนยื่นจดหมายถึงกระบวนการยุติธรรม ให้อนุมานไว้ก่อนว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล การบอกว่าเกรงจะกระทำผิดซ้ำเหมือนศาลพิพากษาล่วงหน้าแล้ว เรามีสิทธิต้องได้ประกันตัว คดีที่จำเลยถูกข้อหาฆ่าคนตายยังได้ประกันตัว


ด้าน ภาณุพงศ์ เปิดเผยถึงความรู้สึกหากต้องเข้าเรือนจำว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตัดผมรอแล้ว ถ้าใส่ชุดที่ออกจากคุกวันนั้นได้คงใส่มา แต่เคารพต่อศาล และไม่ฝากอะไรต่อผู้ชุมนุม เราต้องได้ออกไปอยู่แล้ว หรือถ้าไม่ได้ออกไป มวลชนรู้อยู่แล้วว่าต้องเดินหน้าต่อไปอย่างไร


ภาณุพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า แม่ของตนอาจจะขมขื่นใจในการพิจารณาวันนี้ แต่แม่บอกว่าภูมิใจที่ลูกยังอยู่ในสิ่งที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรมที่ควรจะเป็น ไม่มีปัญหา ทุกคนโอเค เป็นกำลังใจที่ดีต่อกัน


ขณะที่ น.ส.ปนัสยา กล่าวเสริมว่า เชื่อว่าอย่างไรก็ได้ออกมา การเคลื่อนไหวของเรายังไม่ถึงจุดจบ ไม่หยุดเพียงเท่านี้ ทุกคนยังเรียกร้องออกมาอยู่ เพราะข้อเรียกร้องของเรายังไม่สำเร็จ


ผู้สื่อข่าวถามถึงจำนวนผู้ชุมนุมที่น้อยลง อาจมีผลต่อแรงกดดัน ภาณุพงศ์ กล่าวว่า  ปีก่อน(2563)เดือนมกราคมถึงมีนาคมก็ไม่ค่อยมีผู้ชุมนุมออกมา จนเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม คนจึงเริ่มออกมา ตอนนี้ยังมีเรื่องโควิด เราไม่กังวลเรื่องมวลชนน้อยลง ทุกคนออกมามีค่าใช้จ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม บริหารเศรษฐกิจแบบนี้ คนหาเช้ากินค่ำต้องดูแลตัวเองก่อนออกมาชุมนุม แค่ทำมาหากินก็ไม่มีจะกินอยู่แล้ว มีนายกฯห่วย ตอกย้ำซ้ำเติมประชาชน เมื่อถึงจุดนั้นเราจะได้เห็นกันว่าประชาชนไม่ได้หายไปไหน ทุกคนพร้อมสู้


เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวต่อไป หากไม่ได้ประกันตัว ภาณุพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้ต่างจังหวัดหลายพื้นที่ติดต่อห้องพักเข้ามาแล้ว รอดูกันต่อไปว่าจะเบิ้มขนาดไหน ไม่ซีเรียสอะไร ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเหมาะสมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพื่อสู้กับกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม


ในส่วนของความเป็นห่วงเรื่องเหตุรุนแรงจะซ้ำรอยวันที่ 13 ก.พ. 2564 หรือไม่ ปนัสยา กล่าวว่า เราได้มีการถอดบทเรียนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ปัญหามีอะไรบ้าง การชุมนุมครั้งต่อไปการดูแลความปลอดภัยจะรัดกุมขึ้น คิดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกหรือน้อยมาก


ส่วน ภาณุพงศ์ กล่าวเสริมว่า เราเข้าใจความโกรธของมวลชนทุกคน เรารู้ว่าทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราอยากจะบอกว่าทุกคนคือพวกของเรา ทุกอย่างเกิดจากความโกรธที่เจ้าหน้าที่รัฐริเริ่มก่อน เรานั่งคุยกันต่อไปว่าต้องมีทีมสันติวิธีในการควบคุมแนวข้างหน้า


ส่วนการชุมนุมวันที่ 20 ก.พ. 2564 จะเป็นที่สนามหลวงแห่งเดียวหรือไม่ ปนัสยา กล่าวว่า ถ้าวันนี้เราไม่ได้ออกมา จะปล่อยให้เป็นเรื่องของทีมที่อยู่ต่อจะบอกอีกที


ทั้งนี้บรรยากาศหน้าสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีเพื่อน ๆ และครอบครัวของผู้ถูกกล่าวหา ตลอดจนอาจารย์นักวิชาการจากเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองมาให้กำลังใจและสังเกตการณ์


ด้าน นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือ แอมมี่เดอะบอททอมบลู เดินทางมายังสำนักอัยการสูงสุดด้วยรถผู้เข็นป่วยและปิดตาซ้ายมาเนื่องจากโรคกระจกตาโป่งพอง (Keratoconus) 


หลังจากผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าไปพบอัยการประมาณ 20 นาที ศูนย์ทนายความฯ แจ้งว่าอัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องทั้งคดีการชุมนุม "19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร" ไปเป็นวันที่ 8 มี.ค. 2564 โดยอัยการให้เหตุผลว่าเพิ่งได้รับสำนวนคดีจากตำรวจเมื่อเช้านี้ จึงไม่สามารถพิจารณาได้ทัน


โดยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ที่สำนักงานอัยการรัชดา ผู้ต้องหามาครบทุกคน ยกเว้นนายจตุภัทร์ โดยได้รับการประสานว่าอยู่ระหว่างเดินทาง ซึ่งทางพนักงานอัยการก็นัดฟังคำสั่งอีกวันที่ 8 มี.ค.64


ด้านอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ที่มีรายชื่อรายงานตัวทั้งคดีชุมนุม 19-20 กันยาที่สนามหลวง กับ หน้าสถานทูตเยอรมัน กล่าวว่า การเลื่อนฟังคำสั่งฟ้องครั้งนี้อาจมีนัยสำคัญ เพื่อจะดูทิศทางของมวลชน ผู้มีอำนาจรัฐพยายามที่จะดูกระแส เช็คเรตติ้งของเราเหมือนกันว่าเป็นยังไง นายอรรถพลกล่าว


ขณะที่ในส่วนคดีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน ซึ่งมีผู้ต้องหารวม 13 คน"ครูใหญ่" อรรถพล เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองมีนัดหมายฟังคำสั่งฟ้องที่สำนักงานอัยการสูงสุด กรุงเทพใต้ ด้วย ในคดีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน ซึ่งมีผู้ต้องหารวม 13 คน ทั้งหมดได้ทยอยเดินทางไปพบพนักงานอัยการตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งอัยการจะมีการนัดฟังคำสั่งฟ้องอีกครั้งในวันที่ 25 มี.ค. เวลา 10.00 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ราษฎร #TheRatsadon


ประมวลภาพ