พัฒนาการการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมีความก้าวหน้าหรืออยู่จุดเดิม?
ยูดีดีนิวส์
: 17 ธ.ค. 63 ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถาม
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ กรณีความคิดเห็นต่อพัฒนาการจากการต่อสู้ของ นปช. มาถึง เยาวชนปลดแอก มาสู่ ประชาชนปลดแอก เป็นพัฒนาการของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่มีความก้าวหน้าหรืออยู่จุดเดิม?
อ.ธิดา
กล่าวว่า อาจารย์ว่าก้าวหน้าขึ้นนะ เพราะว่าเราได้แรงของปัญญาชน
คือตอนที่คนเสื้อแดงต่อสู้นั้นมีมวลชนพื้นฐานมาก แต่ปัญญาชนมีบทบาทน้อยมาก
เอ็นจีโอก็ไม่มาร่วม คนเสื้อแดงถูกมองว่าเป็นสมุนบริวารของพรรคการเมืองและระบอบทักษิณ
ฉะนั้นปัญญาชนและเอ็นจีโอส่วนหนึ่งทั้ง ๆ
ที่เขาอยากจะรักประชาธิปไตยแต่ไปแสดงเป็นรังเกียจ
แต่
ณ บัดนี้เมื่อเวลาผ่านไป คนรุ่นเก่ามัวแต่ต้องติดคุกแบบนี้ แล้วรอออกจากเรือนจำ
สู้คดีความซึ่งมีคดีเต็มไปหมด แต่ว่ามีการเติบโตในการนำของคนรุ่นใหม่ขึ้น แล้วที่ดีใจที่สุดก็คือปัญญาชนรุ่นใหม่/คณะอาจารย์/นักวิชาการรุ่นใหม่เข้ามาร่วม
อันนี้เป็นกำลังสำคัญมาก
เพราะว่าขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
“กองหน้า” ควรจะเป็น “ปัญญาชน” นี่ไม่ใช่การปฏิวัติแบบชนชั้นกรรมาชีพ
ตรงนี้เป็นความก้าวหน้าอย่างใหญ่หลวง และมีฐานะได้เปรียบคือมีปัญญาชนมาร่วมมากขึ้น
เอ็นจีโอก็มาร่วมมากขึ้น แล้วเยาวชนเกือบหมดทั้งประเทศมาร่วมมากขึ้น แต่ว่าคนชนพื้นฐานซึ่งนปช.และเสื้อแดงเคยมีอยู่ก็ยังดำรงอยู่
ไม่ได้หายไปไหน
ฉะนั้น
อาจารย์มองว่าขณะนี้ทิศทางก้าวหน้าขึ้น แข็งแกร่งขึ้น เรามีทั้งส่วนของปัญญาชน
เยาวชน ชนชั้นกลาง มาร่วมมากขึ้น ในขณะที่มวลชนพื้นฐานก็ยังดำรงอยู่
และสิ่งที่สำเร็จที่สุดของนปช.ก็คือ การสร้างแกนนำคนเสื้อแดง
การสร้างคนเสื้อแดงที่ไม่ยึดติดกับบุคคล เขามีความคิดของเขาเอง
นปช.จะอยู่หรือไม่อยู่ไม่เป็นไร แต่คนเสื้อแดงและคนรักประชาธิปไตยยังอยู่ครบถ้วนทั้งหมด
อาจารย์มองในแง่ดีนะว่าโดยทฤษฎีแล้ว ถ้าคุณมีปัญญาชน มีนักวิชาการ มีชนชั้นกลางมาร่วมกับมวลชนพื้นฐาน อันนี้ก็คือการขับเคลื่อนที่สามารถนำไปสู่ชัยชนะได้ อ.ธิดากล่าวในที่สุด