ประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย วางหรีด-ยื่นจดหมายเปิดผนึกหน้ากรมศิลป์ หลังแจ้งความ แกนนำฝังหมุดคณะราษฎร 2563 ณ สนามหลวง แต่ไม่ติดตามการหายไปของ หมุดคณะราษฎร 2475 - อนุสาวรีย์ปราบกบฎ
วันนี้ (28 ก.ย. 63) เวลา 10.00 น. ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ถนนหน้าพระลาน เขตพระนคร กรุงเทพฯ กลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย (SCFD) จัดกิจกรรม "ฉันมาทวงของฉันคืน" โดยนัดรวมพลกันที่ ลานอ.ศิลป์ พีระศรี
ทั้งนี้นักศึกษาโบราณคดี 2 ราย ในนามตัวแทนกลุ่ม ประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย (SCFD) ได้เดินทางมาถึงจุดรวมพลพร้อมด้วยหรีดดอกไม้ที่ผูกด้วยโบว์สีขาว เขียนข้อความว่า "กลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย" แต่เนื่องจากมีฝนตกจึงทำให้กิจกรรมต้องหยุดรอเวลา
จนในเวลา 10.20 น. ฝนเริ่มหยุด มีตัวแทนกลุ่มเพิ่มมาอีก 1 ราย ทั้ง 3 รายได้ยืนชี้แจงรายละเอียดกิจกรรมต่อสื่อมวลชน จากนั้นเดินเท้าออกจากลาน อ.ศิลป์ พีระศรี ออกประตูมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ เลี้ยวซ้ายไปหน้ากรมศิลปากร จากนั้นรอเวลาตัวแทนจากกรมศิลปากรออกมารับหนังสือ
กระทั่งเวลา 10.35 นายสถาพร เที่ยงธรรม ผอ.กองโบราณคดี เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือจากกลุ่มกลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย ถึงอธิบดีกรมศิลปากร
จากนั้นตัวแทนกลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตยอ่านจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้กรมศิลปากรตามหาหมุดคณะราษฎร 2475 และอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ (อนุสาวรีย์ปราบกบฏ) ต่อมานายสถาพรรับหนังสือข้อเรียกร้องของกลุ่ม แต่ปฏิเสธที่จะรับพวงหรีด ให้เหตุผลว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางราชการ นักศึกษาตัวแทนกลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย จึงวางหรีดไว้ที่บริเวณบันไดทางขึ้นหน้ากรมศิลปากร
ด้านนายสถาพร เที่ยงธรรม ผอ.กองโบราณคดี กล่าวว่าตนจะนำหนังสือนี้ มอบให้อธิบดีกรมศิลปากรต่อไป และทั้งนี้จะดำเนินการเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทบาทหน้าที่ของกรมศิลปากรเท่านั้น ด้วยว่าหมุดคณะราษฏร 2475 ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากร ส่วนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ กรมศิลปากรได้ทำเรื่องไปยังเขตเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งในการนี้ นักศึกษาตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนมาในนามกลุ่มกลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย (SCFD) มิอาจกล่าวรวมถึงชาวศิลปากรทั้งหมดว่ามีแนวเดียวกันกับพวกตน แต่ในฐานะที่ตนเป็นนักศึกษาโบราณคดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม จึงขอแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้กรมศิลปากรทำงานอย่างมีมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่อย่างหนึ่งทำงานรวดเร็ว อย่างหนึ่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน จึงขอนำพวงหรีดมาแสดงความไว้อาลัย ให้กับการทำงานที่เป็นสองมาตรฐานด้วยว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่เรารู้สึกไม่สบายใจ เพราะในฐานะชาวศิลปากร กรมศิลปากรจึงมีความสำคัญ เราจึงขอแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในฐานะนักศึกษาที่มองเห็นความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
และกล่าวต่อไปว่า ขอให้หนังสือนี้ถึงอธิบดีกรมศิลปากร ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้ติดตามสมบัติที่เป็นสาธารณะประโยชน์ที่สำคัญของชาติกลับมาสู่สังคม วันนี้แม้ไม่รับพวงหรีดไม่เป็นไร ก็จะวางไว้ตรงนี้เพื่อแสดงความไว้อาลัยให้กับระบบการทำงานของกรมศิลปากร และภายใน 14 วัน หากยังไม่ได้รับความคืบหน้าในกรณีการสูญหายดังกล่าว ทางกลุ่มจะยื่นเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรให้ดำเนินการต่อไป
#UDDnews #ร่วมกันชำระความจริง
#ฉันมาทวงของฉันคืน #ประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย
ประมวลภาพ