คนรุ่นใหม่ใช้เนื้อหาในการนำไม่ยึดติดตัวบุคคล!
การไม่มีแกนนำชัดเจนมันมีข้อดี
ดูจะไม่มีใครควบคุม แต่เท่าที่ดูแล้ว เขาใช้เนื้อหาในการนำ ก็คือ 3 ข้อเรียกร้อง
เรื่องยุบสภา เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องหยุดคุกคามประชาชน คำถามว่า 3
ข้อนี้เราจะมองยังไง? แล้วจะตอบสนองเขายังไง? กับ 2 เงื่อนไข และ 1 ความฝัน
1
ความฝันที่ต้องการปฏิรูปโครงสร้างสถาบันอะไรต่าง ๆ เหล่านี้
อาจารย์ดูว่ามันเป็นเป้าหมายระยะยาว เขาใช้คำว่า 1 ความฝัน มันน่ารัก
ก็คือไม่ได้เรียกร้องตอนนี้ แต่บอกให้รู้ว่าเราฝันเห็นอะไรอย่างนั้น สามอย่างนี้มันเป็นเอกภาพทั้งหมด
ตามความเข้าใจของอาจารย์นะว่าเมื่อมันเป็นเอกภาพทั่วประเทศ
หมายความว่าไม่ว่าคุณจะจับแกนนำ หรือคุณจะทำอย่างไร คนอื่น ๆ
ก็นำด้วยเนื้อหาอันนี้เหมือนกัน ก็เรียกว่า “เป็นการนำด้วยเนื้อหา”
ทีนี้ถ้าเป็นประสบการณ์แบบเก่าก็บอกว่ามันต้องมีแกนนำ
แกนนำจะเป็นคนสั่งการได้ อาจารย์เข้าใจว่าพัฒนาการของเขาตอนนี้เขาสื่อสารได้เร็ว
การใช้ทวิตเตอร์ การติดต่อกันเร็วมาก ไม่จำเป็นต้องไปชุมนุมรวมกันแล้วก็มีแกนนำลุกขึ้นประกาศว่าให้ทำ
1-2-3-4-5 เขาสามารถติดต่อกันสื่อสารกันได้ด้วยการสื่อสารสมัยใหม่
ปัญหาแกนนำในการสั่งการเมื่อเวลามีความวุ่นวายมันก็จะลดลง
เพราะว่าโดยการสื่อสารเช่นนี้จะทำให้เอกภาพด้วย ไม่ใช่แกนนำคนหนึ่งพูดอย่าง
อีกคนหนึ่งพูดอย่าง หรือมีการทะเลาะกันระหว่างแกนนำ
อาจารย์มองว่าเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย
คือไม่ยึดติดกับบุคคลด้วย เพราะบุคคลมันไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นหรอก
ก็ต้องมีดีและมีจุดอ่อน
และถ้าแกนนำมีจุดอ่อนแล้วทำให้ขบวนพังมันไม่แฟร์กับคนที่ออกมา (ในทัศนะอาจารย์นะ)
การไม่มีแกนนำที่แน่นอน
อาจารย์มองว่าเป็นเรื่องที่ดี โดยหลักการก็ไม่ได้ยึดติด
ไม่ได้มีปัญหากับความไม่เป็นเอกภาพเพราะการสื่อสารสมัยใหม่ ดูแล้วเป็นคุณมากกว่า
แล้วก็ไม่ต้องมาเชิดชูว่าใครเป็นแกนนำ แล้วก็มาโจมตีด่าทอกัน
เราพูดหลักการว่าข้อเสนอ
ดี/ไม่ดี ไม่ต้องไปพูดว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้น แอบไปรับเงินที่ไหนหรืออะไรอย่างนี้
จะได้เลิกพูดเรื่องบุคคล เอาเนื้อหาเลย เนื้อหาที่เรียกร้องและกระบวนการทำ
อาจารย์คิดว่าเด็ก
ๆ เขาก็คงยอมรับให้วิจารณ์ได้ถ้าเรามีความเป็นห่วง
และนี่เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการต่อสู้ซึ่งเด็ก/เยาวชนออกมาในการต่อสู้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่การจะใช้อำนาจรัฐกับเยาวชน
ซึ่งเขาไม่ได้มีผลประโยชน์ชัดเจนเลย เขาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไหน หลายคนอาจจะนินทาว่าพรรคนี้หรือเปล่า
มันไม่มีหลักฐานชัดเจน และบอกตรง ๆ ว่าเด็กพวกนี้เขาก็เปลี่ยนได้ ไม่จำเป็น
เขาไม่ยึดใครเป็นสรณะหรอกถ้าหากทำไม่ดี
อาจารย์ดูว่าเขาอ่านหนังสือ
แล้วพยายามไปแกะเวลาเขาพูด เขาพูดโอเคนะ เด็กมัธยมก็พูดโอเค
อาจจะพูดตะกุกตะกักแต่ก็มีโพย แปลว่ามีการเตรียมการในการพูด
สำหรับประเทศเรา
มองภาพรวมมันน่ายินดีที่ว่าเยาวชนมีความเป็นตัวของตัวเอง แล้วเขาจะได้เรียนรู้
เขาจะต้องอยู่กับประเทศนี้ไปอีกหลายสิบปี เพราะฉะนั้นเขามีสิทธิ์ที่เขาจะมีส่วนสำคัญ
เมื่อเขามองว่าคนรุ่นก่อนทำไม่ได้ แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะมาถึงตอนนี้การศึกษาของประเทศของเรามันแย่ที่สุด
คุณจะวัดโดยแบบไหน แม้กระทั่งในระบบทุนนิยมโลก เขาก็มองประเทศไทยนี่การศึกษาแย่มาก
ดังนั้นเขาทำนายไว้เลยว่าในอนาคตประเทศไทยไม่รุ่งหรอกทางเศรษฐกิจ
เหตุผลที่สำคัญเด่นที่สุดคือการศึกษาของเราแย่!
เพราะฉะนั้นมันคุ้มและสมควรที่เขาจะออกมา
เพราะว่าในขณะที่กระทรวงศึกษาฯ หรือหลักสูตร หรือครูยังเป็นจารีต
ยังไม่ปรับตัวให้ทันโลก ลูกศิษย์ก็จะเป็นแบบนี้ได้
อย่างอาจารย์มาจากโรงเรียนพวกโรงเรียนสาธิตมันจะเป็นแนวเสรีนิยมมากกว่าเพราะฉะนั้นก็จะเข้าใจว่าถ้าเป็นนักเรียนที่มาจากโรงเรียนที่เป็นเสรีนิยม
ครูไม่มากดนักเรียนมาก นักเรียนจะมีความสุข ไม่เครียด และกล้า อาจารย์ก็คิดว่ามันควรจะเหมือนกันทั้งประเทศ
แล้วเราก็จะได้พลเมืองอนาคตที่มีคุณภาพ
เพราะฉะนั้นอาจารย์ก็ดีใจและอยากให้ผู้ใหญ่
ไม่ว่าคุณจะเชื่อแบบไหน คุณลองฟังที่เขาพูด แล้วอะไรที่ไม่ชอบก็วิจารณ์เขาได้
อาจารย์เชื่อว่าเขาฟังนะ แม้ว่าจะมีความคิดแตกต่างกันก็ตาม
เพราะถ้าเขาไม่ฟังเหตุผล มันก็จะพิสูจน์ว่าเขายังไม่พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า