สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเยาวชน
นิสิต นักศึกษา
เป็นสถานการณ์ที่ก้าวหน้าของการต่อสู้ของประชาชนเพื่อระบอบประชาธิปไตย ถ้าอำนาจรัฐจัดการปัญหาข้อเสนอของเยาวชนไม่ถูก
ภาวะ “ไม่ทนอีกต่อไป” นี้ จะลุกลามขยายตัวแน่นอน!
จากการติดตามปรากฏการณ์การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่พัฒนารูปแบบ
เนื้อหา ข้อเรียกร้องของเยาวชนกลุ่มต่าง ๆ
และการที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกได้ออกแถลงการณ์ล่าสุด ยืนยันข้อเรียกร้อง 3
ข้อต่อรัฐบาลและรัฐสภา คือ
1.
หยุดคุกคามประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพตามหลักการระบอบประชาธิปไตย
2.
ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
3.
ยุบสภา
โดยมี
2 จุดยืนหลักคือ ต้องไม่มีการทำรัฐประหารและไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
ที่เพิ่มเติมคือ
1 ความฝัน คือการมีระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ที่ผ่านมาข้อเรียกร้อง
3 ข้อ เป็นเอกภาพในการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาทุกกลุ่ม ส่วน 2 จุดยืนและ
1 ความฝัน เพิ่งจะเติมเข้ามา
เป็นการนำเสนอเพิ่มข้อเรียกร้องที่ต้องใช้วิธีการที่ถูกต้องในการแก้ปัญหา
รวมถึงเป้าหมายระยะยาว เป็น 1 ความฝัน
ข้อเสนอเหล่านี้
ดิฉันคิดว่าจะมีความเป็นเอกภาพเกิดขึ้นในกลุ่มต่าง ๆ ของเยาวชนดังที่ได้เกิดขึ้นกับ
3 ข้อเสนอหลักที่ผ่านมา
ทั้งหมดนี้เป็นข้อเรียกร้องเพื่อระบอบประชาธิปไตยโดยแท้
ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ฝ่าฝืนกฎหมายและรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
เพราะเป็นข้อเสนอที่จริงใจ สุจริต และปรารถนาดีต่อประเทศชาติ
เพื่ออนาคตร่วมกันของประชาชนไทยทั้งมวล รวมทั้งของพวกเขาเอง
ส่วนประเด็นที่มีข้อเสนอ
10 ข้อ ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ฉบับที่ 1 ซึ่งมีผู้ห่วงใย
กระทั่งต่อต้านการแสดงออกที่มีข้อเสนอ 10 ข้อ ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์นั้น
ล้วนเป็นข้อเสนอที่ยังอยู่ในบริบทของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ
อาจมองได้ว่าเป็นข้อเสนอสุดโต่ง น่ากังวล
หรือมองว่าเป็นข้อเสนอที่พยายามทำให้การอภิวัตน์ประชาธิปไตย (ปฏิวัติประชาธิปไตย)
2475 ได้บรรลุเป้าหมายจริง
แต่ข้อสรุปในแถลงการณ์ล่าสุดของกลุ่มเยาวชนปลดแอกซึ่งเปิดตัวนำร่องตั้งแต่ต้นว่า
นี่เป็นความฝันที่อยากให้เป็นจริง
ก็เป็นคำกล่าวที่น่าประทับใจและทำให้มองเห็นความก้าวหน้า ทั้งรูปแบบ เนื้อหา
ทั้งนำเสนอต่อสาธารณชนอย่างกล้าหาญ ซื่อ ๆ ตรง ๆ คนในสังคมอาจเห็นด้วยหรือไม่ก็ได้
แต่นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งหลายได้รับรู้เข้าใจเยาวชนว่าเขาก้าวข้ามความขัดแย้งระหว่างบุคคล
ระหว่างพรรคการเมือง ไปสู่ความขัดแย้งระหว่างระบอบการเมืองการปกครอง
โดยที่ถือว่าปัจจุบันไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยแท้จริง
ข้อเสนอของเขามุ่งนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตย
(ในฝัน) ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนไทยแท้จริง ไม่ใช่ระบอบที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
ซึ่งอาจถือะเป็นระบอบเผด็จการหรืออัตตาธิปไตย (Autocracy)
หรืออภิชนาธิปไตย (Aristocracy) ในเสื้อคลุมประชาธิปไตย
ความห่วงใยความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นแบบ
6 ตุลา 19
ควรพุ่งเป้าไปยังฝ่ายผู้กุมอำนาจรัฐที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนและเยาวชนภายในมหาวิทยาลัย
ซึ่งเป็นผู้ใช้ความรุนแรงกระทำต่อประชาชนและเยาวชนมาตลอด
ด้วยความกลัวว่าอำนาจจะหลุดจากมือชนชั้นนำจารีตนิยมไปสู่ประชาชน
การที่เยาวชนและประชาชนแสดงความคิดเห็นโดยเปิดเผย
แต่ถ้ายังอยู่ในหลักการ เหตุผล บนกรอบของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
นอกจากไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎบัตรกติการะหว่างประเทศของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิทางการเมืองแล้ว
ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องนำเสนอที่ก้าวหน้า เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองให้ดีขึ้น
และเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
อย่าไปจับผิด
ข่มขู่ คุกคาม จับกุม คุมขัง หรือลอบทำร้าย อุ้มไป
ควรใช้การนำเสนอความคิดเห็นที่ต่างกันอย่างมีหลักการ เหตุผล
และได้ประโยชน์แก่ประเทศชาติประชาชน
เพราะการปราบปรามด้วยอาวุธและกฎหมายไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการหมักหมม
ทำให้ความเน่าเสียขยายตัวลุกลามไปทั่ว การระเบิดออกมาของเยาวชนไทยคราวนี้
สะท้อนถึงปัญหาที่ถูกกดทับไว้ด้วยการใช้อำนาจรัฐและอาวุธ
ซึ่งจะกดได้ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าอำนาจรัฐจัดการปัญหาข้อเสนอของเยาวชนไม่ถูก
ดิฉันเชื่อว่า
ภาวะ “ไม่ทนอีกต่อไป” นี้ จะลุกลามขยายตัวแน่นอน!
ธิดา
ถาวรเศรษฐ
13 ส.ค. 63