วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

อ.ธิดา ชี้ ชะตากรรมแกนนำนปช.มีแต่ ติดคุก – ขึ้นศาลทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เหล่า"แฮมทาโร่" วิ่งรอบ "อนุสาวรีย์พระเจ้าตาก" พร้อมทั้งทำพิธีฌาปนกิจเผด็จการ


เหล่า"แฮมทาโร่" วิ่งรอบ "อนุสาวรีย์พระเจ้าตาก" พร้อมทั้งทำพิธีฌาปนกิจเผด็จการ

UDD news : 30 ก.ค.63 (17.00 น.) เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการนัดหมายทำกิจกรรม #ฝั่งธนแต่เราไม่ทน หลังจากมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมไป เจ้าหน้าที่เขตได้แจ้งว่าจะมีการตรวจกระแสไฟ บริเวณวงเวียนใหญ่วันที่  28-31 ก.ค. นี้ ทางผู้จัดกิจกรรมจึงนัดไปรวมกันที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ต่อมา ทางทีมงานกลุ่มมัธยมได้มีการยืนยันว่าจะจัดในจุดนัดหมายเดิมตามความตั้งใจแรกเพราะฝั่งธนคือบ้านเรา  แต่เปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็น #มาวิ่งตรวจไฟกันนะแฮมทาโร่ วิ่งเพื่อตรวจกระแสไฟที่เจ้าหน้าที่เขตธนบุรี แจ้งว่าจะตรวจวัดกระแสไฟที่วงเวียนใหญ่จึงต้องปิดสถานที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากชั่วคราว

17.10 กลุ่มผู้จัดงานได้ทำการปราศรัยบริเวณรั้วด้านนอกอนุสาวรีย์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งนี้ผู้จัดกิจกรรมได้เตรียมแผ่นกระดาษมาปิด ชื่อ-สกุล และอักษรย่อโรงเรียนที่เสื้อผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่แต่งชุดนักเรียนมาเพื่อความปลอดภัยจากการถูกคุกคาม

โดยผู้ปราศรัยบางท่านที่เป็นนักเรียนมัธยม เผยความในใจที่ครอบครัวเป็นสลิ่มแต่ตอนนี้กลับใจแล้ว และขอพูดแทนเพื่อน ๆ ในโรงเรียนว่า รัฐบาลชุดนี้คือความอัปยศ

ผู้ปราศรัยที่เป็นชายวัยทำงาน ยกมือขอขึ้นพูดในฐานะที่เป็นเด็กจบใหม่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นคนฝั่งธนบุรี เลิกจากงานแล้วคิดว่าไม่ไหวแล้วจึงมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อจากเสื้อองค์กรที่ทำงานเป็นเสื้อกีฬามาร่วมกิจกรรมเพราะเดี๋ยวโดนกดหัวจากองค์กร ดีใจที่เราร่วมตื่นไปด้วยทั้งประเทศ

โดยข้อเรียกร้อง และเนื้อหาในการปราศรัย อาทิเช่น - หยุดคุกคามประชาชน -แก้รัฐธรรมนูญ ไม่เอาส.ว.ลากตั้ง 250 คน -ยุบสภา เพราะรัฐบาลไม่มีความสามารถบริหารประเทศและแก้ปัญหาต่าง ๆ ไปจนถึงเรื่อง CPTPP ที่ขณะนี้กระแสหายจึงต้องการให้มีการคัดค้านเพราะส่งผลเสียต่อเกษตรกรและประชาชนอย่างมาก

จากนั้น 17.40 น.ได้มีกิจกรรม "ฌาปนกิจเผด็จการ" ทั้งนี้ผู้จัดงานได้ทำพิธีฉีกกงเต๊กเนื่องจากไม่สามารถทำการเผาได้ อาทิเช่น บ้านพักตุลาการ , เงินสด , แหวนแม่นาฬิกาเพื่อน เป็นต้น ประชาชนผู้ร่วมกิจกรรมต่างช่วยดันฉีกแล้วทิ้งถุงขยะป้องกันการทำความสกปรกในพื้นที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดประตูให้ ผู้จัดกิจกรรมจึงนำทุกคนเข้าไปในบริเวณด้านใน

ต่อมา 18.00 ตั้งแถวเคารพธงชาติ โดยชู 3 นิ้ว ด้วยกัน หลังจากนั้นซักซ้อมเพลง "แฮมทาโร่" แล้ววิ่งรอบอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช 3 รอบ จากนั้นตะโกนพร้อมกัน "ตรวจไฟฟรีจากภาษีประชาชน" 3 ครั้ง ก่อนแยกย้ายด้วยความเรียบร้อยในเวลา 18.30 น.

#ฝั่งธนแต่เราจะไม่ทน #ให้มันจบที่รุ่นเรา

ชมประมวลภาพ











"3 พระจอม" ประสานอาชีวะโค่นเผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง #เยาวชนปลดแอก


"3 พระจอม" ประสานอาชีวะโค่นเผด็จการ ส่งไม้เวียนจัดแฟลชม็อบ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง #เยาวชนปลดแอก / รอบหน้า พระจอมเกล้าลาดกระบังเป็นเจ้าภาพ

30 ก.ค. 63 เวลา 17.00 น. เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยพระจอมเกล้า 3 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ร่วมกับ กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน และกลุ่มอาชีวะโค่นเผด็จการ ที่ชูคำขวัญ "สืบสานเจตนารมณ์วีรชน 14 ตุลา" จัดกิจกรรมแฟลชม็อบออนทัวร์ ภายใต้คำขวัญ "สามพระจอมจะยอมได้ไง" ที่ลานเฉลิมพระเกียรติ มจพ. เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์และข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มเยาวชนปลดแอก สอดรับการเคลื่อนไหวของขบวนการเยาวชน  รวมถึงเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนด้วย


เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ระมัดระวังในการใช้ถ้อยคำที่อาจหมิ่นเหม่หรือไม่เหมาะสม และขอให้มีมาตรการป้องกัน Covid -19 ด้วย ซึ่งผู้จัดงานได้เตรียมหน้ากากผ้า และเจลแอลกอฮอล์ ไว้ให้ผู้ร่วมกิจกรรมและสื่อมวลชนรวมถึงขอความร่วมมือให้เว้นระยะห่างด้วย


สำหรับกิจกรรมมีการนำป้ายผ้าให้ผู้ร่วมกิจกรรมเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นต่อรัฐบาลและผู้นำรัฐบาล รวมถึงข้อความที่สะท้อนความยุติธรรม กรณีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ไม่ถูกดำเนินคดีหลังขับรถชนตำรวจตาย อย่างข้อความที่ว่า "อยู่ที่ไหนก็ไม่ดีเท่าอยู่วิทยา"  


ส่วนการปราศรัยโดยแกนนำ 3 วิทยาเขตได้เน้นใน 3 เรื่องหลัก คือ ภาพรวมการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว, ระบบ  Sotus ในโรงเรียนในสถาบันการศึกษา รวมถึงกฎระเบียบที่ละเมิดสิทธิ์นักเรียน และสิทธิเสรีภาพในการเเสดงความคิดเห็นของประชาชน


นอกจากนี้ นายภานุพงศ์ จาดนอก จากกลุ่มเยาวชนปลดแอก กล่าวปราศรัยเป็นคนสุดท้าย ย้ำถึง 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มคือ ยุบสภา, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และหยุดคุกคามประชาชน และระบุถึงการพยายามตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญ รับฟังความเห็นเยาวชนนักศึกษา ซึ่งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ผู้มีอำนาจต้องการยื้อเวลาการครองอำนาจออกไปให้ยาวนานที่สุด หรือต้องการแก้ปัญหาจริง ๆ ซึ่งทางกลุ่มได้ปฏิเสธการเข้าร่วมไปแล้ว 



กิจกรรมในช่วงท้ายกลุ่มแนวร่วมนวชีวิน ได้จัดกิจกรรม “Hamtaro Oak Oak Run” ในบริเวณเดียวกัน เพื่อประณามการที่ตำรวจและครูในจังหวัดนนทบุรี คุกคามนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม "เด็กนนท์พร้อมชนเผด็จการ" เมื่อวานนี้ (29 ก.ค. 63) และเป็นกิจกรรมปิดท้าย Flash Mob ของ " 3 พระจอม" ด้วยการถือตุ๊กตาไก่ วิ่งล้อ
มวงไปพร้อมกับการร้องเพลงแฮมทาโร่เวอร์ชั่นยุบสภาและใช้รหัสเปล่งเสียงสอดรับกันว่า "อะหรืออะหรือว่าเป็นเผด็จการ" 


โดยแฟลชม็อบ "3 พระจอม" ครั้งต่อไป จะจัดที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยให้ผู้รักประชาธิปไตยและผู้สนใจเข้าร่วมหรือติดตามการทำกิจกรรม ติดตามวันเวลาและสถานที่จากเพจของ กลุ่มนักศึกษาลาดกระบัง






ธิดา ถาวรเศรษฐ : เล่าข่าวหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 29 ก.ค. 63

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

กิจกรรมวิ่งร้องเพลงแฮมทาโร่ของ #เด็กนนท์พร้อมชนเผด็จการ


"เด็กนนท์" ฝ่าสายฝนชนเผด็จการ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเยาวชน พร้อมห้ามชูป้ายหมิ่นเหม่สถาบัน กันมือที่สามสร้างสถานการณ์ / จวก! โรงเรียนบางแห่งกีดกันนักเรียนไม่ให้ร่วมชุมนุม 

29 ก.ค. 63 เวลา 18.30 น. เครือข่ายเยาวชนและนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี นำโดยนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง จากเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนท์ ร่วมกับ กลุ่มเด็กนนท์ จัดกิจกรรม #เด็กนนท์พร้อมชนเผด็จการ บริเวณลานกิจกรรมท่าน้ำนนท์ เพื่อยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องในการเคลื่อนไหวคือ 
1. ยุบสภา ภายในเดือนสิงหาคม 
2. ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 
3. ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพราะห็นว่า เป็นกฎหมายที่ใช้ละเมิดสิทธิ์และคุกคามประชาชน



โดยมีมาตรการป้องกัน Covid-19 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองนนทบุรี มาอำนวยความสะดวกตั้งจุดคัดกรอง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความสงบเรียบร้อยกว่า 20 นาย และมีหน่วย EOD ตรวจหาวัตถุระเบิดภายในพื้นที่ด้วย

ขณะที่แกนนำเยาวชน ประกาศห้ามไม่ให้นำป้ายข้อความที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูงเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์จากมือที่สาม หรือทำให้การชุมนุมของเยาวชนไม่ชอบธรรม หากพบมีการแฝงตัวมาขอให้ตำรวจควบคุมตัวทันที  พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดสัมภาษณ์เยาวชน เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้เห็นต่างและอื่นๆ โดยให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมต้นที่เข้าร่วมกิจกรรมใช้เทปกาวสีขุ่น ปิดบัง ชื่อ-สกุล บริเวณอกเสื้อไว้ด้วย เพื่อสะท้อนนัยยะว่า ยังมีความวาดกลัว หรือยังไม่มีเสรีภาพเต็มที่ในการใช้สิทธิชุมนุมทางการเมือง

นายชินวัตร กล่าวด้วยว่า มีบางโรงเรียนในจังหวัดนนทบุรี ส่งสารวัตรนักเรียน คอยดักสอบถามนักเรียนหน้าประตูโรงเรียน กีดกันและสกัดกั้นไม่ให้มาร่วมกิจกรรม รวมถึงรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มาในพื้นที่ชุมนุมพร้อมสารวัตรนักเรียน คอยห้ามปรามไม่ให้นักเรียนในโรงเรียนร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นความไม่สบายใจของผู้จัดการชุมนุมและนักเรียนที่ร่วมกิจกรรม ทั้งเป็นการทำให้เห็นถึงความจำเป็นว่า คนรุ่นใหม่จะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย



สำหรับกิจกรรมมีการสลับกันปราศรัยและวิ่งล้อมวงร้องเพลงแฮมทาโร่เวอร์ชั่นยุบสภา   และแม้จะมีสายฝน โปรยปรายลงมาเป็นระยะแต่ก็จัดกิจกรรมจนเสร็จสิ้นรวมเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที



อย่างไรก็ตามทาง เทศบาลนครนนทบุรีเจ้าของพื้นที่ไม่ยอมเปิดไฟบริเวณลานกิจกรรมให้ในตอนแรก ก่อนที่ทางกลุ่มเยาวชนจะเรียกร้องให้เปิดไฟเพื่อความปลอดภัย ซึ่งกิจกรรมดำเนินมาใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ทางจังหวัดนนทบุรี จึงยอมเปิดไฟฟ้าให้แสงสว่าง

ช่วงการปราศรัย มีตัวแทนนักเรียนหญิง กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง สนับสนุนการเคลื่อนไหวของ "กลุ่มนักเรียนเลว" ที่เคลื่อนไหวให้ยกเลิกการบังคับแต่งกายและทรงผมนักเรียน และเรียกร้องให้นักเรียน LGBT ทุกคนสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้

มีผู้ปราศรัยให้กำลังใจและสนับสนุนข้อเรียกร้องว่าด้วย การเยียวยา covid -​19 และรัฐสวัสดิการ ของแนวร่วมนวชีวิน ที่อดข้าวประท้วงรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ด้วย





วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

แนวร่วมนวชีวินจัดกิจกรรม วิ่งและร้องเพลงแฮมทาโร่ ดังกระหึ่ม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย


แนวร่วมนวชีวินจัดกิจกรรม วิ่งและร้องเพลงแฮมทาโร่ ดังกระหึ่ม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ยูดีดีนิวส์ : 26 ก.ค. 63 เมื่อเวลา 16.30 น. บริเวณด้านหน้าแมคโดนัล ราชดำเนิน New live Network - แนวร่วมนวชีวิน ได้ตั้งขบวนแฮมทาโร่ที่มาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก (เกินความคาดหมาย) ซึ่งตามกำหนดการจะวิ่งวนขวาบนทางเท้ารอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หัวขบวนเริ่มต้นที่หัวมุมถนนฝั่งรร.สตรีวิทยา ข้ามถนนวนไป แต่เนื่องจากขบวนยาวมาก ทีมงานจึงวิ่งไปวกกลับตรงสี่แยกคอกวัวจนกลับมาที่เดิม

โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะร้องเพลงแฮมทาโร่เวอร์ชั่นยุบสภา พร้อมทั้งวิ่งสลับกับเดินไปด้วยความคึกคักอย่างยิ่ง นับเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ท่ามกลางการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจ จำนวนมากเช่นกัน

เมื่อท้ายขบวนกลับมาถึงจุดเริ่มต้นแล้ว ทุกคนร่วมร้องเพลงชาติพร้อมกัน จากนั้น #แนวร่วมนวชีวิน ได้มีกิจกรรม #ผ้าเบรคครมสัญจร คือเป็นการนั่งสนทนาแสดงความคิดเห็นต่อการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งหลังการทำรัฐประหารเมื่อปี 2557 บัดนี้ก็ยังไม่เปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกเลย นับเป็นการบริหารงานของรัฐบาลที่กลุ่มผู้ทำกิจกรรมวันนี้ไม่เห็นด้วย

กิจกรรมได้เสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 18.30 น. ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุรุนแรงใด ๆ






บก.ลายจุด จัดกิจกรรมกินแมค ภายใต้คำขวัญ #กรูหิวกรูไม่ทน

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

“มอกะเสด” จัดชุมนุมต้านรัฐบาลที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ประมวลภาพ)

“มอกะเสด” จัดชุมนุมต้านรัฐบาล พร้อมเรียกร้องหยุดคุกคามคนเห็นต่าง ยุบสภา แก้รัฐธรรมนูญ จบเรื่องเลวร้ายนี้ให้ได้ในยุคสมัยของเรา
UDD news : 16.30 น. (24 ก.ค.63)มอกะเสดและเครือข่าย ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ถึงอำนาจประชาชน เพื่อประกาศว่า “ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” และจบเรื่องเลวร้ายนี้ให้ได้ในยุคสมัยของเรา
โดยบรรยากาศขณะการพูดจาปราศรัยมีฝนโปรยปรายตลอดเวลาแต่นักเรียนนิสิตนักศึกษาพี่น้องประชาชนต่างทยอยเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยต้องผ่านจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิ พร้อมเจลล้างมือก่อนเข้าบริเวณงาน มีจุดพยาบาล น้ำดื่มไว้บริการ ขณะที่ผู้จัดกิจกรรมประกาศขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบอย่าละเมิดสิทธิ์ประชาชนด้วยการถ่ายรูป หรือขอถ่ายบัตรประชาชน
จากนั้น 17.20 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน พร้อมลำโพงเปิดเสียง แจ้งข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกทั้งกล่าวเตือนผู้จัดงานให้ระวังการแพร่ระบาด Covid-19
ทั้งนี้ นิสิตนักศึกษา และนักเรียนมัธยม ต่างชูป้ายข้อความ อาทิ "อนาคตหนูพังเพราะรัฐบาลเห็นแก่ตัว" "มาทวงอนาคต" "ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน"