ยูดีดีนิวส์ : 21 พ.ค. 63 ในการกล่าวรำลึกเหตุการณ์ 10 ปี เมษา - พฤาภา 2553 ที่ห้องประชุมยูดีดีนิวส์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา นพ.เหวง โตจิราการ ได้เล่าเหตุการณ์บางช่วงบางตอนที่อยู่ในเหตุการณ์และถือเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองของประเทศที่สำคัญหน้าหนึ่งที่คนรุ่นหลังควรรับรู้ ความว่า :-
กราบเรียนพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งประเทศที่กำลังรับชมถ่ายทอดสดจาก
ยูดีดีนิวส์ อยู่และพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในห้องนี้
ผมจะขออนุญาตที่จะใช้เวลาสั้น ๆ ให้เป็นประโยชน์ที่สุด ผมจะกราบเรียนท่านใน 4
ประเด็นครับ
ประเด็นที่
1 ก็คือว่า ผมขออนุญาตที่จะแสดงความรำลึก คารวะ เชิดชู
ชื่นชมในวีรกรรมของวีรชนตั้งแต่เมษา – พฤษภา และยืนยันว่าสิ่งที่ท่านทำนั้นถูกต้อง
เนื้อหาแรกผมจะทบทวนประวัติศาสตร์สั้น ๆ ผมมีความรู้สึกว่าช่วง 10
ปีที่ผ่านมาประวัติศาสตร์ที่สำคัญมันถูกบิดเบือน ถูกทำให้จางหายไป และถูกทำให้กลับตาลปัตร
นี่คืออันที่ 1 นะครับ ก็คือประวัติศาสตร์สั้น
อันที่
2 ผมยืนยันนะครับว่า “ชายชุดดำ” ไม่มีครับ ผมยืนยันแน่นอนครับ
ไม่ว่าใครก็ตามที่จะมาพูดบอกว่ามี “ชายชุดดำ” ผมจะโต้จนถึงที่สุดเลย และข้อต่อมาผมยืนยันว่าไม่มีการเผาบ้านเผาเมือง
พี่น้องครับ
ผมถือสองประเด็นนี้เป็นหัวใจสำคัญของเดือนเมษา พฤษภา
เพราะว่าทุกครั้งที่มีคนพูดว่าคนเสื้อแดงมีชายชุดดำ มีกองกำลังติดอาวุธ ทุกครั้งที่การพูดว่าคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง
มันเท่ากับเหยียบย่ำวีรชนทุกคนเลยครับ ผมรับไม่ได้ครับ เพราะมันไม่มีจริง
และนี่คือหัวข้อที่ 2 ที่ผมจะกราบเรียน
หัวข้อที่
3 ที่ผมจะกราบเรียนก็คือว่าเราต้องแบกรับเจตนารมณ์ของวีรชนเดินต่อไปข้างหน้า
อย่าปล่อยให้ภารกิจของวีรชนหายไปนะครับ
และข้อที่
4 คือผมไม่ต้องการให้สังคมไทยมีการฆ่าคนกลางถนนอีกต่อไปแล้ว ใช่ไหมครับ
ถ้าหากไม่หยุดการฆ่าคนกลางถนนโดยทหารหรือกองทัพอีกต่อไป
เมืองไทยก็จะมีการฆ่าซ้ำฆ่าซากอีก ผมไม่ทราบว่าจะอีกกี่ครั้งนะ
ในชีวิตผมอาจจะได้เห็นอีก 2-3 ครั้งหรือเปล่า ผมไม่ต้องการเห็นครับ ที่ผ่านมานี่
7-8 ครั้งแล้วนะ เพราะฉะนั้นผมจะพูดใน 4 หัวข้อ (สั้น ๆ ครับ)
ข้อแรกผมจำกัดวงพูดเฉพาะกรณีปี
53 นะครับ ท่านผู้ชมครับ พี่น้องประชาชนครับ คือมีคนที่พยายามจะจำกัดวงพูดเฉพาะเมษา
พฤษภา ขอความกรุณาหน่อยเถอะครับ ขยายวงไปตั้งแต่มีนาครับ (13 มีนาเป็นต้นมา)
ถ้าหากว่าท่านขยายวงไปนี่ท่านจะเห็นสิ่งหนึ่งนะครับ
ก็คือเราจัดเวทีที่สะพานผ่านฟ้า แล้วเราชุมนุมด้วยความสงบมาโดยตลอด
และเรามีความรู้สึกว่าพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ อาจจะไม่เข้าใจเรา เราก็เลยจัดขบวนรถยนต์
รถมอเตอร์ไซด์ ตระเวนทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อไปอธิบายให้คนกรุงเทพมหานครและคนทั้งประเทศเข้าใจว่าเรามาเพียง
“ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน” เท่านั้น
ผมยังจำได้เลยนะครับว่าขบวนของเราได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
จากชาวกรุงเทพมหานครแทบจะทุกคนหรือแทบจะทุกสายถนนเลย จำได้ไหมครับ
ทุกถนนที่เราไปมีแต่คนออกมา ตึกชั้น 2 ยกกล้วยหอม แอ๊ปเปิ้ล ดอกไม้ องุ่น
มาให้เราหมดแล้วก็เอาผ้าชุบน้ำมาเต็มไปหมดเลยครับ เพราะฉะนั้นเราเรียกร้อง “ยุบสภา
คืนอำนาจ” แล้วเราได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอุ่นหนาฝาคั่งที่สุดเลย
เพราะเรากังวลว่าคนในกรุงเทพมหานครจะไม่เข้าใจเราและจะหาว่าเรามาสร้างความเดือดร้อน
แต่ตรงข้ามเลยครับ คนกรุงเทพมหานครรับรองเราอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
แต่ตรงข้ามครับ
รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้อนรับเรายังไงพี่น้องจำได้หรือเปล่าครับ
ผมเชื่อว่าพี่น้องบางคนจำได้ แต่พี่น้องบางคนจำไม่ได้
ผมจึงจำเป็นต้องมาทบทวนประวัติศาสตร์ครั้งนี้
รัฐบาลอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ ขนทหารเป็นร้อย ๆ คน หรืออาจจะเป็นกองพัน พร้อมอาวุธครบมือ
รถลำเลียงพานสายหุ้มเกราะเข้าไปในวัดรายรอบเลยครับ ผมจำไม่ได้ครบทุกวัด
แต่ผมจำได้หลายวัด วัดมกุฏกษัตริยาราม วัดโสมนัสวิหาร วัดแคนางเลิ้ง วัดตรีทศเทพ
นะครับ แล้ววัดชนะสงครามหรือเปล่าไม่รู้
ผมจำไม่ได้แล้วถ้าใครรู้ช่วยกรุณายืนยันทีหลังก็ได้นะครับ วัดสระเกศ วัดบวรฯ
แต่เขารุมล้อมเราทั้งหมดโดยใช้ทหารติดอาวุธสงครามครับ
วัดนะครับ
ในดินแดนพุทธศาสนานะครับ ศีลข้อแรก ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ
ก็คือห้ามทำร้ายชีวิต ในคติของศาสนาพุทธห้ามทำร้ายแม้แต่แบคทีเรีย คือคุณเอาทหารพร้อมอาวุธสงครามไปจุกอยู่ในวัด
แค่นี้มันตอบได้แล้วนะครับว่าใครต้องการความรุนแรง ใครประสงค์ต่อชีวิตของมนุษย์
สำหรับผมมันประจานชัดเลยว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เขาประสงค์ที่จะปราบปรามเราด้วยกำลังทหาร ผมท้าทายทุกคนที่ต้องการที่จะโต้แย้งผม
ไม่เว้นแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่าผม หมอสันต์ ครูประทีป
เดินไปที่วัดมกุฏกษัตริยาราม เดินไปที่วัดโสมนัสวิหาร
ด้วยมือเปล่ากับประชาชนจำนวนสักประมาณไม่ถึงร้อย ไปกราบทหารให้เขากลับ
เดชะบุญทหารทุกคนกลับ
แล้วไม่เพียงวัดนะครับ
โรงเรียนวชิราวุธด้วยครับ โรงเรียนเป็นสถานที่อบรมบ่มเพาะเยาวชนของเราให้มีอุปนิสัยใจคอให้รักสันติ
รักสงบ แต่นี่คุณขนทหารพร้อมอาวุธสงครามเข้าไปในวัด มันตอบโจทย์เลย
ตั้งแต่เดือนมีนานะครับ ไม่มีเรื่องชายชุดดำ
ไม่มีเรื่องการใช้กำลังอาวุธของคนเสื้อแดงแม้สักน้อยเลยนะครับ ผมเชื่อว่า “จ่านิว”
คงไม่รู้เรื่องนี้หรอก
แล้วก็มีพี่น้องประชาชนที่อายุต่ำกว่าสามสิบก็คงไม่รู้เรื่องนี้
ผมจำเป็นต้องพูดให้ปรากฏในประวัติศาสตร์ว่า พวกเราไปด้วยสันติ
แล้วพวกคุณเริ่มโดยการเอาทหารมาดำเนินการกับเรา ในโรงเรียนด้วยครับ
ตรงสนามม้านางเลิ้งด้วย ตรงนี้ตราไว้นะครับ
พอเราขยับไปที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่
2 เม.ย. ก็ปรากฏว่า 3-4-5-6-7 ทหารเต็มสวนลุมพินีพร้อมอาวุธสงครามเต็มไปหมดเลยครับ
ผม ครูประทีป และพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งเดินไปด้วยสองมือเปล่านะครับ
ไปขอร้องให้ทหารกลับ เขาก็กลับ ผมก็ขี่จักรยานเข้าไปตาม ผมนับด้วยสายตาผมยังจำได้นะ
มีรถลำเลียงพลหุ้มเกราะประมาณ 20 คัน สมมุติคันหนึ่งประมาณ 30 คน 20
คันเท่าไหร่ครับ เพราะฉะนั้น นี่มันตอบชัด ๆ เลยครับว่าไม่มีชายชุดดำ
ไม่มีกองกำลังติดอาวุธ พวกคุณก็ขนทหารมามุ่งประสงค์ที่จะอะไรครับ
ถ้าคุณเอาทหารติดอาวุธมามุ่งประสงค์ที่อะไรครับ คุณตอบตัวเองได้นะครับ
คุณขนมาทำไม?
และข้อต่อมา
มีคนพูดเข้าหูผม (ผู้สื่อข่าวนี่แหละ) คือรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เขายืนยันว่าพวกเราเอาปืนไปยิงเขา เอา M79 ไปยิงเขา เอาระเบิดไปขว้างเขา
เขาเลยจำเป็นต้องขนทหารและอาวุธจริงมายิงเรา
ขอโทษเถอะครับ
วันนั้นเวลาประมาณบ่ายสองถึงบ่ายสาม เกรียงไกร คำน้อย ครับ ถูกยิงตายศพแรกครับ
และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบอกครับว่าตายด้วยกระสุนนั้นมีการถ่ายทอดสดจำนวนมากเลยนะครับ
แล้วก็มีสถานีช่องหนึ่งน้องผู้หญิงเขาถ่ายทอดสดแพนไปแพนมาก็เลยพบว่าประตูเปิดซึ่งเป็นโลหะมีรูกระสุนทะลุโบ๋แหวะไปเลย
แปลว่าเขายิงตั้งแต่ตอนก่อนเที่ยงหรือบ่าย ๆ ของวันที่ 10 แล้ว ไม่มีชายชุดดำ
ไม่มีเรื่องอะไรต่าง ๆ เลยนะครับ นี่คือข้อที่ 1
ข้อที่
2 ผมอยากจะยืนยันว่าไม่มีชายชุดดำครับ สำหรับผมนะ เพราะว่า ศปช. นี่เขาเขียนไว้นะครับว่าชายชุดดำคนแรกของ
ศปช. ไม่ใช่ของ คอป. พี่น้องต้องจำแนกความแตกต่างระหว่าง ศ.ศาลา กับ ค.ควาย ศปช.
คือคณะวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์และใช้หลักการทางวิชาการมาวิจัย เขาบอกว่า (ของเขานะ)
เขาบอกว่าชายชุดดำปรากฏตัวครั้งแรกในเวลา 20.20 น.
หลังจากที่การยิงกันอย่างสนั่นหวั่นไหวจบไปแล้วตอน 20.15 น. อ้าว...แล้วชายชุดดำมาทำไมครับ?
แล้วไอ้ภาพที่คุณเห็นชายชุดดำกำบังเสาไฟแล้วก็ยิง
พวยพุ่ง ปุ๊บ ๆ ๆ ๆ ที่คุณออกอากาศรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ออกอากาศซ้ำแล้วซ้ำอีกร่วมร้อย ๆ ครั้ง เอามาจากไหนครับ เพราะว่าศปช.เขายืนยันครับว่าชายชุดดำมา
20.20 หลังจากเหตุการณ์ยุติลงแล้ว สำหรับผมไม่มีชายชุดดำนะครับ แต่ศปช.เขาบอกมี
ไม่เป็นไร
แต่คอป.เขาบรรยายเรื่องชายชุดดำนี่เต็มไปหมดในหนังสือเขา
คอป.นี่ต้องขออนุญาตให้เกียรติอาจารย์ธิดานะครับ เพราะท่านเขียนเอาไว้และท่านพูดไว้
โดยอาจารย์คณิต ณ นคร และโดยสมชาย หอมลออ ผมขออนุญาตสั้น ๆ นิดเดียว
อาจารย์คณิตนะครับ ท่านไปอ่านดูในหนังสือพิมพ์ ณ นคร เนี่ย เขามีความเกลียดชังทักษิณ
ชินวัตร อย่างมโหฬารมหาศาลพันลึกจนถึงวันนี้นะครับ
แล้วเขายังบอกเลยว่าความวุ่นวายทางการเมืองของบ้านเมืองทั้งหมดที่เกิดขึ้นสิบกว่าปี
เกิดขึ้นเนื่องจากที่ทักษิณหลุดคดีซุกหุ้น
เขาติเตียนไปจนถึงศาลรัฐธรรมนูญชุดที่มีมติ ท่านไปอ่านในรายละเอียดก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นเอาคนอย่างนี้มาเขียนครับ
คอป.
แล้วสมชาย
หอมลออ นี่ก็เป็นเอ็นจีโอใหญ่ คือท่านนายกฯ ทักษิณ เขาประสงค์ที่อยากจะให้ประชาชนยืนบนลำแข้งของตัวเองได้เพราะเขาสงสารประชาชนมาเลย
แล้ววิธีการที่จะช่วยประชาชนเงยหน้าอ้าปากได้คือต้องเอาเขายืนขึ้นมาบนลำแข้งได้
แล้วเดินไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแรงสง่างาม ท่านเลยประเมินเอ็นจีโอว่าเป็นนายหน้าค้าความจน
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเอ็นจีโอจำนวนมากก็เลยเกลียดทักษิณ
คนที่เข้าร่วมประชุมเอ็นจีโอจำนวนหนึ่งเขามาบอกผม
ผมบอกว่าก่อนหน้ายึดอำนาจรัฐประหาร เอ็นจีโอจำนวนไม่น้อยเลยไปประชุมกัน
หาวิธีการที่จะเปิดประตูให้เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจโค่นล้มทักษิณให้ได้
เพราะฉะนั้นเอ็นจีโอใหญ่คือ สมชาย หอมลออ มาเขียน คอป.
เรื่องร่มเกล้า
สำหรับผมนะผิดโดยสิ้นเชิงเลย เขาบอกว่ามีคนเสื้อแดงวิ่งจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังบ้านไม้ตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา
แล้วก็ปีนประตูบ้านเข้าไปในบ้าน แล้วก็ขว้างระเบิดเข้าไป แล้วก็บอกว่าคนเฝ้าบ้านค้นพบกระเดื่อง
2 กระเดื่อง แล้วก็ตอนเช้ามีพลเรือนมาขอคืนไป
ท่านครับ...พิจารณาความเป็นจริงครับ
ณ เวลานั้น วันที่ 10 ตั้งแต่บ่ายสามโมงเป็นต้นไป ทหารจุกเต็มหมดแล้วครับ ถนนดินสอ
แล้วคนเสื้อแดงมันจะวิ่งจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังบ้านไม้ทรงไทยที่ตรงข้ามสตรีวิทยาได้หรือ?
แล้วก็ไอ้บ้านไม้ทรงไทยตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยากำแพงมันสูงเกินสายตา
แล้วคุณจะเห็นเหรอ คุณจะขว้างได้หรือมันบังสายตา แล้วคุณจะรู้หรือว่าร่มเกล้าอยู่ที่ไหน
แล้วถ้าหากว่าร่มเกล้าอยู่ที่โรงเรียนสตรีวิทยาจริง
ที่โรงเรียนสตรีวิทยาก็มีกำแพงสูงครับ แล้วก็มีประตูสูงด้วย เป็นโลหะด้วย
แล้วคุณจะขว้างได้หรือ? ฉะนั้นนี่ข้อที่หนึ่งเลยนะครับ คุณสมชาย หอมลออ ครับ
ผมยังยืนยันโต้คุณวันนี้นะครับ
ว่าเรื่องการตายของร่มเกล้าที่คุณเขียนในหนังสือคอป. ไม่เป็นจริงครับ เป็นเท็จครับ
ผมจำเป็นต้องพูดให้ปรากฏเพราะว่าเรื่องอย่างนี้มันเหยียบย่ำศพวีรชนทุกคนอยู่ทุกวัน
ถ้าเราไม่โต้ให้มันตกไป มันเหยียบย่ำวีรชน ผมรับไม่ได้
อีกเรื่องหนึ่งก็คือหกศพวัดปทุม
ของสมชายเขาเขียนไว้ว่ามีการยิงต่อสู้กันที่สามแยกเฉลิมเผ่า
แล้วก็ฝ่ายชายชุดดำยิงสู้ไม่ได้ ก็เลยหนีไป ล่าไป
เขาบอกว่าเจอรอยเลือดเป็นทางสองรอยเข้าไปในวัดปทุม
ท่านผู้ชมครับ
ผมมีอายุยาวขนาดนี้ร่วม 70 ปีแล้ว ผมผ่านประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลเผด็จการกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ทุกครั้งครับที่รัฐบาลเผด็จการทหารสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเขาจะบรรยายไว้ว่า
พวกคอมมิวนิสต์ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก
พวกคอมมิวนิสต์เนี่ยลากศพเป็นทางยาวแล้วพบรอยเลือดเป็นทางยาวไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่บรรยายอยู่ในคอป.เลยครับ
ผมก็เลยไปถึงบางอ้อเลย...อ้อนี่ไงเอามาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารของฝ่าย ศอฉ. นั่นเอง
ผมขออนุญาตใช้เวลาสั้น ๆ ตรงนี้แค่นี้เองนะครับว่า
นี่แหละเป็นการยืนยันว่าไม่มีชายชุดดำ แล้วก็เรื่องหกศพวัดปทุมศาลท่านมีคำสั่งการตาย
4 ข้อ
หนึ่งก็คือว่าผู้เสียชีวิตไม่มีเขม่าดินปืน
แปลว่าไม่มีการยิงต่อสู้
อันที่สองก็คือไม่มีการยิงต่อสู้ระหว่างชายชุดดำกับทหาร มีรายละเอียดเลย
เพราะว่าบางครั้งผมไปนั่งฟังการไต่สวน ท่านไต่สวนทหารที่มาให้ปากคำ แล้วก็ในนั้นท่านบอกว่าคำให้การของทหารไม่ตรงกัน
ฉะนั้นรับฟังไม่ได้ หนึ่งก็คือว่าทุกศพถูกยิงจากรางรถไฟฟ้า
แล้วในหนังสือคอป.บรรยายอย่างละเอียดเลยนะครับว่าพบรอยกระสุนที่กำแพงของวัด
พบรอยกระสุนที่เสาตอม่อ และทิศทางกระสุนอย่างโน้นอย่างนี้
พยายามอธิบายเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรางรถไฟฟ้าว่ายิงลงไปได้
เพราะมันมีชายชุดดำ ซึ่งการบรรยายแบบนี้มันปกป้องรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และศอฉ. ผมปฏิเสธครับว่าไม่จริง ผมอ้างเอาคำสั่งการตายของศาล
ฉะนั้นสรุปว่าเราไม่มีชายชุดดำ
เราไม่มีกองกำลังติดอาวุธ และส่วนเรื่องเผาบ้านเผาเมือง สายชล แพบัว
เมื่อวานนี้ถ้าใครดูในเน็ดสนั่นหวั่นไหวเลยครับ
จะมีการแชร์กันเป็นล้านหรือเปล่าไม่รู้นะผมไม่ได้ติดตามดู สายชล แพบัว พินิจ
จันทร์ณรงค์ ศาลพิพากษาเลยนะครับว่าไม่ได้เผาเซ็นทรัลเวิลด์
ผมขออนุญาตเรื่องนี้ใหญ่และยาว แต่ผมขออนุญาตพูดบางประเด็น
พ.ต.ท.ชุมพล
บุญประยูร เขาบอกว่าเขามีหน้าที่ในการที่จะดับไฟในเซ็นทรัลเวิลด์กับเซ็นมาเป็นเวลา
20 ปี เขาบอกว่าในนั้นมีสปริงเกอร์ทุก 3 ตารางนิ้ว คุณไปตัดไฟทำไม
คุณปล่อยให้สปริงเกอร์ทำงานซิ พอมีควันขึ้นสปริงเกอร์ก็ฉีดน้ำ
เขาบอกว่ามีแรงดันน้ำสูงมาก ไม่ว่าไฟระดับไหนดับได้หมด ข้อที่หนึ่งนะ
ข้อที่สอง
เขาบอกว่าเขาอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายเดือน ได้พบกับคนเสื้อแดงจำนวนมาก
ทุกคนมีอัธยาศัยไมตรีดีเพราะต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกัน
และทางเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นก็อนุญาตให้ไปอาบน้ำใช้ห้องน้ำได้
ทุกคนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แต่วันนั้นคนที่เข้ามาเขาไม่เคยเจอหน้าสักคนเลย
ไม่เคยเห็น แล้วมี 2 กรณี เข้ามารอบแรก รปภ. ของห้าง 180 คน ไล่ออกไปได้หมด
แต่มาชุดที่ 2 เวลาประมาณบ่ายสองโมง มาในชุดครึ่งท่อนและมีอาวุธด้วยครับ เห็นใครก็ยิงเลย
แล้วก็ขว้างระเบิดด้วย ก็เลยทำให้ในห้างนี่ต้องออกไปหมดเลย
ชุดดับเพลิงของเขาก็ออกไปหมด เขาบอกนะครับ
เขาบอกว่าไม่เคยพบในโลกนี้ว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานความมั่นคงไม่เปิดทางให้ชุดดับเพลิงเข้าไปดับไฟ
ฉะนั้นตรงนี้เป็นการยืนยัน และวันนั้นเวลาที่เกิดเพลิงไหม้ประมาณบ่าย 3 บ่าย 4
บ่าย 5 พวกผมนี่ ณัฐวุฒิ ก็ไปแล้วโน่นฮะ ค่ายนเรศวร
เพราะเรายุติการชุมนุมตั้งแต่เที่ยงหรือบ่ายแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีแล้ว ผุสดี งามขำ
นั่งอยู่เวลาบ่ายครึ่ง หลังจากนั้นทหารมาเชิญออก
บริเวณแถบนั้นทั้งหมดทหารยึดไปทั้งหมดแล้วครับ แล้วคนเสื้อแดง ชายชุดดำ
มันจะเข้าไปได้ยังไงครับ ไปเผาได้ยังไง อันนี้ผมยืนยัน
คราวนี้มาเรื่องที่
3 เราต้องแบกรับภารกิจนะครับ ภารกิจของวีรชนที่ต้องการจะสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
ในวันนี้รัฐธรรมนูญปี 60 มีส.ว.ลากตั้ง มีการนับแบบจัดสรรปันส่วนผสม
มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีปฏิรูปประเทศยาวนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เขาตั้งใจจะอยู่ 20
ปี สั้น ๆ ก็คือเป็นหน้าที่ของพวกเราผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้
โดยให้มี สสร. ที่เลือกโดยตรงจากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ให้มีการทำประชามติใหม่
เลือกรัฐบาลชุดใหม่ จากนั้นผมเชื่อว่าองค์กรอิสระที่แต่งตั้งโดย คสช. ควรจะหมดบทบาทเสียที
ดู ป.ป.ช. ชุดปัจจุบันครับเขายืนกรานว่าเขาไม่รับฟังความเห็น เขายืนกรานว่า
อภิสิทธิ์, สุเทพ นี่เขายกฟ้องไปแล้ว ผมถามเรื่อง เกรียงไกร คำน้อย
เขาไม่รับฟังครับ
คือในคำยกฟ้องเขาอธิบายบอกว่าทั้งนี้เนื่องจากเรามีการต่อสู้ด้วยอาวุธ
ก็เลยทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำเป็นต้องใช้กองกำลังทหารเข้าไปปราบปรามเรา
แล้วเขาอ้างคำพิพากษา ผมไม่ทราบว่าฉบับไหน แต่เข้าใจว่าเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ
ท่านผู้ชมที่เคารพ
พี่น้องครับ ศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งบอกว่าเวลาเขาเขียนคำพิพากษาของ สมัคร สุนทรเวช
เขาเขียนแบบรีบ ๆ ลวก ๆ สุกเอาเผากินครับ แล้วตอนยุบ 3 พรรค บรรหาร ศิลปะอาชา ไปขอร้องว่าให้มีแถลงปิดคดี
ตอนแรกขอร้องด้วยเอกสาร ท่านบอกไม่ได้ ในที่สุดก็แถลงด้วยวาจา มี 2 พรรคนะครับ
ของบรรหารแล้วก็มัฌชิมาธิปไตย แถลงปั๊บภายในชั่วโมงเดียวเขาแถลงปิดคดีเลย ฉะนั้นถ้าคุณอ้างศาลรัฐธรรมนูญว่าการชุมนุมของเราไม่สงบและใช้อาวุธ
ผมถามเรื่องเกรียงไกร คำน้อย ผมถามเรื่อง 6 ศพวัดปทุม ทำไม ป.ป.ช. รับพิจารณา
ผมยังถามอยู่นะครับ ถ้าหากว่า ป.ป.ช. ยังไม่เปลี่ยนความเห็น
ผมว่ามีทางเดียวก็คือเราต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ประเด็นสุดท้ายก็คือว่าผมไม่ต้องการให้มีการฆ่าคนกลางถนนอีกต่อไป
ทำได้อย่างเดียวเท่านั้นเอง อย่าไปฝากความหวังอย่างอื่น ถ้าทำไม่สำเร็จในชีวิตผม
ก่อนที่ผมจะตาย ยังจะเห็นอีก
ก็คือทหารเผด็จการก็จะเอาทหารมายิงประชาชนโดยอ้างว่าประชาชนเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล
ชั่วช้าสารเลวอย่างโน้นอย่างนี้แล้วก็ยิงอีก
ดังนั้นมีวิธีเดียวก็คือต้องเอาคนฆ่าและคนสั่งฆ่าในปี 53 มารับโทษตามกฎหมายให้ได้
ข้อแรกสุดต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาก่อน
ข้อที่สองต้องมีองค์กรอิสระชุดใหม่ที่เกี่ยวเนื่องหรือมาจากประชาชนโดยตรง
ซึ่งอาจจะมาจาก ส.ส. ก็แล้วแต่ ก็คือถ้า ป.ป.ช.ชุดดนี้ไม่เปลี่ยนความคิดเห็น
ก็ต้องเปลี่ยนชุดครับ เพราะคุณไม่รับฟังเลย กรณี เกรียงไกร คำน้อย ก็ไม่รับฟัง 6
ศพวัดปทุม ก็ไม่รับฟัง ตอนหลัง ๆ นี่ศาลมีคำพิพากษาชั้นต้นว่าการชุมนุมของเรา
ไม่เป็นการก่อการร้าย
การชุมนุมของเราเป็นสิทธิที่จะทำได้เพราะเราเรียกร้องยุบสภาคืนอำนาจด้วยสันติวิธีทำได้
ผมไม่ทราบว่าเขาจะรับฟังหรือเปล่านะ เขาจะบอกว่าเป็นศาลชั้นต้น
เราจะต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เราจะต้องมีองค์กรอิสระชุดใหม่ ต้องมีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพที่เหลือ ศพมีประมาณ
100 นะครับ และตามประมวลวิอาญามาตรา 150 ต้องชันสูตรให้เสร็จภายใน 3 เดือน
ยืดอายุได้ครั้งละ 1 เดือน ยืดอายุได้ต่อเนื่องกัน 2 ครั้ง ปีนี้ 10 ปีแล้วครับ
ยังไต่สวนไม่ครบครับ แล้วยังยื่นขอคำสั่งการตายจากศาลไม่ครบ
เราต้องเดินหน้าในการที่จะไต่สวนชันสูตรพลิกศพให้ครบ
และก็ยื่นไปให้ศาลมีคำสั่งการตาย ผมทวงถามรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ซึ่งหลายคนยังมีชีวิตอยู่ หลายคนอาจจะไม่อยู่แล้ว ทำไมคุณไม่ยื่นเรื่องการตายของ
ร่มเกล้า ธุวธรรม ทำไมคุณไม่ยื่นเรื่องการตายของ เสธ.แดง
ไปให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งการตายมาว่า 2 คนนี้ตายเพราะอะไร
ยังติดค้างอยู่ในใจผมและผมยังต้องการครับ
ผมต้องขออนุญาตจบเพียงเท่านี้ครับ
ที่จริงมีเรื่อง Big
Cleaning อีก แต่ผมไม่พูดแล้วเดี๋ยวจะเสียเวลาคนอื่น
ผมไม่เห็นด้วยกับการ Big Cleaning เลย เพราะ Big
Cleaning นั้นคือการจงใจที่จะทำลายหลักฐานสำคัญในการที่จะเอาคนมาลงโทษ
ก็ขออนุญาตเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ แล้วก็ขออนุญาตที่จะฝากพี่น้องประชาชนนะครับว่า
ช่วยกันแบกรับภารกิจของวีรชนที่เสียชีวิตไปจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ