ยูดีดีนิวส์ : 24 มี.ค. 63 การทำเฟสบุ๊คไลฟ์ผ่านทางแฟนเพจ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ในวันจันทร์ที่ 23 มี.ค. โดยขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะวิกฤตทั้งทางการเมือง, เศรษฐกิจ และที่สำคัญมากกว่าในตอนนี้คือวิกฤตการติดเชื้อไวรัส COVID-19 นั่นหมายถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน และในการสนทนานี้ อ.ธิดา ได้มาพบกับทุกท่านในประเด็น
7 วันอันตราย!!! ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ไทย ไปทางร้ายมากกว่าดี
อ.ธิดากล่าวว่า ในสภาพที่เราจำต้องมีรัฐบาลแบบนี้ด้วยความขมขื่น แต่อย่างไรก็ตามประเทศก็ต้องเดินหน้าไป ปัญหาทางการเมืองก็ต้องแก้ไขหรือต้องเปลี่ยนแปลง แต่ชีวิตของพี่น้องประชาชนสำคัญที่สุด
ดิฉันดูรายงานของกระทรวงสาธารณสุขและความคิดเห็นของคนกลุ่มต่าง ๆ มาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ จากข้อมูลเราจะเห็นว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อเมื่อพล็อตกราฟจะพบว่าเพิ่มขึ้นเป็นเท่า ๆ ตัว ยกตัวอย่างเช่น รายงานผู้ติดเชื้อใหม่
วันที่ 18 มี.ค. 63 จำนวน 35 ราย
วันที่ 19 มี.ค. 63 จำนวน 60 ราย
วันที่ 20 มี.ค. 63 จำนวน 50 ราย
วันที่ 21 มี.ค. 63 จำนวน 89 ราย
วันที่ 22 มี.ค. 63 จำนวน 188 ราย
วันที่ 23 มี.ค. 63 จำนวน 122 ราย
กราฟของนพ.วิธาน ฐานุวุฑฒ์ ที่ อ.ธิดา นำมาอัพเดตข้อมูลจนถึงวันที่ 23 มี.ค. 63 |
อ.ธิดาได้นำกราฟที่ นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ พูดเมื่อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค. มาต่อยอดพล็อตกราฟต่อจนถึง 23 มี.ค. และเมื่อดูเส้นกราฟของไทย (เส้นกราฟสีแดง) จะเห็นกราฟพุ่งขึ้นเป็นลำดับ อ.ธิดากล่าวต่อไปว่า จากกราฟเมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมเข้าหลักร้อย เราจะเห็นกราฟแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มประเทศที่ทำงานได้ผล ประกอบด้วย ฮ่องกง (เส้นกราฟสีม่วง), สิงคโปร์ (เส้นกราฟสีเขียว) และญี่ปุ่น (เส้นกราฟสีฟ้า) คือจากตัวเลขผู้ติดเชื้อหลักร้อย เขาควบคุม อัตราเพิ่มของผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำ ทำให้เส้นกราฟแสดงผลออกมาเป็นแนวนอน นี่ยังไม่รวมไต้หวันซึ่งทำได้ดีมาก ๆ
กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วย อิหร่าน (เส้นกราฟสีน้ำตาล), เกาหลีใต้ (เส้นกราฟสีเหลือง), อิตาลี (เส้นกราฟสีฟ้า), สหรัฐอเมริกา (เส้นกราฟสีชมพู) และไทย (เส้นกราฟสีแดง) ประเทศในกลุ่มนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อทะยานเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ
มาดูประเทศไทย (เส้นกราฟสีแดง) จะพบว่า
จากวันที่ 15 มี.ค. จำนวนผู้ติดเชื้อ 114 ราย
วันที่ 16 มี.ค. เพิ่มขึ้น 33 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจำนวน 147 ราย
วันที่ 17 มี.ค. เพิ่มขึ้นอีก 30 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อ 177 ราย
วันที่ 18 มี.ค. เพิ่มขึ้นอีก 35 ราย รวมผู้ติดเชื้อเป็น 212 ราย
อ.ธิดากล่าวว่า สมมุติว่าจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ 212 รายในวันที่ 18 มี.ค. สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ อาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มประมาณ 30 ราย เส้นกราฟที่ออกมาจะอยู่ในแนวนอนและมีสิทธิ์ที่จะลดลง ในทัศนะของดิฉัน มันมี "Super Spreader" อันเนื่องมาจากการติดเชื้อที่สนามมวย ซึ่งทำให้ตัวเลขมันกระโดดขึ้นทันที
ต่อมาวันที่ 19 มี.ค. เพิ่มขึ้นอีก 60 ราย รวมผู้ติดเชื้อเป็น 272 ราย
วันที่ 20 มี.ค. เพิ่มขึ้นอีก 50 ราย รวมผู้ติดเชื้อเป็น 322 ราย
วันที่ 21 มี.ค. เพิ่มขึ้นอีก 89 ราย รวมผู้ติดเชื้อเป็น 411 ราย
วันที่ 22 มี.ค. เพิ่มขึ้นอีก 188 ราย รวมผู้ติดเชื้อเป็น 599 ราย
วันที่ 23 มี.ค. เพิ่มขึ้นอีก 122 ราย รวมผู้ติดเชื้อเป็น 721 ราย
จะเห็นว่าเส้นกราฟของไทยทะยานขึ้นไปเรื่อย ๆ ฉะนั้นประเทศไทยจึงจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของประเทศอิหร่าน, เกาหลีใต้, อิตาลี, สหรัฐอเมริกา ดังนั้นดิฉันถึงได้พูดว่า "7 วันอันตราย แนวโน้มร้ายมากกว่าดี"
อ.ธิดากล่าวว่า จากระบบของเชื้อโรค (Pattern) นั้น
ใน 100 คน 80 คนไม่เป็นอะไร แต่ว่า 20 คนจะป่วย
ใน 20 คนที่ป่ายนี้จะป่วยหนักวิกฤต 5 คน ป่วยปานกลาง 15 คน
สมมุติว่าถ้า 1 ล้านคน คนวิกฤตป่วยหนัก 5% ก็ 50,000 คน
ถามว่าเรารับไหวไหม?
ถามว่าเรารับไหวไหม?
หรือถ้าลดคนวิกฤตป่วยหนัก 25,000 คน
คำถามว่าเรารับไหวไหม? ไม่ไหว...มันหนักเกินไป
อ.ธิดากล่าวต่อไปว่า แค่สนามมวยที่เดียว มีบางคนรับเชื้อมา อันนั้นก็คือเป็น Super Spreader (ผู้กระจายเชื้อที่มีพลัง) เพราะว่าเขาสามารถทำให้สถานการณ์พลิกผันเปลี่ยนได้ มันก็เข้าข่ายเหมือนในโบสถ์ที่เกาหลีใต้ จะเรียกว่าโชคร้ายหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือเราไม่เก่งพอ หรือประมาท หรือหลาย ๆ เรื่องที่เคยพูดไปแล้วไม่ว่าจะเป็นวิสัยทัศน์ วิธีคิดในการรับมือ การจัดลำดับความสำคัญ องค์ความรู้ และภาวะการนำ
ณ ตอนนี้อย่างไรเสียก็ต้องให้สาธารณสุขมาประเมินสถานการณ์ ไม่ใช่สถานการณ์ของผู้ติดเชื้ออย่างเดียว แต่เป็นสถานการณ์ที่สาธารณสุขไทยรับได้แค่ไหน และจะปรับอย่างไร คุณมีเครื่องช่วยหายใจพอไหม? คุณมีเตียงพอไหม? และจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้คนติดเชื้อเป็นแสน เพราะถ้าคนติดเชื้อเป็นแสน คนป่วยก็ต้องเป็นหมื่น
ดังนั้นขณะนี้จึงเป็นภาวะวิกฤตที่ซ้อนวิกฤต คือวิกฤตการเมือง วิกฤตผู้นำ ซึ่งเราติดลบอยู่ พอมาเจอสถานการณ์สาธารณสุขที่รุนแรง ภาวะติดลบของไทยยิ่งมากขึ้น บางคนอาจคิดว่ายังไม่เป็นหนักเหมือนอิตาลี แต่ถ้าคุณไม่ดูแลให้ดีก็อาจจะไปถึงขั้นนั้นได้!
ดิฉันก็อยากจะเตือนมาว่า ถ้าดูกราฟ เราไปทางร้าย (เส้นทางของอิตาลี, สหรัฐฯ) มากกว่าดี (เส้นทางของญี่ปุ่น, สิงคโปร์) สำหรับเกาหลีใต้การปิดประเทศน้อย เขาก็มีปัญหาบทเรียนเหมือนกัน แต่ว่าเขา Test เยอะ ดังนั้นกราฟเขาอาจจะพุ่งสูง แต่ว่าจะตกเร็วแบบเดียวกับของจีน คือหาผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด จากนั้นก็ไล่มากักและจัดการ แต่ถ้าประสิทธิภาพในการหาผู้ติดเชื้อของเรามีไม่พอ บางคนก็จะเป็น Super Spreader ได้
อ.ธิดากล่าวว่า ถ้าเป็นสถานการณ์ของเรานั้นดิฉันมองไปทางร้าย เพราะความสามารถในการตรวจสอบเราก็น้อย ความสามารถในการสืบสวนสอบสวนเราก็น้อย เราก็หวังโชคช่วยว่าอากาศร้อนบางทีมันอาจจะไม่รุนแรง การอยู่ห่างกันอาจจะช่วยได้ แต่ดิฉันมองว่าขณะนี้เราควรเตรียมตั้งรับด้านร้ายมากกว่าที่ปลอบประโลมใจว่าไม่เป็นไร
สำหรับรัฐบาลคือขอให้ฟังกระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มแพทย์ซึ่งมีประสบการณ์และมีความรู้ และต้องระดมทรัพยากรให้มาก คุณจะไปซื้อเรือดำน้ำ ซื้ออาวุธอะไร ในขณะที่ประชาชนอยู่ในสภาพแบบนี้ คุณจะรู้เลยว่าอะไรสำคัญกว่า
ดิฉันอยากจะให้ประชาชนไทยเข้าใจสภาพว่าความรุนแรงจะมาก ดังนั้นทุกคนก็ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะผู้นำและรัฐบาล คือท่านติดลบมาเยอะแล้ว ท่านเคยพูดว่า "เป็นนายกฯ ง่ายนิดเดียว" ตอนนี้ประเทศเรียกได้ว่าลงดำดิ่ง แล้วประชาชนไทยอาจจะหายไป 5-6% ดิฉันก็ภาวนาว่าอย่าให้เหมือนอิตาลี แต่ดูแล้วแนวโน้มเราจะไปทางนั้นมากกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกัน และกระตุ้นให้รัฐบาลเข้าใจด้วยนะว่าคุณฝันหวาน คุณคิดว่าเป็นนายกฯ น่ะหมู ที่ทำมาทั้งหมดผิดพลาดอย่างรุนแรง เหลือว่าขณะนี้เราจะทำอย่างไรให้ดีที่สุด ซึ่งกล่าวโดยสรุปก็คือ เราจะไปทางร้ายมากกว่าทางดี อ.ธิดากล่าวในที่สุด