ยูดีดีนิวส์ : 3 ม.ค. 63 "ต้อนรับปีใหม่ 2563 ด้วยระเบิดหลายลูกจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม อำนาจนิยม คลั่งชาติ ที่เหยียดเพศ เหยียดชาติพันธุ์ และเชียร์อำนาจนิยมให้มีรัฐประหารต่อเนื่อง" เป็นหัวข้อบทความของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ซึ่งได้โพสต์ลงใน เฟสบุ๊คแฟนเพจ ความว่า
ต้อนรับปีใหม่ 2563 ด้วยระเบิดหลายลูกจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม
อำนาจนิยม คลั่งชาติ ที่เหยียดเพศ เหยียดชาติพันธุ์
และเชียร์อำนาจนิยมให้มีรัฐประหารต่อเนื่อง
เอาเรื่องอะไรก่อนดี???
เอา
“เสืออากาศ 24/7” ก่อนไหม?
ดูคล้ายกับว่ามีคำเฉลยแล้วาเป็นใคร
จากผู้แพร่ข่าวคือ คุณวาสนา นาน่วม นั่นเอง ลองไปอ่านดูดี ๆ
ถ้าไม่สำคัญคงไม่เรียกว่า “เสืออากาศ” หรอก!!!
กรณีเรื่องของ
“ม้ง” นี้ ไม่ว่าจะมองในแง่ชาติพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง
หรือมองในแง่ความมั่นคง มองแบบไหน ๆ และยอมรับความแตกต่างทางความคิดแล้วก็ตาม มองยังไงก็รับไม่ได้กับการเขียนถึงคนม้งแบบเสืออากาศ
24/7 เพราะท่านต้องการให้เขาเปลี่ยนจาก “ม้ง” มาเป็นแบบไทย ๆ แบบมอญ
แบบจีนที่เป็นแบบไทย ๆ
ดิฉันไม่เข้าใจว่าท่านคิดแบบนี้ได้อย่างไร? ท่านจะให้มีมนุษย์พันธุ์เดียว แบบเดียว
คิดแบบเดียว มีวัฒนธรรมอย่างเดียวกัน ดูคล้าย “ฮิตเลอร์”
ที่เน้นชาติพันธุ์เยอรมันบริสุทธิ์ เกลียดยิว เกลียดสลาฟ
แล้วตั้งคำถามว่าสมควรหรือไม่ที่จะให้ “ม้ง” มีสิทธิครอบครองที่ดินบนแผ่นดินไทย
เป็นอะไรไปแล้วคะท่าน? ประเทศนี้เดิมชื่อ “สยาม”
มีคนหลายชนชาติ หลายชาติพันธุ์ ประมาณ 45-50 ชาติพันธุ์ อยู่ในพื้นที่ที่เป็นประเทศไทยปัจจุบัน
ภาคเหนือนั้นอยู่กับโครงการหลวง เชียงใหม่, เชียงราย เป็นจำนวนมาก มี ม้ง,
ปกาเกอะญอ หรือ กะเหรี่ยง ที่สำคัญมีกะเหรี่ยง จาม, ไทลื้อ, ไทใหญ่, ม้ง, มลายู,
มอญ
กลุ่มชาติพันธุ์เป็นกลุ่มชนที่มีความสืบเนื่องทางประวัติศาสตร์กับสังคมไทยมาตั้งแต่อดีตมากกว่าร้อยปี
มีความแตกต่างจากลุ่มชนอื่น ๆ และมีวัฒนธรรมประเพณีของตนเอง โดยอาศัยตั้งถิ่นฐานกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆใน
67 จังหวัด จํานวน 56 กลุ่ม มีประชากรรวมประมาณ 6,100,000 คน หรือร้อยละ 9.68 ของ
ประชากรประเทศ
กลุ่มชนเผ่าม้ง |
กลุ่มชนบนพื้นที่สูงมีมากกว่า
1.2 ล้านคน มี 13 กลุ่ม ได้แก่กะเหรี่ยง ม้ง(แม้ว), เย้า(เมี่ยน), ลีซู(ลีซอ),
ลาหู่(มูเซอ), อาข่า(อีก้อ), ลั๊วะ, ถิ่น, ขมุจีนฮ่อ, ตองซู, คะฉิ่น
และปะหล่อง(ดาลาอั้ง) ได้สัญชาติไทยไปแล้วหลายแสนคน
ข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ราบ
มีมากถึง 38 กลุ่ม ได้แก่ มอญ, ไทยลื้อ, ไทยทรงดํา, ไทยใหญ่, ไทยเขิน, ไทยยอง,
ไทยหญ่า, ไทยยวน, ภูไท, ลาวครั่ง, ลาวแง้ว, ลาวกา, ลาวตี้, ลาวเวียง, แสก, เซเร,
ปรัง, บรู(โซ่), โซ่ง, โซ, ทะวิง, อึมปี, ก๋อง, กุลา, ซอุโอจ(ชุอุ้ง), กูย(ส่วย),
ญัฮกรู(ชาวบน), ญ้อ โย้ย, เขมรถิ่นไทย, เวียดนาม(ญวน),
เญอ, หมี่ซอ(บีซู) ชอง กระชอง กะเลิง และลาวโซ่ง(ไทยดํา) และที่สำคัญคือ มลายู ยังมีชาติพันธุ์ในป่า
เช่น ซาไก, ผีตองเหลือง และชาวเลอีก
ถ้าติดตามข้อมูลในประเด็นความมั่นคง
ในการพัฒนากลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานความช่วยเหลือในการสงเคราะอาชีพห์และพัฒนาในด้านการศึกษาตั้งแต่ปี
2506 เป็นต้นมา ในปี 2512 มีพระราชดําริให้จัดตั้ง “โครงการหลวง” ขึ้น และได้มีมติครม.
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 32 และวันที่ 11 ก.พ. 35 เรื่อง นโยบายแก้ไขความมั่นคงของชาติเกี่ยวกับชาวเขาและการปลูกพืชเสพติด
มุ่งเน้นในการจัดตั้งถิ่นฐานถาวร การสํารวจสถานะบุคคล
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ท่านเสืออากาศ 24/7 ไปอยู่ที่ไหน ถึงไม่รู้เรื่องเหล่านี้ นอกจากนั้นประเทศสยามเพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยไม่นานมานี้
ในยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม เพราะท่านอยากแอบอ้างเอาคนไทยที่พูดไทยในประเทศอื่น ๆ
มาแสดงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรไทย เลยลบชื่อ “สยาม” ทิ้งไป
ดิฉันเคยทำงานวิจัยเรื่อง
“พฤติกรรมของประชาชนไทยในการรักษาตนเอง” โดยเริ่มต้นที่ในภาคกลางของประเทศ
หวังว่าจะให้เป็นตัวแทนของคนไทยที่ไม่ใช่ชาติพันธุ์อื่น ๆ
ซึ่งอาจมีพฤติกรรมในการรักษาตนเองแตกต่างไป
แต่เชื่อไหมว่าแต่ละหมู่บ้านที่ไปเก็บข้อมูลสัมภาษณ์
ซึ่งดิฉันเก็บข้อมูลของหมู่บ้านนั้น ๆ มาด้วย พบว่า “ไม่ใช่คนไทย” รุ่นปู่ ย่า ตา
ยาย หรือ พ่อ แม่ อพยพมาจากที่อื่นทั้งสิ้น และมีชาติพันธุ์ต่างกัน
“ไม่มีคนไทยจริงในประเทศไทย”
“มีแต่กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง
ๆ รวมอยู่ในประเทศสยาม”
ซึ่งเปลี่ยนนามเป็นคนไทย
เพราะเชื่อว่าเผ่าไทเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
แล้วด้วยระบบไพร่ที่ช่วงใดมีพระมหากษัตริย์เป็นนักรบที่เก่งกล้า
ก็จะไปรบกับประเทศใกล้เคียง เป็นเมืองขึ้น แล้วกวาดต้อนผู้คนมาอยู่ตามพื้นที่ต่าง
ๆ ทั้งในภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน
ดิฉันไปหาข้อมูลประชาชนที่ไหนก็มีแต่ชาติพันธุ์อื่น เช่น ไปเพชรบุรี, ราชบุรี,
สุพรรณบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, พระนครศรีอยุธยา, ฉะเชิงเทรา ฯลฯ เป็นต้น ในกรุงเทพฯ
จริง ๆ ก็จะมีคนที่อพยพหนีสงครามและถูกกวาดต้อนมาเป็นชาติพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย
ถ้าเป็นมุสลิมก็มีหลายกลุ่ม หลายรุ่น สุเหร่าจึงกระจายเต็มไปหมด
คุณเสืออากาศไม่รู้สึกภูมิใจที่ประเทศเรามีคนหลายชาติพันธุ์หรือ?
คุณจะให้เป็นคนไทยบล็อกเดียว
พิมพ์เดียวกันหมดหรือ? ศึกษาประวัติศาสตร์และชาติพันธ์ในประเทศต่าง ๆ บ้างไหมเล่า?
คนม้งมีทั้งอยู่กับ
พคท. และอยู่กับฝ่ายความมั่นคงประเทศไทยที่รบกับ พคท.
ก็เห็นเขาเป็นผู้บัญชาการรบที่เก่งจนกองทัพไทยต้องเอาจีนฮ่อมารบแทนทหารไทย
บ้างก็เป็นหมอใหญ่ผ่าตัดได้
แล้วเขาโง่ตรงไหน?
บางกลุ่ม
บรรพบุรุษเขาอยู่ในประเทศนี้มาก่อนบรรพบุรุษของคนไทยจำนวนมาก หรืออาจรวมถึงคุณด้วย
ทำไมเป็นคนจีนรวย ๆ ถึงน่ารัก เช่น ตระกูลดังหลายตระกูล ร่ำรวย
และสนับสนุนชนชั้นนำ อำนาจนิยม จารีตนิยม ไม่เข้ามาทำงานการเมือง
อย่างนี้น่ารักใช่ไหม? ถือเป็นคนไทยแท้
แต่ชาติพันธุ์ชายขอบกลับเหยียดหยามวัฒนธรรมเขา ไม่ถือว่าเป็นคนไทย
ถ้าคนไทยที่สิบสองปันนาถูกบังคับให้เปลี่ยนวัฒนธรรมไทย
คุณรู้สึกอย่างไร? จริง
ๆ ชนชาติหลักก็จะค่อย ๆ กลืนไปอยู่แล้ว แต่ชาวม้งตามเขาตามดอย
การติดต่อคมนาคมยากหน่อย ทำให้ยังรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเขาอยู่ได้
ดิฉันว่าบรรดาขุนศึกทั้งหลายจะแสดงความคิดเห็นนั้นต้องระวัดระวังสักหน่อย
เพราะเนื้อหามันบ่งบอกถึงจิตใจที่คับแคบ ลัทธิเหยียบชาติพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชาติส่วนน้อยและไม่ถือว่าเขาเป็นคนไทย
ใครที่พยายามช่วยเหลือคนด้อยโอกาส กลุ่มชาติพันธุ์
ก็กลายเป็นพวกไม่รักชาติหรือหาเสียง (ถ้าไม่ใช่คนสัญชาติไทย
จะหาเสียงไปทำไมเพราะเลือกตั้งไม่ได้) นี่ก็ตลก
ขัดแย้งกันเองในเชิงตรรกะที่คนต้องคิดว่า คนเหล่านั้นที่เรียกว่า “ม้ง”
เป็นคนสัญชาติไทย เป็นคนไทยหรือไม่? ที่มีชาติพันธุ์เป็นม้ง เหมือนชาติพันธุ์จีน,
ชาติพันธุ์อินเดีย, มอญ, ญวณ, มาเลย์, ลาว, เขมร, ส่วย ฯลฯ
บ้างก็อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
เช่น มอญ, ม้ง บ้างก็ถูกกวาดต้อนมาเป็นไพร่บ้านไพร่เมือง อยู่มาจนได้รับสัญชาติไทย
แต่ก็มีพวกตกหล่นตามชายขอบอยู่บ้าง เสืออากาศ 24/7 คิดได้อย่างไร
แบบที่เขียนมานั่นน่ะ ถ้าเขาได้สัญชาติไทยก็ถูกเกณฑ์ทหารเหมือนกัน (ตามหลักการ)
และที่เอาเขาสู้กับคอมมิวนิสต์ ลาว พคท. ก็มีมากต่อมาก คิดได้ยังไงแบบที่พูดมาน่ะ
สายตาสั้น, จิตใจคับแคบ, เหยียดมนุษย์ชาติพันธุ์อื่น คิดว่าคนไทยเป็นชนชาติใหญ่
เป็นเลิศกว่าใครงั้นหรือ นี่แหละคือตัวอย่างจริงของพวกจารีตนิยม อำนาจนิยม
ลัทธิคลั่งชาติใหญ่สุดโต่ง
วัฒนธรรมของไทยและลัทธิชาตินิยมในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม |
ความจริงทหารที่เป็นชาตินิยมจัดคือ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ถึงกับเปลี่ยนชื่อประเทศสยาม เป็น ประเทศไทย ตั้งกระทรวงวัฒนธรรม
และให้มีละครลัทธิรักชาติไทยแสดงเยอะแยะ แต่นี่ก็จะเอารูปปั้นท่าน และรูปปั้น
พลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ย้ายออกไปไว้ที่ไหน? เผอิญ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
เป็นตัวอย่างลัทธิชาตินิยม แต่ไม่เป็นจารีตนิยมเหมือนพวกท่าน ใช่หรือไม่?
ธิดา
ถาวรเศรษฐ
3
ม.ค. 63