ยูดีดีนิวส์ : 8 พ.ค. 62 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้กล่าวในการทำ Facebook Live วันนี้ในประเด็น "ส.ว.แต่งตั้ง...เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอนุรักษ์นิยมไทย"
อ.ธิดากล่าวว่าขณะนี้คสช.ไม่ได้สนใจแล้ว และเชื่อเอาว่ากกต.คงจะจัดการปัญหาได้เรียบร้อย ดังนั้นภารกิจของคสช.ในการเสนอชื่อวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ในวันที่ 10 นี้ก็ทำเลย
ดิฉันบอกได้ตรง ๆ นะคะว่าทั้ง 2 กรณี กรณีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือกรณีการแต่งตั้งส.ว. คสช.จะเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า จะประเมินสังคมไทยผิดไปหรือเปล่า
ในประเด็นของส.ว. นั้น อนุรักษ์นิยมไทยหรือพวกที่ใช้คำว่าประชาธิปไตยแบบไทย ๆ แท้ที่จริงก็คือต้องการจะแสดงว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยม ชนชั้นนำ จะต้องมีตัวแทนจำนวนหนึ่งเพื่อคานอำนาจกับส.ส.ที่มีจากการเลือกตั้ง หัวใจมันอยู่ตรงนี้!
และนี่คือหัวใจของคำว่า "ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ"
แปลว่าถอยที่สุดแล้ว รัฐบาลอาจจะมีที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ว่าสภานิติบัญญัติหรือรัฐสภาจะต้องมีส่วนหนึ่งซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นนำอนุรักษ์นิยม ดังนั้นประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยตั้งแต่ 2475 มาเป็นลำดับที่ทะเลาะและไม่ลงตัวกันก็คือประเด็นนี้ค่ะ
พูดง่าย ๆ ก็คือไม่สามารถที่จะปล่อยอำนาจในการออกกฎหมาย ในการควบคุมรัฐบาลให้อยู่ในมือของประชาชนส่วนใหญ่ได้ เรียกว่า "ปล่อยมือไม่ได้" เลยต้องหาวิธีการใดที่จะทำให้ได้ส.ว.
ในรอบแรกก็มีการถกเถียงกันว่าจะเป็นพระราชอำนาจ 100% หรือจะเป็นอำนาจของคณะกรรมการของคณะราษฎร ในที่สุดก็ไม่ลงตัวและกลายเป็นความขัดแย้ง
หลังจากนั้นเมื่อกองทัพไทยถูกดึงมาจากคณะราษฎรหลังจากการสิ้นสุดยุคพระยาพหลพลพยุหเสนา มาถึงยุคจอมพล.ป., จอมพลสฤษดิ์ กองทัพได้เข้ามาผนึกเป็นส่วนหนึ่งของอนุรักษ์นิยม เพราะฉะนั้นประเทศไทยก็จะอยู่ในวังวนของคณะรัฐประหาร
กองทัพหรือคณะรัฐประหาร หรือที่เรียกตัวเองว่าคณะปฏิวัติก็จะแต่งตั้งวุฒิสมาชิก ซึ่งชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมที่ยินดีจะสนับสนุนคณะรัฐประหาร หรือคณะรัฐประหารที่ยินดีที่จะให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมมาร่วม ก็ร่วมกันคิดเพื่อที่จะให้ได้วุฒิสมาชิกจำนวนหนึ่ง นั่นเป็นเรื่องในอดีต
และวุฒิสมาชิกเหล่านั้นก็ไม่ได้มีอำนาจมาก
แต่ว่าหลังรธน.40 วุฒิสมาชิกมีอำนาจมาก ด้วยเหตุที่ว่าผู้ร่างมองว่าวุฒิสมาชิกนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวสูงกว่าส.ส.ระดับหนึ่ง และมาจากการเลือกตั้ง ผู้เขียนรธน.ขณะนั้นจึงให้อำนาจวุฒิสมาชิกเต็มที่ในการแต่งตั้ง -การถอดถอน องค์กรอิสระ
ในทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อมีการยึดอำนาจตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน วุฒิสมาชิกจึงยิ่งมีความสำคัญกว่าในอดีตสำหรับอำนาจนิยมและอนุรักษ์นิยมไทย
เราจึงมองเห็นว่ารธน.60 นี้ นอกจากเพิ่มอำนาจวุฒิสมาชิกมากกว่ารธน.40 แล้ว ยังสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วย และมีส่วนในเรื่องของกฎหมาย เรื่องปฏิรูป เรื่องยุทธศาสตร์ เรื่องอะไรต่าง ๆ มาก
เพราะฉะนั้น เราจึงเห็นปรากฏการณ์ครั้งนี้ แต่ดิฉันคิดว่ามันมากเกินไป
ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยปมข้อกฎหมายตั้งคณะกรรมการสรรหาส.ว.ว่าขัดรธน. หรือไม่?
ดิฉันมองว่านี่มันลุแก่อำนาจมากเกินไปหรือเปล่า?
คือรธน.ฉบับนี้ให้อำนาจที่จะสืบทอดเยอะมาก...ยังไม่พอ เพราะว่าตามบทบัญญัติรธน.นั้น ต้องตั้งคณะกรรมการสรรหาซึ่งเป็นกลางทางการเมือง คุณให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถามว่าอย่างนี้เป็นกลางทางการเมืองหรือ? ทำมุมมิบกันไม่มีใครรู้ กลายเป็นว่าได้มา 400 คนแล้วชงมาให้คสช.เลือก
คุณชัยเกษม พรรคเพื่อไทย ก็มีความเห็นว่าคสช.มีส่วนได้เสียโดยตรง ตั้งพล.อ.ประวิตร นั่งหัวโต๊ะคัดเลือกส.ว. ถ้าศาลรธน.วินิจฉัยว่าไม่มีส่วนได้เสียก็เป็นดุลยพินิจของศาล
ดิฉันคิดว่ามันเปลืองที่ศาลรธน.ด้วยนะ มันไปเปลืองที่ศาลรธน.ด้วยนะ
เพราะถามว่าพล.อ.ประวิตรไม่มีส่วนได้เสีย มันใช่ หรือ ไม่ใช่ และความน่าเชื่อถือ ขนาดรธน.เอียงเขายังอุตส่าห์พูดไม่ให้มันน่าเกลียด ก็คือต้องตั้งผู้มีคุณวุฒิและเป็นกลางทางการเมือง แต่นี่ไม่มีใครรู้ว่ามีใครบ้าง เท่าที่รู้ก็เป็นคนของคสช.ทั้งหมด
การไม่เปิดเผยคณะกรรมการสรรหาส.ว. ดิฉันคิดว่ามันไม่น่าเกลียดเกินไปหรือคะ รธน.ก็เขียนจนเอียงขนาดนี้แล้ว ยังอุตส่าห์ไปมุบมิบทำ แล้วตอนนี้สนช.ลาออกร่วม 50-90 คน แล้วรมต.ก็ลาออกไป 19 คน
ดังนั้นในทางหลักการสำหรับอนุรักษ์นิยมไทยและอำนาจนิยมไทยต้องมีส.ว.มาจากการแต่งตั้ง แต่ในกระบวนการวิธีการที่จะได้มาสำหรับคสช.ครั้งนี้ ดิฉันคิดว่ามันมากเกินไป!
แล้วไม่คิดหรือว่าการที่เอาแต่ได้ เพื่อให้ชัวร์ว่าคนเหล่านี้ต้องยกมือให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ หรือเปล่า หรือกลัวว่าถ้าเอาคณะกรรมการสรรหาส.ว.ที่เป็นกลางเดี๋ยวจะไม่ชัวร์ว่า 250 เสียงนี้มันต้องเป๊ะ ๆ แต่ดิฉันว่ามันมากเกินไปนะ แล้วมันไม่คุ้ม
นี่จะทำให้การเมืองไทยยิ่งยุ่งขึ้นไปอีกถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ ดิฉันก็หวั่นว่าถ้ากกต.ยังดื้อร้นที่จะให้ 26-27 พรรคได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ และในขณะที่ส.ว.ก็ยังเป็นการดื้อรั้นที่จะใช้ทายาทคสช.เกือบทั้งหมด ดิฉันก็คิดว่ามันทำให้อุณหภูมิการเมืองในประเทศไทยไม่ได้เย็นนะ ถ้าคสช.ทำแบบนี้ และมติของกกต.เป็นแบบนี้ เพื่อให้ได้หลักประกันว่าพล.อ.ประยุทธ์จะต้องเป็นรัฐบาลแน่นอน
ดิฉันว่าการเมืองไทยร้อนแน่ค่ะ!