ยูดีดีนิวส์ : 11 เม.ย. 62 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ กล่าวในการทำ Facebook Live วันนี้โดยกล่าวว่าคนที่ไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยที่เป็นสากลนั้นเป็นอย่างไร? ก็ต้องกระทำอย่างที่กระทรวงการต่างประเทศไทยทำอยู่
จากเวปไซต์กระทรวงการต่างประเทศโดยศูนย์ข่าวกต. ปรากฎว่ากต.เชิญเอกอัครราชทูตของประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์รับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวพรรคอนาคตใหม่ ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันเมื่อ 6 เม.ย. 62 มาเข้าพบรองปลัดกต. ผู้รับผิดชอบทวิภาคีที่กต.
และท่าทีของกต.ไทยก็คือ เรียกเขามาพบและได้แสดงความผิดหวัง ห่วงกังวลต่อการปรากฎตัวของผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่สถานีตำรวจปทุมวัน และก็เกิดภาพที่ตีความว่าเป็นการไปให้กำลังใจนายธนาธร เป็นการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในบริบทการเมืองไทยปัจจุบัน
อ้างว่าเป็นสิ่งที่เกินเลยภารกิจทางการทูต เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายใน ละเมิดหลักปฏิบัติพันธกรณีทางการทูตภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต อ้างมาตรา 41 จึงขอให้สถานเอกอัครราชทูตดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
เอกอัครราชทูตและอุปทูตที่มาพบประกอบด้วย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ เบลเยียม และสหภาพยุโรป
อ.ธิดากล่าวว่า ดิฉันเข้าใจได้ทันทีว่า เรื่องของทางกต. ดิฉันไม่แน่ใจว่าเป็นวิธีคิดของกต.เองหรือของรมว.เอง หรือว่าได้รับการกดดันจากคสช. ซึ่งมีท่าทีไม่พึงพอใจการปรากฎตัวของเจ้าหน้าที่การทูตของประเทศต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว แล้วก็เลยไปบอกว่าเขาล้ำเส้น
ดิฉันให้ตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ในค่ายเสรีประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นเราจะไม่เห็นประเทศฝ่ายอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม แม้กระทั่งสิงคโปร์ แม้กระทั่งญี่ปุ่นด้วยซ้ำ แต่ประเทศที่เขามาแสดงตัวนี้เขามีปฏิบัติการคล้าย ๆ เป็นเสาหลักของค่ายเสรีประชาธิปไตย
เพราะฉะนั้น กต.ไทยคงไม่เข้าใจว่าประเทศเหล่านี้เขาไม่ได้มีแต่เฉพาะว่าเขาต้องสัมพันธ์ทางการทูตนะ แต่เขาทำหน้าที่เป็นเสาหลักของค่ายเสรีประชาธิปไตยของโลก และในฐานะที่เป็นนักการทูต อยู่ในโลกใบเดียวกัน มันมีกติกามากมาย ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อประเทศเท่านั้น
แต่มันต้องรับผิดชอบต่อความสงบเรียบร้อยของโลก
รับผิดชอบต่อกติการะหว่างประเทศ
รับผิดชอบต่อปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
เคยเห็นไหม? ICCPR ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของพลเมืองทางการเมือง
หรือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ทั้งหมดนี้ประเทศต่าง ๆ ไปเซ็นมาแล้ว แต่บางประเทศไปเซ็นมาแล้วแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ อ้างว่านี่เป็นเรื่องภายใน
ดิฉันบอกได้เลยว่าในกรณีประเทศไทยที่มีการทำรัฐประหารมา และมีการใช้กติกาที่ขัดแย้งกับกฎบัตรต่าง ๆ ของสหประชาชาติ เพราะสิ่งต่าง ๆ ประกาศ คำสั่ง ที่ออกมามันขัดทั้งสิ้น แต่มันยังอยู่ได้ด้วยความอดทนของประชาชน และด้วยความเกรงใจของประเทศต่าง ๆ ก็เลยทำให้กต.เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
จริง ๆ แล้วถ้าคำนึงถึงปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศ อันนั้นคือสิ่งที่สำคัญสูงสุด เพราะฉะนั้นการอันใดที่มันขัดแย้งกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศ รวมถึงหลักการของสหประชาชาติ
เขามีสิทธิที่จะเข้ามาตรวจสอบแสดงความคิดเห็น และแม้กระทั่งแซงชั่นเลย ถามว่าคุณยังเข้าใจมั้ยว่าสหภาพยุโรปเขายังไม่ได้ปรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรปให้อยู่ในระดับปกตินะ สหรัฐด้วย
คุณอาจจะไปพบผู้นำเขา แต่การพบผู้นำกับการปรับความสัมพันธ์ในระดับปกติ หรืออย่างดีพิเศษนั้นยังไม่เกิดขึ้นเลย ในทางการทูตนั้นเขาถือว่าเป็นการลงโทษ หรือเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยทางการทูตอย่างรุนแรง
ดิฉันถือว่าการที่เขาไปในวันนั้น ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยทำ เพราะปกติมันจะมีการแซงชั่นอย่างรุนแรง อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นในเมียนมาร์ ถ้าคุณจำได้ เมียนมาร์ถูกประเทศค่ายเสรีประชาธิปไตยแซงชั่นอย่างรุนแรงมาก ตอนกักบริเวณอองซาน ซูจี
นั่นหมายความว่าเป็นการแสดงออกของประเทศค่ายเสรีประชาธิปไตยที่คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน คำนึงถึงปฏิญญาสากล คำนึงถึงกติการะหว่างประเทศ
หมายความว่าคุณจะอยู่เป็นสังคมโลกโดยคุณจะทุบตีคนในบ้านอย่างไรก็ได้งั้นหรือ? อย่าว่าแต่ตีคนเลย ตีหมู หมา กา ไก่ ก็เอาไปฟ้องร้องได้ แล้วกติกาที่ฟ้องร้องไม่ใช่กติกาในบ้านนะคะ เป็นกติกาของประเทศ
อันนี้ก็เหมือนกัน คุณบอกในประเทศผมมีกติกาอย่างนี้ แต่กติกาของโลกล่ะ อาจจะมีเพื่อนบ้านบางคนอาจจะไม่สนใจว่าเขาจะตีพ่อ ตีแม่ ตีหมู หมา กา ไก่ ให้ตายไปก็เป็นเรื่องของเขา แต่ว่ามีเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งบอกว่าทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ถึงจะเป็นพ่อเขา แม่เขา ลูกเขา หรือหมาของเขาก็ตาม แต่มันไม่ถูก แล้วคนที่ใช้อำนาจเกินเลยอย่างนี้มันเป็นอันตราย
ดังนั้นในทัศนะของดิฉันก็ถือว่า คุณต้องเข้าใจว่าประเทศนี้ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในโลก และสังคมโลกนั้นคุณต้องค้าขาย ต้องร่วมมือกับเขา ดังนั้นคดีความต่าง ๆ หลายอย่างที่คุณไปบังคับเขาให้ส่งคนบางคนเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาไม่ได้ เพราะเขาบอกว่ากติกาของคนประเทศผมไม่มี หรือผมไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นมันจึงมีผลต่อเศรษฐกิจ เขาอาจไม่อยากมาลงทุน หรือไม่มาเที่ยว มาค้าขายก็ได้
ดิฉันในฐานะประชาชน เรามีหน้าที่ตรวจสอบให้ภาครัฐของเราทำงานให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนให้มากที่สุด ในกรณีนี้รมว.กต.มาจากคสช. ที่มาของท่านเราก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่อย่างน้อยที่สุดควรจะมีเกียรติยศศักดิ์ศรีกต.ของไทย คือไม่ใช่ทำเชย ๆ ไปเรียกเขามาแบบนี้
ในขณะที่โฆษกสถานทูตสหรัฐ ระบุอุปทูตสหรัฐได้ไปพบเจ้าหน้าที่อาวุโสของกต.ตามคำเชิญ อย่างไรก็ดีสถานทูตสหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมฟังการพิจารณาคดีในกรณีที่ได้รับความสนใจอย่างสูงทั่วโลก เพื่อรับประกันว่าการดำเนินคดีจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและมีการเคารพหลักกฎหมาย
ซึ่งดิฉันจะเติมให้ว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกติการะหว่างประเทศด้วย
และเขาบอกว่านี่เป็นแนวปฏิบัติปกติในทางการทูต ถ้าอย่างนั้นแปลว่าใครไม่ปกติ? กต.ไทยซิคะที่ไม่ปกติ
ส่วนผู้แทนสหภาพยุโรปก็แถลงการณ์ว่า นี่เป็นการดำเนินการตามหลักปฏิบัติปกติทางการทูตที่ทำกันทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการยึดมั่นต่อสิ่งที่ถือเป็นมาตรฐานสากล การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้บ่งชี้ว่ามีการแทรกแซงทางการเมืองหรือสนับสนุนใครเป็นการเฉพาะ
ในทัศนะของดิฉันคิดว่ามันน่าเกลียดมาก ทำเหมือนเป็นกระทรวงอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่กระทรวงต่างประเทศ คุณไม่รู้หรือว่าเขาทำกันปกติ หรือว่าถูกบีบมาก็ต้องเต้นแล้วก็เรียกทูตมาก
เขาไม่ต้องการที่จะเลือกข้างว่าใครจะมีอำนาจทางการเมือง แต่เขาจะต้องเลือกข้างว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมตามมาตรฐานที่เป็นสากล และเป็นไปตามหลักการสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า? ไม่ใช่กรณีนี้เป็นกรณีแรกในประเทศไทยที่เขาไป ประเทศอื่น ๆ เขาก็ไปทำเช่นนี้
ลองคิดดูว่า ในขอบเขตพื้นที่ของสถานทูตนั้นถือว่าเป็นประเทศของเขา เขายังสามารถให้เป็นที่ลี้ภัย เป็นที่พักพิงของผู้ที่ถูกกระทำทางการเมืองได้ด้วย อะไรก็ตามที่ผิดหลักการเขาก็ช่วย ในอดีตสมัยเผด็จการอย่างฮิตเลอร์ ประเทศ สถานทูตและเจ้าหน้าที่ทูตจำนวนหนึ่งก็กล้าที่จะหลบซ่อนชาวยิว แม้กระทั่งทูตเยอรมันในประเทศอื่นก็มีการซ่อนผู้คนเอาไว้จำนวนหนึ่งเหมือนกัน เช่นกรณีญี่ปุ่นที่จะเข้าไปเรียกว่ามีการเข่นฆ่าประชาชน
เมื่อไหร่ที่มีการเข่นฆ่าประชาชน เมื่อไหร่ที่มีความอยุติธรรมเกิดขึ้น ประเทศและนักการทูตที่มีจิตใจต่อต้านเผด็จการการเข่นฆ่าที่ไม่เป็นธรรม ไม่แต่เพียงพยามยามที่จะไปแสดงตัวเพื่อเป็นหลักประกันว่าให้มีการดำเนินการอย่างยุติธรรม แต่ยังกระทำการในการที่จะให้ลี้ภัยด้วย นี่เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก
ดังนั้น กต.ไทยควรจะพิจารณาตัวเอง ไม่ว่าคุณจะถูกคำสั่งมาหรือไม่ก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่กต.ควรจะมีศักดิ์ศรี ควรจะมีองค์ความรู้ คุณไปดูประวัติศาสตร์การเมืองการทำงานของเจ้าหน้าที่ทางการทูตทั่วโลกเสียด้วยว่าเขาต่อต้านเผด็จการอย่างไร
และในกรณีนี้ ถ้าคุณถือว่าเป็นข้าราชการที่ต้องปฏิบัติตาม ก็ปฏิบัติได้ แต่ต้องปฏิบัติอย่างมีความรู้ มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติด้วย อย่าให้มันอายเขาอย่างกรณีนี้
เพราะฉะนั้นดิฉันจึงขอท้วงติงมาว่า รักษาหน้าประเทศไทย รักษาหน้าคนไทย คุณทำตามได้ แต่คุณต้องอธิบายให้ฟังว่า จริง ๆ ในโลกนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก
จากเวปไซต์กระทรวงการต่างประเทศโดยศูนย์ข่าวกต. ปรากฎว่ากต.เชิญเอกอัครราชทูตของประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์รับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวพรรคอนาคตใหม่ ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันเมื่อ 6 เม.ย. 62 มาเข้าพบรองปลัดกต. ผู้รับผิดชอบทวิภาคีที่กต.
และท่าทีของกต.ไทยก็คือ เรียกเขามาพบและได้แสดงความผิดหวัง ห่วงกังวลต่อการปรากฎตัวของผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศที่สถานีตำรวจปทุมวัน และก็เกิดภาพที่ตีความว่าเป็นการไปให้กำลังใจนายธนาธร เป็นการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในบริบทการเมืองไทยปัจจุบัน
อ้างว่าเป็นสิ่งที่เกินเลยภารกิจทางการทูต เข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายใน ละเมิดหลักปฏิบัติพันธกรณีทางการทูตภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต อ้างมาตรา 41 จึงขอให้สถานเอกอัครราชทูตดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
เอกอัครราชทูตและอุปทูตที่มาพบประกอบด้วย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ เบลเยียม และสหภาพยุโรป
อ.ธิดากล่าวว่า ดิฉันเข้าใจได้ทันทีว่า เรื่องของทางกต. ดิฉันไม่แน่ใจว่าเป็นวิธีคิดของกต.เองหรือของรมว.เอง หรือว่าได้รับการกดดันจากคสช. ซึ่งมีท่าทีไม่พึงพอใจการปรากฎตัวของเจ้าหน้าที่การทูตของประเทศต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว แล้วก็เลยไปบอกว่าเขาล้ำเส้น
ดิฉันให้ตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ในค่ายเสรีประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นเราจะไม่เห็นประเทศฝ่ายอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม แม้กระทั่งสิงคโปร์ แม้กระทั่งญี่ปุ่นด้วยซ้ำ แต่ประเทศที่เขามาแสดงตัวนี้เขามีปฏิบัติการคล้าย ๆ เป็นเสาหลักของค่ายเสรีประชาธิปไตย
เพราะฉะนั้น กต.ไทยคงไม่เข้าใจว่าประเทศเหล่านี้เขาไม่ได้มีแต่เฉพาะว่าเขาต้องสัมพันธ์ทางการทูตนะ แต่เขาทำหน้าที่เป็นเสาหลักของค่ายเสรีประชาธิปไตยของโลก และในฐานะที่เป็นนักการทูต อยู่ในโลกใบเดียวกัน มันมีกติกามากมาย ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อประเทศเท่านั้น
แต่มันต้องรับผิดชอบต่อความสงบเรียบร้อยของโลก
รับผิดชอบต่อกติการะหว่างประเทศ
รับผิดชอบต่อปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
เคยเห็นไหม? ICCPR ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของพลเมืองทางการเมือง
หรือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ทั้งหมดนี้ประเทศต่าง ๆ ไปเซ็นมาแล้ว แต่บางประเทศไปเซ็นมาแล้วแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ อ้างว่านี่เป็นเรื่องภายใน
ดิฉันบอกได้เลยว่าในกรณีประเทศไทยที่มีการทำรัฐประหารมา และมีการใช้กติกาที่ขัดแย้งกับกฎบัตรต่าง ๆ ของสหประชาชาติ เพราะสิ่งต่าง ๆ ประกาศ คำสั่ง ที่ออกมามันขัดทั้งสิ้น แต่มันยังอยู่ได้ด้วยความอดทนของประชาชน และด้วยความเกรงใจของประเทศต่าง ๆ ก็เลยทำให้กต.เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
จริง ๆ แล้วถ้าคำนึงถึงปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศ อันนั้นคือสิ่งที่สำคัญสูงสุด เพราะฉะนั้นการอันใดที่มันขัดแย้งกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศ รวมถึงหลักการของสหประชาชาติ
เขามีสิทธิที่จะเข้ามาตรวจสอบแสดงความคิดเห็น และแม้กระทั่งแซงชั่นเลย ถามว่าคุณยังเข้าใจมั้ยว่าสหภาพยุโรปเขายังไม่ได้ปรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรปให้อยู่ในระดับปกตินะ สหรัฐด้วย
คุณอาจจะไปพบผู้นำเขา แต่การพบผู้นำกับการปรับความสัมพันธ์ในระดับปกติ หรืออย่างดีพิเศษนั้นยังไม่เกิดขึ้นเลย ในทางการทูตนั้นเขาถือว่าเป็นการลงโทษ หรือเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยทางการทูตอย่างรุนแรง
ดิฉันถือว่าการที่เขาไปในวันนั้น ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยทำ เพราะปกติมันจะมีการแซงชั่นอย่างรุนแรง อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นในเมียนมาร์ ถ้าคุณจำได้ เมียนมาร์ถูกประเทศค่ายเสรีประชาธิปไตยแซงชั่นอย่างรุนแรงมาก ตอนกักบริเวณอองซาน ซูจี
นั่นหมายความว่าเป็นการแสดงออกของประเทศค่ายเสรีประชาธิปไตยที่คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน คำนึงถึงปฏิญญาสากล คำนึงถึงกติการะหว่างประเทศ
หมายความว่าคุณจะอยู่เป็นสังคมโลกโดยคุณจะทุบตีคนในบ้านอย่างไรก็ได้งั้นหรือ? อย่าว่าแต่ตีคนเลย ตีหมู หมา กา ไก่ ก็เอาไปฟ้องร้องได้ แล้วกติกาที่ฟ้องร้องไม่ใช่กติกาในบ้านนะคะ เป็นกติกาของประเทศ
อันนี้ก็เหมือนกัน คุณบอกในประเทศผมมีกติกาอย่างนี้ แต่กติกาของโลกล่ะ อาจจะมีเพื่อนบ้านบางคนอาจจะไม่สนใจว่าเขาจะตีพ่อ ตีแม่ ตีหมู หมา กา ไก่ ให้ตายไปก็เป็นเรื่องของเขา แต่ว่ามีเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งบอกว่าทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ถึงจะเป็นพ่อเขา แม่เขา ลูกเขา หรือหมาของเขาก็ตาม แต่มันไม่ถูก แล้วคนที่ใช้อำนาจเกินเลยอย่างนี้มันเป็นอันตราย
ดังนั้นในทัศนะของดิฉันก็ถือว่า คุณต้องเข้าใจว่าประเทศนี้ไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในโลก และสังคมโลกนั้นคุณต้องค้าขาย ต้องร่วมมือกับเขา ดังนั้นคดีความต่าง ๆ หลายอย่างที่คุณไปบังคับเขาให้ส่งคนบางคนเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาไม่ได้ เพราะเขาบอกว่ากติกาของคนประเทศผมไม่มี หรือผมไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นมันจึงมีผลต่อเศรษฐกิจ เขาอาจไม่อยากมาลงทุน หรือไม่มาเที่ยว มาค้าขายก็ได้
ดิฉันในฐานะประชาชน เรามีหน้าที่ตรวจสอบให้ภาครัฐของเราทำงานให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนให้มากที่สุด ในกรณีนี้รมว.กต.มาจากคสช. ที่มาของท่านเราก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่อย่างน้อยที่สุดควรจะมีเกียรติยศศักดิ์ศรีกต.ของไทย คือไม่ใช่ทำเชย ๆ ไปเรียกเขามาแบบนี้
ในขณะที่โฆษกสถานทูตสหรัฐ ระบุอุปทูตสหรัฐได้ไปพบเจ้าหน้าที่อาวุโสของกต.ตามคำเชิญ อย่างไรก็ดีสถานทูตสหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมฟังการพิจารณาคดีในกรณีที่ได้รับความสนใจอย่างสูงทั่วโลก เพื่อรับประกันว่าการดำเนินคดีจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและมีการเคารพหลักกฎหมาย
ซึ่งดิฉันจะเติมให้ว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกติการะหว่างประเทศด้วย
และเขาบอกว่านี่เป็นแนวปฏิบัติปกติในทางการทูต ถ้าอย่างนั้นแปลว่าใครไม่ปกติ? กต.ไทยซิคะที่ไม่ปกติ
ส่วนผู้แทนสหภาพยุโรปก็แถลงการณ์ว่า นี่เป็นการดำเนินการตามหลักปฏิบัติปกติทางการทูตที่ทำกันทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการยึดมั่นต่อสิ่งที่ถือเป็นมาตรฐานสากล การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้บ่งชี้ว่ามีการแทรกแซงทางการเมืองหรือสนับสนุนใครเป็นการเฉพาะ
ในทัศนะของดิฉันคิดว่ามันน่าเกลียดมาก ทำเหมือนเป็นกระทรวงอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่กระทรวงต่างประเทศ คุณไม่รู้หรือว่าเขาทำกันปกติ หรือว่าถูกบีบมาก็ต้องเต้นแล้วก็เรียกทูตมาก
เขาไม่ต้องการที่จะเลือกข้างว่าใครจะมีอำนาจทางการเมือง แต่เขาจะต้องเลือกข้างว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมตามมาตรฐานที่เป็นสากล และเป็นไปตามหลักการสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า? ไม่ใช่กรณีนี้เป็นกรณีแรกในประเทศไทยที่เขาไป ประเทศอื่น ๆ เขาก็ไปทำเช่นนี้
ลองคิดดูว่า ในขอบเขตพื้นที่ของสถานทูตนั้นถือว่าเป็นประเทศของเขา เขายังสามารถให้เป็นที่ลี้ภัย เป็นที่พักพิงของผู้ที่ถูกกระทำทางการเมืองได้ด้วย อะไรก็ตามที่ผิดหลักการเขาก็ช่วย ในอดีตสมัยเผด็จการอย่างฮิตเลอร์ ประเทศ สถานทูตและเจ้าหน้าที่ทูตจำนวนหนึ่งก็กล้าที่จะหลบซ่อนชาวยิว แม้กระทั่งทูตเยอรมันในประเทศอื่นก็มีการซ่อนผู้คนเอาไว้จำนวนหนึ่งเหมือนกัน เช่นกรณีญี่ปุ่นที่จะเข้าไปเรียกว่ามีการเข่นฆ่าประชาชน
เมื่อไหร่ที่มีการเข่นฆ่าประชาชน เมื่อไหร่ที่มีความอยุติธรรมเกิดขึ้น ประเทศและนักการทูตที่มีจิตใจต่อต้านเผด็จการการเข่นฆ่าที่ไม่เป็นธรรม ไม่แต่เพียงพยามยามที่จะไปแสดงตัวเพื่อเป็นหลักประกันว่าให้มีการดำเนินการอย่างยุติธรรม แต่ยังกระทำการในการที่จะให้ลี้ภัยด้วย นี่เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก
ดังนั้น กต.ไทยควรจะพิจารณาตัวเอง ไม่ว่าคุณจะถูกคำสั่งมาหรือไม่ก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่กต.ควรจะมีศักดิ์ศรี ควรจะมีองค์ความรู้ คุณไปดูประวัติศาสตร์การเมืองการทำงานของเจ้าหน้าที่ทางการทูตทั่วโลกเสียด้วยว่าเขาต่อต้านเผด็จการอย่างไร
และในกรณีนี้ ถ้าคุณถือว่าเป็นข้าราชการที่ต้องปฏิบัติตาม ก็ปฏิบัติได้ แต่ต้องปฏิบัติอย่างมีความรู้ มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติด้วย อย่าให้มันอายเขาอย่างกรณีนี้
เพราะฉะนั้นดิฉันจึงขอท้วงติงมาว่า รักษาหน้าประเทศไทย รักษาหน้าคนไทย คุณทำตามได้ แต่คุณต้องอธิบายให้ฟังว่า จริง ๆ ในโลกนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก