สองแนวความคิดของคนเกี่ยวกับรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งว่า
“มี” หรือ “ไม่มี” ก่อนพระราชพิธี ในการทำ Facebook Live ของ อ.ธิดา
ถาวรเศรษฐ วันนี้ (4 ม.ค. 62) ได้กล่าวว่า ถ้าดูปฏิกิริยาของประชาชนในสังคมจะพบว่าประชาชนและพรรคการเมืองไม่อยากให้เลื่อนการเลือกตั้ง
แต่มีคนจำนวนหนึ่งคิดว่าควรจะเลื่อนโดยฟังเหตุผลของนายวิษณุ เครืองาม
ซึ่งนายวิษณุเป็นตัวแทนของรัฐบาลที่ออกมาอธิบายทางเทคนิคกฎหมาย
ฟังดูเหมือนมีความชอบธรรม โดยอ้างกฎหมาย-รัฐธรรมนูญ แล้วเอาปฏิทินการเลือกตั้งเข้ามาจัดและมีความเชื่อมั่นมาก
และรัฐบาลให้นายวิษณุไปเคลียร์กับกกต. ว่ากกต.จะตัดสินใจอย่างไร
ขณะเดียวกันก็มีการชี้นำว่าสมควรที่จะเลื่อนการเลือกตั้งเพื่อจะไม่ให้ทับซ้อน...หรืออย่างไร
การชี้นำชี้แนะรอบแรกดูเหมือนว่ากกต.คิดว่าทำได้ภายในกรอบเวลาหรืออาจขยับให้เร็วขึ้นได้
จึงสามารถเป็นไปได้ที่เราจะมีรัฐบาลใหม่ทันวันที่ 4-6 พ.ค. นี่คือความตั้งใจเดิมของกกต.
แต่นายวิษณุมาอธิบายใหม่ว่ายังมีขั้นตอนตามหลักราชประเพณีที่ต้องทำก่อน-ระหว่าง-หลังวันที่
4-6 พ.ค. ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของกกต.ที่จะเป็นผู้เสนอวันเลือกตั้ง
อ.ธิดากล่าวว่า
มันอยู่ที่แนวความคิดว่า “มี” หรือ “ไม่มี” รัฐบาลใหม่ก่อนพระราชพิธีฯ
เลือกตั้งนั้นมีแน่! และมีความเป็นไปได้ถ้ากกต.ประกาศผลการเลือกตั้งได้กลางเม.ย.
ก็คือมีส.ส.เต็ม และในช่วงระหว่างเวลานั้นก็สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ทัน
ถ้าแนวความคิดที่เห็นว่าควรจะมีส.ส. มีรัฐบาล มีนายกฯ ใหม่ มีประธานสภาฯ ใหม่ในงานพระราชพิธีฯ
เขาก็ไม่อยากให้เลื่อนการเลือกตั้ง มีแต่จะทำให้เวลากระชับขึ้น ถ้าเป็นไปตามกรอบนี้ก็เป็นแนวความคิดที่ว่า
“ไม่เลื่อนการเลือกตั้ง”
แปลว่าจะมีรัฐบาลใหม่และคสช.จะไม่ปรากฎตัวในวันที่มีพระราชพิธีฯ
แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนที่คิดว่าต้องให้รัฐบาลคสช.และพล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้จัดพระราชพิธี
ก็คือต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปซิคะ ให้พระราชพิธีฯ เสร็จ แล้วค่อยมีรัฐบาลใหม่
ในทัศนะของอ.ธิดาเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากได้รัฐบาลใหม่
การถวายพระเกียรติยศโดยรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งน่าจะมีความสำคัญยิ่งไปกว่าการเกรงว่ากระบวนการในพระราชพิธีฯ
จะทับซ้อนกับการเลือกตั้ง
แต่อ.ธิดาตั้งข้อสังเกตว่าทั้งหมดนี้ก็ต้องรอพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจะมาเมื่อไหร่
ขณะนี้ยังออกไม่ได้ ฉะนั้นกกต.ก็ต้องเตรียมว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งมาเมื่อไหร่
แล้วจะทำได้หรือไม่ให้อยู่ในกรอบเดิม ซึ่งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาบอกว่าไม่ควรเลื่อนเกิน
2 สัปดาห์ ซึ่งอ.ธิดาก็เห็นด้วย
การเตรียมพร้อมการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม
การเตรียมงานของกกต. และแสวงหาความร่วมมือจากพรรคการเมือง จากประชาชนหรือองค์กรเอกชนให้มาช่วยกันจับตาในการทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันไม่ฟรีและไม่แฟร์มาตั้งแต่ต้น ที่สำคัญคนของกกต.เองต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ผลการเลือกตั้งสามารถจบได้ในเวลาไม่จำเป็นต้องถึง 2 เดือน ทำให้ทุกอย่างราบรื่นโดยไม่ต้องเลื่อนการเลือกตั้งหรือถ้าจะเลื่อนก็เลื่อนให้สั้นที่สุด
มันก็จะเป็นเกียรติประวัติของกกต.ชุดนี้
สำหรับนายวิษณุในทัศนะของอ.ธิดานั้น
ในฐานะเนติบริกรที่รับใช้ได้ทั้ง 2
ระบอบคือรับใช้ได้ในระบอบประชาธิปไตยในยุคดร.ทักษิณเป็นรัฐบาล
และรับใช้ระบอบรัฏฐาธิปัตย์ที่มาจากการยึดอำนาจ อ.ธิดากล่าวต่อไปว่า “คน”
ต้องมีแนวคิด มีอุดมการณ์
และนี่คือปัญหาสังคมไทยที่ปัญญาชนและเทคโนแครตไม่ได้มีแนวคิดอุดมการณ์ที่ชัดเจน ไม่มีจุดยืน
พร้อมที่จะเป็นเครื่องมือของระบอบอะไรก็ได้ ประหนึ่งไม่มีชีวิต ไม่มีหัวใจ!!!
ซึ่งผิดกับปัญญาชนในโลก
สังคมไทยต้องเรียนรู้ว่าเราจะไว้วางใจปัญญาชนและเนติบริกรไม่ได้
ผู้คนต้องเรียนรู้กฎหมายด้วยเพื่อต่อสู้กับเนติบริกรที่รับใช้ระบอบอื่น อ.ธิดากล่าว