กติกาไม่ได้ออกแบบเพื่อพวกเรา!!! ณัฐวุฒิ แจงย้ายสังกัดไป 'ไทยรักษาชาติ' เป้าหมายมุ่งสู่ 'ประชาธิปไตย' ในเส้นทางที่ยังต้องสู้ 'เผด็จการ' ปัดขัดแย้ง 'พรรคเพื่อไทย' ยืนยันรักผูกพันไม่เสื่อมคลาย
'ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวพร้อม 'จาตุรนต์ ฉายแสง' อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ภายหลังเดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) วันนี้ (19 พ.ย. 61) พร้อมอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน โดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคทษช. อดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ร่วมต้อนรับและร่วมในการแถลงต่อสื่อมวลชน
'ณัฐวุฒิ' เริ่มต้นปล่อยมุขฮาเนื่องจากว่าการแถลงข่าวทั้ง 3 คนต้องใช้ไมค์ตัวเดียวกัน จากนั้นได้อธิบายเหตุผลที่ย้ายมาพรรคทษช.
'นี่ก็เป็นรหัสสัญญาณนะครับว่าพรรคทษช.เราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะว่าขนาดมีไมค์ 3 ตัว ยังเลือกที่จะใช้ไมค์อันหนึ่งอันเดียวกัน (เสียงหัวเราะจากสื่อมวลชนและผู้ร่วมการแถลงข่าว)
ท่านหัวหน้าพรรค ท่านกรรมการบริหาร ตลอดจนเพื่อนมิตรสื่อมวลชนที่เคารพครับ วันนี้ผมจะขออนุญาตได้เล่าความในใจ อธิบายเหตุผลที่มาและที่ไปสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกพรรคทษช. และจะร่วมภารกิจทางการเมืองกันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่านการเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้ง จนกว่าบ้านเมืองจะกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตย
ผมมีความรู้สึกเดียวกันกับท่านจาตุรนต์นะครับ ตลอดเวลาที่ร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย มีแต่ความรัก ความผูกพัน ความอบอุ่นจนถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกดีไม่เสื่อมคลายในทุกก้าวย่างที่ได้เดินร่วมทางกับพรรคเพื่อไทย
เป็นแต่เพียงว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังคงเป็นสถานการณ์การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างฝ่ายเผด็จการกับฝ่ายประชาธิปไตย ภาระหน้าที่ของผมที่ได้ให้คำสัตย์ไว้กับพี่น้องประชาชนผู้ร่วมอุดมการณ์และประกาศต่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกกลุ่มทุกฝ่าย ก็คือ จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างถึงที่สุด โดยสันติวิธี
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ดังกล่าวก็ได้มาขบคิดปรึกษาหารือกับเพื่อนมิตรผู้ร่วมอุดมการณ์ว่าภายใต้บริบททางการเมืองเช่นนี้ ภายใต้กติกาของการเลือกตั้งแบบนี้ และภายใต้สิ่งที่สังคมไทยทุกพรรคทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นหรือหมุดหมายอันสำคัญในการจะชี้ทิศทางของสังคมไทย ว่าจะเดินไปในเส้นทางสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร หรือจะตั้งต้นและช่วยกันผลักดันไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง
จากการได้ปรึกษาหารือกัน เราเห็นตรงกันครับว่าด้วยเหตุที่กติกานี้ไม่ได้ถูกออกแบบไว้เพื่อพวกเรา พวกเราจึงจำเป็นต้องออกแบบการต่อสู้ของเราเองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกติกาและเอาชนะการสืบทอดอำนาจเผด็จการโดยสันติ ผ่านการตัดสินใจของประชาชน เมื่อตัดสินใจกันอย่างนี้ ก็ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคทษช.
พวกเขาอธิบายว่าเขาก็มองเห็นภาพเดียวกัน แล้วก็เชิญชวนพวกผมให้เข้าร่วมงานทางการเมือง ให้ประกาศยืนยันเจตนารมณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแล้วเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง
เราก็เห็นว่านี่คืออีก 1 โอกาส นี่คืออีก 1 แนวทาง และนี่น่าจะเป็นเส้นทางที่พลังความสามารถหรือประสบการณ์ทั้งหมดที่พวกผมมีจะเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสถานการณ์ที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เรียกร้องต้องการประชาธิปไตย
เราก็เลยเดินมาที่พรรคทษช.โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีคำถาม ว่าพวกผมจะต้องมีสถานะใดในพรรค ไม่มีข้อเรียกร้องว่าพวกผมจะต้องเป็นผู้สมัคร มีเพียงสิ่งเดียวที่ขอคำมั่นกันไว้ ก็คือพรรคทษช.จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงหลักการ ถ้าพูดกันว่าเราจะชวนกันเดินไปสู่ประชาธิปไตย ก็จะต้องยืนยันเช่นนี้ตลอดไป ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคบอกว่านั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเขาตลอด
ผมเรียนท่านสื่อมวลชนนะครับว่า หลังจากตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ผม ตลอดจนเพื่อมิตรผู้ร่วมอุดมการณ์ก็จะขอปวารณาตัวในการปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการบริหารหรือคณะทำงานชุดต่าง ๆ ของพรรคมอบหมาย
เราหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวสารอยู่จะให้โอกาสพรรคทษช. แม้ว่าจะเป็นพรรคน้องใหม่ แต่จิตวิญญาณคงเดิม ทิศทางและเป้าหมายการต่อสู้ยังเหมือนเดิม ผมชอบคำหนึ่งครับว่า พรรคทษช.เป็นพรรคของคนที่มีความคิดทันสมัย คำนี้มันอธิบายว่าที่นี่จะเป็นศูนย์รวมของคนทุกเพศทุกวัย และคำว่าความคิดทันสมัยมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับที่เป็นไปได้ คือความคิดนั้นต้องยืนอยู่บนรากฐานของความเป็นประชาธิปไตย เมื่อใดก็ตามที่ความคิดไม่ได้ยืนอยู่บนรากฐานของความเป็นประชาธิปไตย นั่นคือความคิดล้าสมัย นั่นคือความคิดตกยุค ซึ่งพวกผมมิอาจร่วมทางด้วยได้
หลังจากวันนี้หากมีเรื่องราว มีเนื้อหาสาระที่จะสื่อสารในนามพรรคทษช. ก็คงจะได้พูดคุยกับท่านสื่อมวลชนต่อไป แต่จะรอภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากทางพรรคอย่างชัดเจนเสียก่อนครับ ขอบคุณครับ 'ณัฐวุฒิ' กล่าว