วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ถอดคำให้สัมภาษณ์ "จตุพร" จะเกิดอะไรขึ้นหากรวมพลคนใส่เสื้อแดง"


ถอดคำให้สัมภาษณ์ "จตุพร" ในรายการ THAIS VOICE โดย คุณจอม  เพชรประดับ ได้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2558 ผ่านทาง Skype ในประเด็น "จะเกิดอะไรขึ้นหากรวมพลคนใส่เสื้อแดง 1 พ.ย. นี้"  ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

จอม : สวัสดีครับ  ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการเสียงไทยเพื่อเสรีภาพของคนไทยนะครับ   วันที่ 1 พ.ย. ที่จะถึงนี้มวลชนคนเสื้อแดงทั่วประเทศก็จะมีการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง  ในเรื่องของการใส่เสื้อสีแดงพร้อมกัน เหมือนกัน  หรือไม่อย่างไร?  ประเด็นนี้ก็กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่  เพราะว่ามวลชนเสื้อแดงบางคนหรือบางกลุ่มนั้นต้องการที่จะใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. นี้เพื่อที่จะแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง  เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสันติ  และเพื่อให้กำลังใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าวด้วย  

ในขณะที่ทางคนเสื้อแดงบางกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางแกนนำ นปช. หลายคนนะครับ  คุณจตุพร  พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เองก็ออกมาแสดงความเป็นกังวลการที่คนเสื้อแดงจะมีการนัดชุมนุมและใส่เสื้อแดงพร้อมกันในวันที่ 1 พ.ย.นี้  อาจจะตกเป็นเหยื่อของฝ่ายตรงข้ามที่อาจจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อที่จะใส่ร้ายหรือป้ายความผิดให้กับคนเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่งหรือไม่  

แต่ว่าในข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้นะครับ  เป้าหมายอันเดียวกันก็คือการที่จะปกป้องและให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  รวมทั้งการแสดงออกทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งนะครับ  

เมื่อสองสามวันก่อนทาง THAIS VOICE MEDIA ก็ได้สัมภาษณ์ตัวแทนของมวลชนคนเสื้อแดงบางท่านไปแล้วก็คือคุณฟอร์ด เส้นทางสีแดง คุณอนุรักษ์  เจนตวนิชย์  เขาก็ยืนยันที่จะใส่เสื้อแดงเพื่อที่จะให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ต่อไป  ในขณะที่ทาง นปช. เองก็กังวลเรื่องนี้  วันนี้เราจะมาคุยกับทางประธาน นปช. คุณจตุพร  พรหมพันธุ์ ว่ามีแนวคิดอะไรหรืออะไรเป็นข้อกังวลในการที่จะใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. นี้ พูดคุยผ่านทาง Skype  สวัสดีครับคุณจตุพรครับ  สวัสดีครับ

จตุพร  :  สวัสดีครับคุณจอม  เพชรประดับ

จอม  :  ขอบคุณมากที่ให้เกียรติร่วมรายการนะครับ  เสื้อแดงที่ต้องการใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. นี้เขาบอกว่าก็ใส่อยู่แล้วไง  ทุกวันอาทิตย์เขาก็ใส่อยู่แล้วเป็นปกติ  ใส่ออกมาก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน  แต่สิ่งที่คุณจตุพรกังวลคือเรื่องอะไรครับ

จตุพร  :  คือประเด็นเนี่ยนะครับ  พี่น้องเสื้อแดงที่ใส่เสื้อแดงเป็นปกติเขาก็ไม่มีปัญหาอะไรมาตั้งแต่ต้น  ในส่วนแกนนำเนื่องจากว่ามาจัดรายการโทรทัศน์ กสทช. ก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งว่าอย่าใส่เสื้อแดงออกอากาศ  มิฉะนั้นจะไม่ให้ออก  แต่ว่าเหตุการณ์ที่มีการนัดหมายกันในวันที่ 1 พ.ย. นี้  เนื่องจากว่ามันเป็นการนัดโดยใช้วิธีการปล่อยข่าวซึ่งไม่รู้ตัวตน  

ประเด็นต่อมาก็คือว่า  ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2548, 2549 จนกระทั่ง 2558 เราเจอกับดักมากมาย  คือถ้าฟังแบบปกติกันมานั้นผมไม่ได้ห้ามเรื่องการใส่เสื้อแดง  เพียงแต่ว่าการประโคมโหมข่าวนั้นมันจะไปสอดรับในการสร้างสถานการณ์ของบางฝ่าย  นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้พูดว่าได้แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ ให้เป็นหัวหน้าคณะปราบมาเฟียและอาวุธสงคราม  และพูดหลุดมาว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว  (สัญญาณกระตุกฟังไม่ได้ใจความ)  ประมาณนี้นะครับ พล.อ.ประวิตรก็เข้าเป้าเลยว่าจะเป็นเรื่องอาวุธสงครามคือปืนทราโว่ที่หายไปในเหตุการณ์ปี 53  คือพูดง่าย ๆ ว่าสารตั้งต้นในวันที่ 22 นี้มันไม่ใช่เสื้อแดงจริง ๆ ที่อยู่กับบ้านหรือใช้ชีวิตไปทำงาน  ออกไปกินข้าว  ใช้ชีวิตตามปกติ

จอม  :  หมายถึงว่าใส่ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ใช่มั้ยครับ

จตุพร  :  ครับ  เพราะว่าถ้าประโคมโหมข่าวสอดรับกันมา  จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์พุ่งเป้าเข้าใส่บรรดาแกนนำจะต้องรับผิดชอบเลย  ผมไม่ได้ห่วงเรื่องความรับผิดชอบ

จอม  :  พล.อ.ประยุทธ์ก็พูดอย่างนี้มาตั้งแต่ปฏิวัติใหม่ ๆ แล้วไม่ใช่เหรอฮะ  ถ้ามีอะไรออกมา

จตุพร  :  ไม่ใช่แบบเน้นหนักครั้งนี้  คือผมเองก็เห็นว่าตั้งแต่ปี 52, 53 ตั้งแต่เหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย  ภาพทุบรถที่อ้างว่านายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพอยู่ข้างในนั้น  คนที่ทุบรถทั้งหมดถูกออกหมายจับหมด  แต่จับไม่ได้แม้แต่เพียงรายเดียว  เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาบอกกับผมว่าจับไม่ได้เพราะเป็นทหาร  เวลาเมื่อมี 52 เวลาที่เขาจะจัดการกับพวกเรานั้น  อยู่ดี ๆ ใช้ศูนย์บัญชาการอยู่ที่ ร.1  แต่ดันจะมาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มหาดไทย  ไปอ่านสรรพเสร็จอะไรเสร็จแล้วก็ให้คนโทรมาหาแกนนำของเราคนหนึ่ง  เพื่อที่จะบอกว่านายกรัฐมนตรี, รองนายกฯ, รมว.กลาโหมมาที่มหาดไทย  ก็ท้ายที่สุดเมื่อคนเสื้อแดงไปก็ปรากฏว่าเสื้อแดงที่ไหนก็ไม่รู้รออยู่เต็มกระทรวงมหาดไทยแล้ว  

ฉะนั้นเราเองก็ต้องชี้แจงกับสังคมกันมาเป็นระยะเวลานานเรื่องความรุนแรง  แต่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดเลยว่าภาพคนทุบรถทั้งหมดถูกออกหมายจับ  จับไม่ได้แม้แต่เพียงรายเดียว  นี่ไม่นับหลากหลายนะครับว่าหลายเหตุการณ์ที่มีคนไปสร้างแล้วก็ใส่ภาพคนเสื้อแดง  แม้กระทั่งการถ่ายคลิปในเหตุการณ์แล้วก็บรรยายเป็นฉาก ๆ ๆ  หรือแม้แต่กระทั่งเอาภาพชายชุดดำวันที่ 10 เม.ย. 53  ไม่มีคนไทยทราบเลยว่า DSI เขาไปสอบสำนักข่าวอัลจาชีร่าจนกระทั่งไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุ  ไอ้พื้นที่เกิดเหตุมันไม่ตรงกับภาพชายชุดดำ  พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการแต่งสรรกันมา  หลายเหตุการณ์เราถูกซ้อนกันมาโดยตลอด  ผมเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องขึ้นศาลหลายคดีมาก  และเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้เราได้มีการเข้าไปรื้อค้นมากมาย  เราเองก็เห็นกันแล้ว  ขนาดไปงมอาวุธในสระน้ำวัดปทุมวนารามได้  และแม้กระทั่งการตราหน้าคนเสื้อแดงที่ถูกฆ่าตายว่าเป็นผู้ก่อการร้ายทั้งที่ไม่มีอาวุธแม้แต่เพียงชิ้นเดียวอยู่ในมือ  ไม่มีเขม่าดินปืนเลย

การใช้ชีวิตปกติของพี่น้องเสื้อแดงเขาไม่เป็นปัญหา  เขาใช้ชีวิต  คนใส่เสื้อแดงกันมาก็มาหาพวกเราที่สำนักงานก็เป็นปกติ  ใช้ชีวิตเป็นปกติ  ทีมฟุตบอลของผมที่เตะกันก็ใส่เสื้อแดงตั้งแต่ยึดอำนาจก็เป็นปกติ  แต่ว่ามันไม่ใช่การประโคมโหมข่าวในขณะนี้  การประโคมโหมข่าวนำไปสู่การสร้างสถานการณ์แล้วก็ยัดเยียดอย่างที่เคยทำ

จอม  :  ถ้ามันมีกลุ่มไหนออกมาแล้วก็แสดงกิจกรรมหรือทำอะไรที่มันเป็นการจะไปทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น  ประกาศในทันทีตอนนี้ว่าคนกลุ่มนั้นไม่ใช่คนเสื้อแดงเหรอฮะ ในวันที่ 1 พ.ย.

จตุพร  :  ผมเอง  ความที่เห็นตัวตนกันหมด  ใคร  ตรงไหน  อย่างไร  ที่ผ่านมาถ้าคนเสื้อแดงที่เขารับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตามทำอะไรเขาประกาศรับผิดชอบเอง  มันจะไม่เป็นปัญหา  แต่ว่าเหตุการณ์นี้มันไม่รู้ว่าใครนัด  เมื่อไม่รู้ใครนัด  ผมยกตัวอย่างกรณีคุณฟอร์ดที่ว่า  ผมเพียงแค่บอกว่าถ้าจะนัดผมจะนัดเอง  ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไม่รู้มานัดให้  ก็ไปแปลงว่าคุณมีสิทธิอะไรจะมาสั่งผม  ผมต้องขออนุญาตกับคุณ  ผมบอกว่าคุณไม่ต้องขออนุญาตผมหรอก  คุณปั่นจักรยานขึ้นเวทีพันธมิตรคุณก็ไม่เคยขออนุญาตเพราะว่าคุณก็ไม่เคยเอากับผมมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว  แต่ผมเองพูดง่าย ๆ ว่าเข้าใจสภาพความเป็นอยู่อยู่แล้ว  แต่เหตุการณ์ที่เราไม่สามารถที่จะตามใจอะไรใครกันได้นั้นเพราะเราเองก็เห็นว่าพวกโน้นมันเตรียมการที่จะทำอะไรกันอยู่

จอม  :  มีเสียงสะท้อนออกมาบอกว่า  นี่เป็นการกลัวที่เกินเหตุไปหรือเปล่า  หรือเป็นการวิเคราะห์ในเชิงที่เป็นลบไปหรือเปล่า อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ครับ

จตุพร  :  คุณจอม  เพชรประดับ เข้าใจว่าผมกลัวเหรอ  ผมเนี่ย 40 กว่าคดีนะ  และผมเองพูดง่าย ๆ ว่าอยู่จนวินาทีสุดท้ายของสนามรบและหลังเหตุการณ์ผมก็อยู่พร้อมรับชะตากรรมทุกอย่างอยู่แล้ว  ไม่ใช่เรื่องความขลาดกลัว  แต่เป็นเรื่องของความเท่าทัน  คือเราต้องยอมรับสภาพความเป็นจริง  เสื้อแดงเกิน 90% พี่น้องฟังแล้วก็มีความเข้าใจ  ประเภทที่ท่องอยู่ในโลก Social Media ก็ไปเปลี่ยนคำพูดผม  ผมถือว่ามันไม่แฟร์มาก  ผมบอกว่าใครไม่รู้มานัด  ซึ่งถ้าเรารับนัดตามที่ใครไม่รู้มานัดแสดงว่ามันมีปัญหาแล้ว  เพราะฉะนั้นถ้าจะนัดเรานัดเอง  ไปแปลงคำเลยว่าคุณจะมาสั่งผมได้อย่างไร  ทั้งที่ผมเป็นองค์กร นปช. ก็ไม่เคยสั่งใครกันอยู่แล้ว  เพราะว่ามันเป็นองค์กรที่ให้อำนาจผลประโยชน์กับใครไม่ได้  เพียงแต่ให้ความรู้สึกกันได้อย่างเดียว  แล้วผมเองต้องรับผิดชอบ  ไม่ใช่กลัวว่าที่พล.อ.ประยุทธ์มาชี้  แต่ความที่ผมสู้กับเขามายาวนานไง  พอเขาหลุดมาดี ๆ ว่าตั้งคณะปราบปรามอาชญากรรม  แล้วอยู่ดี ๆ พูดบอกว่าไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหว  หมายความว่าอย่างไร? ไม่มีใครไปถามก็หลุดนะ  ท้ายที่สุดประวิตรก็เลี้ยวมาตรงเลย  ก็บอกเลยว่าเรื่องอาวุธสงครามปืนทราโว่เหตุการณ์ปี 53 

เพราะฉะนั้น  การปฏิบัติการ IO ตลอดเวลา  ผมเนี่ยกำหนดพูดง่าย ๆ บอกพรรคพวกชี้เส้นทางคอยดูมันจะไปอย่างนี้  แต่คนบางคนซึ่งผมเองก็เห็นว่า  บางคนไม่เคยรู้จักหน้าค่าตาที่โพสต์วิพากษ์วิจารณ์กันสาดเสียเทเสีย  แต่ผมก็บอกพรรคพวกว่าไม่มีปัญหาอะไร  แล้วก็มีซีรีย์ 2, 3, 4 กัน  นี่ตลอดระยะเวลา 10 ปีมันก็เป็นแบบนี้กัน

จอม  :  นั่นหมายถึงว่าวันที่ 1 พ.ย. ถ้ามีกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมแล้วก็มีการสร้างเหตุการณ์ขึ้น ณ จุดใดจุดหนึ่งในประเทศไทย  จะประกาศไว้เลยตอนนี้ไหมครับว่าคนกลุ่มนั้นไม่ใช่คนเสื้อแดง

จตุพร  :  ผมเองเอาแฟร์ ๆ ว่า  ถ้าเป็นคนเสื้อแดงจริงประกาศตัวตน  แต่ว่าประเภทไม่รู้จักชื่อ  ไม่รู้จักหน้า  ไม่รู้จักองค์กร  สมมุตินะ  ขณะนี้ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กำลังสู้คดีจำนำข้าว  เกิดไอ้บ้าที่ไหนจัด SET UP กันมาแล้วบุกไป ป.ป.ช. ไปทุบข้าวของพังแล้วก็เอาอาศัยเหตุการณ์นี้ ซีกรัฐบาลเขาใช้คำสั่งทางปกครองเลย  เพราะเอาเรื่องภาพเหล่านี้มากลบเรื่องราว

ผมยกตัวอย่างให้ฟังอีกเรื่อง  ตอนที่มีการพิจารณาคดีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชั้น ป.ป.ช. ผมเตือนพี่น้องเลยว่าอย่าให้ไปที่ ป.ป.ช. เพราะขณะนั้นเขาไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่จะเล่นงานได้อยู่แล้ว  แต่ทันทีที่ไป ป.ป.ช. มีภาพล้อม  วิชา  มหาคุณ ก็เอาเรื่องนี้เป็นหลักเลย  เอาข้อหาที่เกี่ยวข้องกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นรอง  เวลาอธิบายก็อธิบายมุมของการถูกล้อมแทบเอาชีวิตไม่รอด  ทั้งที่เขากำลังจะจวนตัวแล้ว  เวลานี้ก็เหมือนกัน  ทั้งรองฯ วิษณุกับ ป.ป.ช. ก็กำลังจะจวนตัวว่ากรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นรายแรกรายเดียวของประเทศไทยตั้งแต่ตั้งกันมานั้นทำกันได้อย่างไร  และผลลัพธ์สุดท้ายทุกครั้งที่ผมแสดงความกังวลนั้นมันก็เป็นอย่างที่ผมพูดเอาไว้ทุกประการ  ลองไปย้อนดูซิครับ  คนที่จะต่ออายุให้กับคณะผู้มีอำนาจนี้ได้  จำปากผมไว้นะ  คือคนเสื้อแดงที่ถูกใช้เป็นเหยี่อในสถานการณ์นี้

ผมอยู่ในกลไกที่เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย  เพราะฉะนั้นเมื่อเวลาที่เขาจะหายนะ  สิ่งแรกที่เขาจะต้องคิดถึง หนึ่งก็นายกฯ ทักษิณ  สองก็คนเสื้อแดง  พูดง่าย ๆ ว่าไปจัดการกับนายกฯ ทักษิณ หรือครอบครัวของนายกฯ ทักษิณ และก็คนเสื้อแดง  เพราะฉะนั้นวันที่เขาคิดถึงคนเสื้อแดง  เรียกให้คนเสื้อแดงออกมากระทำการตามความต้องการนั้นเพื่อต้องการไปต่ออายุให้

เพราะฉะนั้นกรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์  ผมจึงบอกว่าบางทีคิดไปช่วยยิ่งลักษณ์เท่ากับไปช่วย คสช. และไม่ได้ช่วยนายกฯ ยิ่งลักษณ์นะ  อาการเขาในขณะนี้  เขาจะอยู่ได้ด้วยคนเสื้อแดงที่ไปเป็นเหยื่อให้เขาอยู่ต่อ

จอม  :  แต่คนเสื้อแดงอยู่อย่างเงียบ  ไม่ได้แสดงออกอะไรเลย  เหมือนกับประหนึ่งว่ายอมทำตัวเป็นเด็กดีภายใต้อำนาจ คสช.   คสช. ก็อาจจะชะล่าใจแล้วก็อาจจะบอกว่าก็เรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร  แล้วสุดท้ายก็กดทับไปเรื่อยอย่างนี้มันก็ไม่มีพลังในการต่อรองในอนาคตอยู่ดี

จตุพร  :  แล้วถามว่าที่ผ่านมาคนเสื้อแดงเขาเงียบไหม?  ข้อเท็จจริงนะครับ  แต่ละคนก็ทำในบริบทของตัวเอง  การนิ่งมันอธิบายอะไร?  อธิบายว่าไม่นิ่งก็ได้  ถ้านิ่งได้  ซึ่งเป็นเรื่องยากที่สุด  ก็อธิบายต่อว่าไม่นิ่งก็ได้  และมีความน่ากลัวในทุกบริบท  เวลานี้อีกฝ่ายหนึ่งนั้นเขาประเมินถึงความน่ากลัวของกระบวนการคนเสื้อแดงในระยะปีเศษ  ที่ดูปรากฏการณ์ผมก็รู้เขาประชุมเขามีแนวความคิดกันอย่างไร  เพราะฉะนั้นการออกมาแหย่เพื่อให้เห็นอาการ  ว่าดูแล้วมันเป็นจริงตามที่เขาคาดการณ์หรือไม่  นี่มันเป็นตรรกะที่สูตรฝ่ายความมั่นคงเขาใช้กัน  ซึกพวกเราก็เป็นรัฐบาลหลายครั้ง  วิชาแบบนี้ผมเองก็สอบถามกันได้

เพราะฉะนั้น  ข้อเท็จจริงไม่มีคนเสื้อแดงที่ไหนเขาสยบยอม  แต่ว่าแต่ละพื้นที่เขาฉลาด  เขาเท่าทัน  แต่ว่าเขาจะเคาะแชทอะไรกันไม่ได้  แต่เขาตัดสินใจ  เขารู้ว่าเขาจะทำอย่างไร  อดทน  สั่งสม  รอคอย  แต่ไม่เคยหยุด  พวกผมแต่ละคนที่ยังเหลืออยู่ก็ทำหน้าที่อันนี้ทุกวัน  ได้อธิบายเรื่องประชาธิปไตยเพื่อที่จะเริ่มต้นไม่กลับเข้ามาสู่ในวงจรที่เรียกว่าวงจรอุบาทว์กันอีก  แต่ละคนก็มีความคิดอ่าน  แต่ไม่ต้องการความสะใจ  ไม่ต้องการชัยชนะจอมปลอมเพื่อรอวันพ่ายแพ้กันอีกแล้ว  อายุก็ครึ่งร้อยแล้วคุณจอม  คุณจอมเจอตั้งแต่ผมยังเด็กอยู่เลย  ตอนนี้ 50 กว่า เจอตั้งแต่อายุ 20 กว่า เห็นไหมเวลาแป๊ปเดียว  คุณวีระ 67 อาจารย์ธิดาไป 70 แล้ว  พวกผมมีเวลากันอีกสักเท่าไหร่

ผมรู้ว่าขบวนการนี้เราจะไม่ให้เป็นภาระของคนรุ่นลูกรุ่นหลาน  และขณะเดียวกันนั้น  ไม่ต้องการชัยชนะชั่วคราวเพื่อรอวันพ่ายแพ้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ชนะเลือกตั้งในวันที่กติกาไม่เป็นประชาธิปไตยไม่มีประโยชน์อะไร  ชะตากรรมก็เห็นกันอยู่ว่าปลายทางคืออะไร? 

วันนี้วันเริ่มต้นของประเทศไทยนั้นจะต้องเป็นวันที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง  มันจึงจะนับหนึ่งประเทศไทยกันได้  ไม่เป็นประชาธิปไตยก็ต้องสู้กันแบบนี้

จอม  :  สุดท้ายแล้ววันที่ 1 พ.ย. นี้คุณจตุพรก็ยังคงใส่เสื้อแดงไหมครับ?

จตุพร  :  ผมอยู่ในงานศพพระพี่ชายผมซึ่งวันนี้ก็มีการสวดพระอภิธรรมพระราชทานเพลง  วันที่ 1 เป็นวันเก็บอัฐิก็ทำบุญ  ก็อยู่ในบรรยากาศของขาว-ดำ

จอม  :  ก็แสดงความเสียใจด้วยนะครับ

จตุพร  :  ขอบคุณครับ

จอม  :  ก็คงขอบคุณมากนะครับที่ให้เกียรติและอธิบายในหลาย ๆ ข้อสงสัยในหลาย ๆ คำถามที่มวลชนคนเสื้อแดงเองก็มีคำถาม  ผมก็มีหน้าที่ในการเป็นสื่อกลางและถามคำถามนั้นแทนมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมากเหมือนกันที่อาจจะมีคำถามแล้วก็มีประเด็นที่อยากจะฟังคำอธิบายจากประธาน นปช.  ขอบพระคุณมากครับคุณจตุพรครับ สวัสดีครับ